ตอนที่ 252 ไม่มองการณ์ไกล
สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ณ เมืองปักกิ่ง
ตอนเช้า เวลาเจ็ดโมงห้าสิบห้านาที จูเซ่าไท่มาถึงฝ่ายรายการของช่องวาไรตี้ตรงเวลาเหมือนปกติทุกวัน
“สวัสดีตอนเช้าหัวหน้าจู!”
ภายในออฟฟิศมีเพื่อนร่วมงานหลายคนเริ่มทำงานกันแล้ว พอเห็นหัวหน้าจูต่างก็ทยอยกันทักทาย
จูเซ่าไท่พยักหน้าขานรับตามมารยาท เดินอกผายไหล่ผึ่งเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของเขา
ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายรายการของช่องวาไรตี้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง เขาขยันต่อสู้ทำงานมายี่สิบปีถึงจะได้ตำแหน่งในทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นจึงทะนุถนอมเป็นพิเศษ ไม่เคยมาสายไม่เคยเลิกงานก่อนเวลา
ถึงแม้จะไม่มีธุระอะไร เขาก็ยินดีที่จะนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังอย่างสบาย ดื่มน้ำชารสเข้มข้น อ่านรายงานตอนเช้าของวันนี้อย่างสบายใจ เพื่อทำความเข้าใจข่าวที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศเมื่อวานนี้
กาน้ำชาอุ่นๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานใส่น้ำร้อนเรียบร้อย ถ้วยน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะก็ล้างอย่างสะอาดสะอ้านหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่เอี่ยมที่มีกลิ่นของน้ำหมึกกระจายออกมาวางกองเป็นชั้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เริ่มต้นวันที่สวยงามอีกหนึ่งวัน!
จูเซ่าไท่ขยับรูปร่างที่สูงใหญ่กำยำนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่อย่างสบาย แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งขึ้นมาเปิดอ่าน…วันนี้มีงานที่ต้องจัดการน้อยมาก สามารถผ่อนคลายได้
ตอนที่จูเซ่าไท่ดื่มน้ำชาและอ่านหนังสือพิมพ์จบ ก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้ว
เขาวางถ้วยน้ำชา อ้าแขนทั้งสองข้างยืดเส้นยืดสาย จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์
ตอนนี้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งกำลังส่งเสริมองค์กรไร้กระดาษ เอกสารภายในองค์กรอย่างประกาศ ตารางงานของแผนกเป็นต้น ล้วนส่งต่อผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการจัดการงานต่างๆ ด้วย
เขาใส่รหัสของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว หลังจากเข้าไปหน้าเดสก์ท็อปแล้ว จูเซ่าไท่ก็เปิดบันทึกงานประจำวันของตัวเอง
หลังจากอนุมัติเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญไปสองเรื่อง ทันใดนั้นเขาก็นึกออกเรื่องหนึ่ง
รองหัวหน้าฝ่ายรายการคนนี้จึงขมวดคิ้ว ยื่นมือหยิบโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ แล้วกดหมายเลขภายใน
โทรศัพท์ถูกรับสายอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าจู สวัสดีครับ!”
เสียงที่อยู่ปลายสายดูเคารพนบนอบมาก
คิ้วของจูเซ่าไท่คลายลง นิ้วชี้ข้างซ้ายเคาะบนโต๊ะเบาๆ แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ “เสี่ยวจาง ตอนนี้คุณมาที่ห้องทำงานของผมหน่อย”
“ครับ หัวหน้า!”
ผ่านไปสักพัก ประตูห้องก็ถูกคนเคาะเบาๆ
จูเซ่าไท่พูดเสียงหนัก “เชิญเข้ามา”
ชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบปีผลักประตูเดินเข้ามา แล้วถามว่า “หัวหน้าจู คุณเรียกผมเหรอครับ”
“ใช่…”
จูเซ่าไท่ชี้ไปที่โซฟา แล้วกล่าวว่า “นั่งสิ รินน้ำชาดื่มเองนะ”
ชายหนุ่มแซ่จางขานรับหนึ่งที หยิบกาน้ำชาอุ่นๆ มารินจนเต็มถ้วยให้จูเซ่าไท่ก่อน จากนั้นก็ไปนั่งที่
จูเซ่าไท่พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วถามว่า “เสี่ยวจาง ผมเรียกคุณมาเพราะอยากถามคุณเรื่องหนึ่ง คุยกับกานเต๋อพิคเจอร์สเป็นยังไงบ้าง อีกฝ่ายยังคงยืนกรานเงื่อนไขของพวกเขาใช่ไหม”
“กานเต๋อพิคเจอร์ส?”
ชายหนุ่มแซ่จางตกตะลึง แล้วถามว่า “คุณหมายถึงการซื้อละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ใช่ไหมครับ”
จูเซ่าไท่ไม่พอใจเล็กน้อย “หรือว่ายังมีเรื่องอื่นอีก”
ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นการลงทุนถ่ายทำร่วมกันของสามฝ่ายคือกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส สตูดิโอเฉินเฟยเอ๋อร์ และสตูดิโอลู่เฉิน ช่องวาไรตี้ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอยากนำละครรักของคนเมืองเรื่องนี้ซึ่งกำลังเป็นกระแสดังอยู่ในขณะนี้เข้ามาฉาย
คราวที่แล้วตอนที่ลู่เฉินมาร่วมรายการ ‘สัมภาษณ์คนดัง’ ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง จูเซ่าไท่ก็เคยพูดเรื่องนี้ต่อหน้าลู่เฉิน หลังจากนั้นก็ได้เจรจาเรื่องการขอซื้อสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรก เพียงแต่ฝ่ายที่มาเจรจาด้วยกลับเปลี่ยนเป็นกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส
กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สไม่ใช่บริษัทใหญ่ในวงการ อีกทั้งละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็ไม่ใช่ละครฟอร์มยักษ์ แน่นอนว่าจูเซ่าไท่ไม่เจรจาต่อรองกับอีกฝ่ายด้วยตัวเอง แต่มอบหน้าที่ให้กับเสี่ยวจางลูกน้องของเขาคนนี้
สำหรับความสามารถของเสี่ยวจาง จูเซ่าไท่รู้สึกเชื่อใจมาก
ทว่าวันนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไร ทำให้หัวหน้าจูแอบไม่พอใจ
เสี่ยวจางรีบอธิบาย “หัวหน้าจู เมื่อวานผมส่งรายงานให้คุณแล้วครับ สงสัยคอมพิวเตอร์จะมีปัญหา คุณอาจจะยังไม่ได้รับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับไปส่งให้อีกฉบับนะครับ!”
“หืม?”
จูเซ่าไท่ตกใจเล็กน้อย รีบเปิดอีเมลภายในทันที และแล้วก็หาอีเมลของเสี่ยวจางจนเจอ
เขาเป็นคนทำพลาดเอง!
หัวหน้าจูหน้าแดง กระแอมหนึ่งทีแล้วเอ่ยว่า “คราวหน้าระวังหน่อยนะ ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็ลองเล่าสถานการณ์หน่อยสิ!”
เสี่ยวจางกล่าวว่า “กานเต๋อพิคเจอร์ส ขายสิทธิ์ในการออกอากาศครั้งแรกของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ให้กับสถานีโทรทัศน์ไห่จินแล้วครับ”
“สถานีโทรทัศน์ไห่จินเรอะ”
หัวหน้าจูรู้สึกเจ็บฟันเล็กน้อย “จะเป็นสถานีโทรทัศน์ไห่จินได้ยังไง”
เขารู้ว่ามีหลายสถานีที่สนใจละครใหม่อย่าง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และคู่ต่อสู้ที่มีกำลังมากที่สุดก็คือสถานีโทรทัศน์เจ้อตงอย่างไม่ต้องสงสัย ช่องภาพยนตร์โทรทัศน์ของฝ่ายหลังสนใจอยากจะนำเข้าละครเรื่องนี้
เหตุผลที่สถานีโทรทัศน์เจ้อตงสนใจละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ สามารถอธิบายได้ง่ายมาก นอกจากเฉินเฟยเอ๋อร์ราชินีเพลงป็อปที่เป็นนางเอกแล้ว ประเด็นสำคัญคือลู่เฉินเป็นคนเจ้อตง และคราวที่แล้วเขาก็ได้ช่วยชีวิตเถียนเถียนพิธีกรรายการของสถานีโทรทัศน์เจ้อตงเอาไว้ จึงมีชื่อเสียงในมณฑลแห่งนี้มาก
เขาเป็นคนเขียนบทและเล่นละครเรื่องนี้ด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็ยังสามารถรับประกันเรตติ้งผู้ชมส่วนหนึ่งของมณฑลได้
แต่จากสถานการณ์ที่จูเซ่าไท่รู้มา ราคาที่สถานีโทรทัศน์เจ้อตงเสนอก็ไม่ได้มากไปกว่าสถานีของเขา กานเต๋อจึงไม่พอใจ
สถานีโทรทัศน์ไห่จินเป็นบ้าอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar