ตอนที่ 253 คู่รักคัฟเวอร์เพลงโชว์
บล็อกล่างฉาว
‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เวอร์ชันนิยายได้อัปเดตติดต่อกันยี่สิบวันในบล็อกของลู่เฉิน อัปเดตสามพันคำต่อวัน จนถึงตอนนี้มีถึงหกหมื่นคำแล้ว เป็นเนื้อหาของตอนที่สี่พอดี
เจ้าของบล็อกที่อัปเดตนิยายในบล็อกล่างฉาวมีจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะมาจากความชอบส่วนตัว หรืออยากจะได้แฟนคลับผ่านบล็อกก็ตาม นิยายในบล็อกกลายเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรมออนไลน์ไปแล้ว
วรรณกรรมออนไลน์ในประเทศจีนเริ่มขึ้นในปี 2000 ในปัจจุบันได้พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เว็บไซต์วรรณกรรมขนาดใหญ่หลายสิบแห่ง โดยเฉพาะผลงานลิขสิทธิ์ที่ได้รับความนิยมสูงในหลายปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มความนิยมของวรรณกรรมออนไลน์ให้สูงขึ้น นักเขียนออนไลน์ระดับชั้นนำมีรายได้หลายสิบล้านต่อปี
แต่เผอิญว่ามูลค่าของลิขสิทธิ์ที่ยิ่งนานวันยิ่งสูงขึ้น เว็บไซต์วรรณกรรมส่วนใหญ่จึงเข้มงวดกับเรื่องลิขสิทธิ์มาก สัญญาที่เซ็นกับนักเขียนจะครอบคลุมลิขสิทธิ์ทั้งหมด ดังนั้นนักเขียนหลายคนที่ไม่ยอมถูกจำกัดสิทธิ์จึงย้ายแพลตฟอร์มไปยังบล็อก ฟอรัม หรือในโมเมนต์เฟยซวิ่นที่มีความอิสระมากขึ้น
แน่นอนว่าหากสูญเสียการสนับสนุนของแพลตฟอร์มที่เติบโตแล้ว อยากจะทำกำไรโดยการขายลิขสิทธิ์ ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก
ลู่เฉินอัปเดต ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในบล็อกล่างฉาว ประเด็นหลักคือเพื่อโปรโมตและสร้างกระแสให้กับละครที่กำลังถ่ายทำอยู่เรื่องนี้ รองลงมาคือเพื่อปูทางไปสู่การออกนิยายแบบรูปเล่ม
นิยายแบบรูปเล่มในประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับการละเมิดลิขสิทธิ์บนอินเทอร์เน็ต สถานการณ์ของตลาดฉบับตีพิมพ์ถือว่าค่อนข้างดี มีนักเขียนนิยายตัวจริงจำนวนมากที่มีรายได้หลายร้อยล้านต่อปี
โพสต์อัปเดตนิยาย ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในบล็อกล่างฉาว ต้องการดึงดูดแฟนคลับของลู่เฉินเป็นหลัก โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบละครรักของคนเมืองประเภทนี้
แท้จริงแล้วแฟนคลับแนวนี้ถือว่าไม่เยอะมาก
ดังนั้นตอนเริ่มต้น ยอดกดไลก์ ยอดแชร์ และยอดคอมเมนต์ในบล็อกโพสต์นิยายของลู่เฉินจึงไม่สูงมาก แต่ความนิยมก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
สาเหตุสำคัญ ก็ยังเป็นเพราะเรื่องราวของนิยายเรื่องนี้ โดยเฉพาะพวกสาวๆ โชคชะตาที่ผิดพลาด และความรู้สึกที่เกี่ยวพันกันระหว่างตัวละครเอกสองสามคนมันดึงดูดพวกเธอเป็นอย่างมาก ต้องติดตามอ่านและวิจารณ์ทุกวัน
แฟนคลับสาวๆ มากมายเริ่มทำตัวเป็นมือรับจ้างโพสต์ให้ฟรีๆ พวกเธอนำโครงเรื่องที่เรียบเรียงเรียบร้อยแล้วโพสต์ไปยังฟอรัมวรรณกรรมใหญ่ๆ หลายแห่ง และยังสร้างหน้าเว็บนิยายเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ขึ้นมา
ขณะที่ลู่เฉินกับสตูดิโอลู่เฉินไม่ได้สังเกตนั้น จำนวนสมาชิกของหน้าเว็บนิยายเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กลับพุ่งทะลุถึงห้าหมื่นคน จำนวนการโพสต์มีมากกว่าหนึ่งแสนโพสต์ ไม่ด้อยไปกว่านิยายออนไลน์ที่โด่งดังมากมาย
และการแพร่กระจายนิยายก็ดึงดูดแฟนคลับขาจรได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจำนวนมวลชนที่รอคอย ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เวอร์ชันละครโทรทัศน์จึงเพิ่มสูงขึ้น
วันที่ 1 เดือนธันวาคม ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส และสถานีโทรทัศน์ไห่จินต่างโพสต์ข้อมูลในบล็อกของตัวเอง บอกว่าละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับสถานีโทรทัศน์ไห่จิน และจะออกอากาศครั้งแรกทางช่องสัญญาณดาวเทียมช่องที่หนึ่งในวันเสาร์ที่ 12 เดือนธันวาคม เวลาสองทุ่มครึ่ง!
สำหรับแฟนคลับมากมายของลู่เฉินรวมทั้งแฟนคลับนิยายเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ข่าวนี้มีความหมายว่าในที่สุดสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องรอคอยมานานก็มาแล้ว ดังนั้นละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จึงกลายเป็นคำค้นหายอดฮิตในหน้าแรกของบล็อกล่างฉาวอย่างรวดเร็ว
วันที่ 2 เดือนธันวาคม บัญชีวีไอพีของดาราดังสองคนกับบัญชีทางการวีไอพีของสองบริษัท ได้ปล่อยตัวอย่างละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ออกมาพร้อมกัน
ตัวอย่างละครเรื่องนี้มีความยาวสามนาที และเพลง ‘ดวงตาของคุณ’ ก็ถูกเปิดตัวเป็นเพลงประกอบหลักอย่างเป็นทางการ!
แนวโน้มของการโปรโมต ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เวอร์ชันละครจึงโด่งดังไปทั่วด้วยเหตุนี้!
อุตสาหกรรมภาพยนตร์โทรทัศน์ในประเทศจีนเจริญรุ่งเรืองเป็นประวัติการณ์ เงินทุนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก การแข่งขันสามารถพูดได้ว่าดุเดือดอย่างหาที่เปรียบมิได้
ละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่ง ถึงแม้จะมีผู้กำกับใหญ่ ดาราตัวท็อป ผลงานลิขสิทธิ์ที่ได้รับความนิยมสูง ถ้าหากไม่มีการสร้างกระแสก็ไม่ใช่เรื่องที่จะจินตนาการได้ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็จะไม่ทำเรื่องที่โง่เขลาแบบนี้
สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก เป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว เมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อนยุคสมัยที่ละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งได้รับเรตติ้งผู้ชมสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ตอนนี้เป็นยุคใหม่ของการตลาดมวลชน!
ก่อนหน้านั้นที่ลู่เฉินอัปเดตนิยายในบล็อก และยังแง้มข่าวว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ร่วมทัพแสดงเป็นนางเอก แท้จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดละครโทรทัศน์
แต่พวกนี้เป็นเรื่องเล็กๆ เท่านั้น
ถ้าอยากจะแข่งขันแย่งชิงเรตติ้งผู้ชม การโฆษณาแบบนี้ยังไม่มากพอ!
ดังนั้นตัวแทนทั้งสี่ฝ่ายอันประกอบด้วยลู่เฉินสตูดิโอ เฉินเฟยเอ๋อร์สตูดิโอ กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส และสถานีโทรทัศน์ไห่จินจึงมานั่งรวมกันอีกครั้ง เพื่อปรึกษาหารือขยายการโปรโมตโฆษณา
ช่องทางการโฆษณาของฝ่ายลงทุนกับฝ่ายออกอากาศถึงแม้จะไม่เหมือนกัน แต่การตกลงเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แบบนี้สามารถหลีกเลี่ยงการโฆษณาผิดที่และโฆษณาที่มีความขัดแย้งกันได้ อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดเงินทุนโฆษณาได้สูงมาก
การประชุมหารือยังคงจัดขึ้นที่โรงแรมใหญ่ที่โรงถ่ายจินหลิงเหมือนเดิม และลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ที่กำลังถ่ายทำละครอย่างตึงเครียดก็เจียดเวลามาร่วมด้วย
ประเด็นสำคัญที่ทุกคนหารือกัน นอกจากเงินทุนโฆษณากับขนาดของการลงทุนแล้ว หัวใจหลักคือกลยุทธ์การโฆษณา
กลยุทธ์การโฆษณาสำคัญมาก การวางแผนโฆษณาที่ดี สามารถทำให้ประสิทธิผลของการโฆษณาจากเงินลงทุนหนึ่งหยวนกลายเป็นสิบหยวนกระทั่งหนึ่งร้อยหยวนได้ แต่หากไม่ดีก็จะได้ผลในทางตรงกันข้าม
โดยเฉพาะในยุคอินเทอร์เน็ตอย่างทุกวันนี้ ประชาชนเห็นการทิ้งระเบิดโฆษณาซี้ซั้วรูปแบบต่างๆ ของสื่อมีเดียมานานจนเคยชินแล้ว วิธีการสร้างกระแสโปรโมตที่โผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสายก็เห็นจนไม่รู้สึกแปลกแล้ว งานของนักการตลาดออนไลน์จึงยากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นจำเป็นต้องรวบรวมสติปัญญาของทุกคน คิดไอเดียใหม่ๆ ออกมา
ไม่ว่าอย่างไรเวลาของการโฆษณาช่วงแรกก็สั้นมาก
พี่จางเสนอว่า “เอาอย่างนี้ดีไหมพวกเราสร้างกระแสข่าวลือของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นไง”
ชื่อจริงของพี่จางคือจางเจี๋ย เธอเป็นผู้ช่วยของเฉินเฟยเอ๋อร์ อยู่ข้างกายเฉินเฟยเอ๋อร์เกินสิบปีแล้ว
เธอไม่ใช่ผู้ช่วยคนแรกของเฉินเฟยเอ๋อร์ แต่เป็นคนข้างกายที่ได้รับความเชื่อใจมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้หญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบปีคนนี้มีหน้าตาธรรมดา พูดจาเสียงเบา ปกติไม่ค่อยพูด แต่การสนับสนุนและการช่วยเหลือเฉินเฟยเอ๋อร์ของเธอยากที่คนอื่นจะไล่ทัน เพราะฉะนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์จึงให้ความสำคัญต่อความคิดของเธอเป็นอย่างมาก
พี่จางก็เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย พอเอ่ยปากก็วางระเบิดทันที
สายตาของทุกคนโฟกัสไปที่ตัวของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar