ตอนที่ 251 มองดวงตาของคุณ
งานเลี้ยงต้อนรับมื้อนี้สิ้นสุดลงในเวลาสามทุ่ม
หัวหน้าจงเยวี่ยคอแข็งมาก เขาร่วมมือกับผู้ช่วยอีกสองคนช่วยกันต้านทานการผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาโจมตีของจางเต๋อ ลู่เฉิน และคนอื่นๆ ดื่มไวน์แดงหมดไปสี่ห้าขวด สุดท้ายก็เมาแค่เจ็ดแปดส่วนเท่านั้น
ทางกานเต๋อได้จองห้องพักไว้เรียบร้อยแล้ว ให้พักอยู่ในโรงแรมนี้นี่เอง
ลู่ซีเดินตามลู่เฉินมายังห้องพักเอ็กเซ็กคิวทีฟสวีทของเขา แล้วก็ยังมีเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มาด้วย
สองสาวก็ดื่มไปไม่น้อย หน้าแดงก่ำ นั่งตาปรืออยู่บนโซฟา พูดจากระซิบกระซาบ
ถึงแม้ลู่เฉินจะดื่มไปเยอะมากเช่นกัน แต่เขาฝึกดื่มมานานจนคอแข็งแล้ว เพราะฉะนั้นจึงมีสติมาก เลยไปต้มน้ำชงชาให้พวกเธอทั้งสองเพื่อที่จะได้สร่างเมา
ขณะที่กำลังง่วนอยู่ จู่ๆ ลู่ซีก็เอ่ยว่า “ลู่เฉิน แกนั่งลงก่อน ฉันมีเรื่องจะถามแก!”
สีหน้าของเธอเคร่งขรึมมาก
ลู่เฉินประหลาดใจ แต่ก็ยังนั่งลง “มีอะไรเหรอครับพี่”
“มีอะไรงั้นเหรอ”
ใบหน้าของลู่ซีเย็นชาเล็กน้อย เธอมองเฉินเฟยเอ๋อร์ที่เมาแล้วยิ้มหวานไม่ยอมหุบ ก่อนจะถามว่า “แกพูดความจริงมาเดี๋ยวนี้ แกกับพี่เฟยเอ๋อร์กำลังคบกันอยู่ใช่ไหม”
“อ๋า!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้เมาถึงขั้นฟังไม่รู้เรื่อง จึงหน้าแดงเต็มไปด้วยเลือดฝาดทันที
ถึงแม้เพื่อนที่รู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของทั้งสองคนจะมีอยู่สองสามคน แต่ลู่ซีเป็นพี่สาวของลู่เฉิน เป็นคนที่สนิทที่สุด
จึงไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
ลู่เฉินเงียบไปพักหนึ่ง ทันใดนั้นก็จับมือของเฉินเฟยเอ๋อร์ แล้วตอบอย่างจริงจังว่า “ใช่ครับ”
“เป็นแบบนี้จริงๆ ด้วย!”
จู่ๆ ลู่ซีก็หมดกำลังใจ
เธอสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมานานแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็ได้รับการยืนยันแล้ว
เธอรู้สึกแปลกนิดหน่อย
ในใจของลู่ซี ลู่เฉินเป็นเด็กจอมซนที่วิ่งตามก้นเธอเสมอมา ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว และนี่ก็คือสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้เธอเดินทางไกลมาช่วยลู่เฉินที่ปักกิ่ง
ทว่าตอนนี้จู่ๆ พี่สาวก็พลันพบว่า น้องชายของตัวเองเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ ไม่เพียงแต่มีกิจการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แถมยังหาคู่ชีวิตของเขาได้แล้ว
แต่ทำไมต้องเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์
ความรู้สึกของลู่ซีเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง…เธอกำลังจะมีน้องสะใภ้เป็นราชินีเพลงเหรอ
ถ้าหากพูดตามจริง เธอก็เป็นแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์เช่นกัน!
ลู่ซีภูมิใจในตัวของลู่เฉิน เพราะน้องชายของเธอมีความโดดเด่นมากพอ แต่ก็รู้สึกท้อแท้และเศร้าใจเล็กน้อย
ตอนที่ลู่เฉินจับมือของเฉินเฟยเอ๋อร์ยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนกับลู่ซี ความรู้สึกหอมหวานในใจของเฉินเฟยเอ๋อร์แทบจะระเบิดออกมา ตาที่ใสแป๋วแวววาวคล้ายกับคลื่นน้ำที่ไหลเขยื้อน เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความยินดีปรีดาที่พูดออกมาไม่ถูก
ในฐานะราชินีเพลงป็อป เธอไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยมาก่อน แต่หลังจากที่ก่อร่างสร้างรักกับลู่เฉินแล้ว เธอกลับมีความคิดวิตกกังวลเหมือนจะสูญเสียของรักอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าจะเกิดอุปสรรคของความรัก
ตอนนี้ความคิดที่ไม่น่าเชื่อถือเหล่านั้น มลายหายไปหมดแล้ว!
ลู่เฉินสัมผัสได้ถึงจิตใจของเฉินเฟยเอ๋อร์ในตอนนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะจับมือเล็กของเธอให้แน่นขึ้น
ลู่ซีเห็นอยู่ในสายตา จึงเอ่ยว่า “พี่เฟยเอ๋อร์ งั้นต่อไปพี่จะต้องดูแลลู่เฉินมากหน่อยนะคะ เขาเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ตอนแรกที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย…”
“อะแฮ่ม!”
ลู่เฉินคันลำคอ “พี่!”
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากยิ้ม “พี่ลู่ซี ฉันจะดูแลให้ดีค่ะ”
เธอเหลือบตามองลู่เฉินหนึ่งที ราวกับกำลังพูดว่า ’คราวนี้จับจุดอ่อนของนายได้แล้ว!’
อายุของเฉินเฟยเอ๋อร์มากกว่าลู่ซีสองสามปี แต่เนื่องจากความสัมพันธ์กับลู่เฉิน เพื่อให้สนิทสนมกันมากขึ้นดังนั้นเธอจึงเรียกลู่ซีว่าพี่สาวตามลู่เฉิน ไม่จำเป็นต้องถือสาเรื่องฐานะ
เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากมือของลู่เฉิน กอดแขนของลู่ซีแล้วพูดว่า “พี่ลู่ซี เย็นนี้พี่นอนกับฉันนะคะ จะได้เล่าเรื่องของเขาให้ฉันฟัง ได้ไหมคะ”
ในที่สุดลู่ซีก็หัวเราะ “ได้!”
ดังนั้นทั้งสองคนจึงลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งลู่เฉินที่ทำท่ากระอักกระอ่วนไว้ให้อยู่คนเดียว
เช้าวันถัดมา ทุกคนมารวมตัวที่โรงแรมอีกครั้ง นั่งรถที่ทางกานเต๋อจัดไว้ให้มุ่งหน้าไปยังโรงถ่าย
เนื่องจากมีหลายฝ่ายมาด้วยกัน จงเยวี่ยจึงไปเยี่ยมเยียนที่กองถ่ายละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก่อน จากนั้นก็ดูเนื้อหาสามตอนแรกที่ถ่ายทำเสร็จแล้วอย่างตั้งใจ
ถึงแม้กองถ่ายจะนำงานต้นฉบับที่ยังไม่ผ่านการตัดต่อและใส่เสียงประกอบใดๆ มาให้ดู แต่จงเยวี่ยในฐานะหัวหน้าฝ่ายรายการของสถานีโทรทัศน์ไห่จิน เขาเคยตรวจสอบและวินิจฉัยละครโทรทัศน์มาหลายตอน จึงมีสายตาที่เฉียบคมมาก
บทละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ รวมทั้งเนื้อหาฉบับนิยายที่อัปเดตทุกวันในบล็อกของลู่เฉิน จงเยวี่ยเคยอ่านมาหมดแล้ว แต่นิยายกับละครที่ถ่ายทำออกมานั้นเป็นคนละเรื่องกัน
บทละครกับเรื่องราวที่ดี ถูกผู้กำกับและนักแสดงทำเสียก็มีเยอะถมไป!
ถึงแม้ทางสถานีโทรทัศน์ไห่จินตัดสินใจแล้วว่าจะนำละครเรื่องนี้ไปฉาย แต่จงเยวี่ยก็ยังคงตรวจสอบด้วยสายตาที่เฉียบแหลมเหมือนเดิม…เขาต้องรับผิดชอบงานของตัวเอง
และผลของการตรวจสอบ ก็ทำให้จงเยวี่ยตกใจมาก
ละครเรื่องนี้ต้องดังเป็นพลุแตกแน่!
เรื่องราวสามตอนแรกน่าดึงดูดมาก เริ่มจากเด็กทารกถูกสลับตัว เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาทำให้คนปรารถนาที่จะดูต่อไป
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การแสดงของลู่เฉินที่ปรากฏตัวในตอนท้ายของตอนที่สาม เขาแสดงได้สวยงามและน่าทึ่ง!
ถูกแล้ว สวยงามและน่าทึ่ง!
นับตั้งแต่ที่ลู่เฉินโปรโมตละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ซึ่งเขียนบทละครเองและแสดงบทพระเอกเองด้วยนั้น เสียงเคลือบแคลงสงสัยทั้งในและนอกวงการไม่เคยหายไป…ในฐานะนักร้องหนุ่มที่เดบิวต์ไม่นานคนหนึ่ง เขาจะสามารถแสดงละครได้เรอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar