(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 256

ตอนที่ 256 ปะทะ

ณ ชุมชนจิ่งเซิ่ง เมืองปินไห่

เวลาสองทุ่ม พระจันทร์ลอยอยู่บนท้องนภายามราตรี แสงจันทร์สุกสกาวสว่างไสวส่องประชันกับแสงไฟสว่างจ้าตามบ้านเรือนนับหมื่นของผู้คน สายลมเย็นพัดมา เกิดคลื่นน้ำใสแจ๋วหลายจุดบนทะเลสาบเทียมของชุมชน เป็นภาพที่เงียบสงบมาก

ประตูใหญ่ของวิลล่าตระกูลลู่เปิดออก ฟางอวิ๋นออกมาส่งแขกสองคน

เธอกล่าวกับผู้หญิงวัยกลางคนรูปร่างอวบอ้วนคนหนึ่งว่า “พี่หวัง พวกคุณกลับดีๆ นะคะ ระวังตัวด้วยค่ะ”

“ได้ เสี่ยวอวิ๋นเธอไม่ต้องส่งแล้ว พวกเรากลับเองได้”

ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตามีราศี ยิ้มกริ่มตาเป็นสระอิ แอบใช้ศอกกระแทกผู้ชายวัยกลางคนในชุดสูทที่ยืนอยู่ข้างๆคนหนึ่ง

ผู้ชายวัยกลางคนคนนี้อายุสี่สิบกว่าปี คิ้วหนาตาโตโครงหน้าเหลี่ยมมาตรฐาน เห็นได้ชัดว่าผมที่ย้อมถูกหวีอย่างเป็นระเบียบ ใส่น้ำมันใส่ผมเล็กน้อย เวลาส่องกระทบกับแสงไฟสะท้อนประกายเหมือนกับทาแว็กซ์ก็ไม่ปาน

เขาจ้องมองฟางอวิ๋น นัยน์ตาเผยแววตารุ่มร้อนที่ยากจะสังเกตเห็นออกมาแวบหนึ่ง

ฟางอวิ๋นมีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องความสวยตั้งแต่ตอนเป็นสาว ลู่ซี ลู่เฉิน และลู่เสวี่ยที่เกิดจากเธอกับคุณพ่อลู่ล้วนมีความโดดเด่น เพราะฉะนั้นยีนของพวกเขาจึงดีมากเป็นธรรมดา

ถึงแม้ครอบครัวจะเกิดวิกฤตเมื่อสองปีที่ผ่านมา ใบหน้าของฟางอวิ๋นดูโทรมและแก่ขึ้นไม่น้อย แต่หลังจากที่ลู่เฉินใช้หนี้สินก้อนโตเท่าภูเขาของครอบครัวหมดแล้ว และซื้อวิลล่าของครอบครัวกลับมา เธอไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยทุกค่ำเช้าอีกต่อไป ใบหน้าจึงฟื้นฟูกลับมาดังเดิม มีมาดโดดเด่นไม่เหมือนใครอีกครั้ง

โดยเฉพาะเธอที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูกับท่าทางยิ้มเล็กน้อยส่งแขกแบบนี้ ช่างสวยงามมากเป็นพิเศษ

ผู้ชายหน้าเหลี่ยมมาตรฐานถูกดึงดูดโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้สติกลับมาตอนที่ถูกพี่หวังสะกิด จึงรีบเอ่ยว่า “คุณฟางครับ คืนนี้รบกวนแล้วจริงๆ ผมอยากเลี้ยงข้าวเย็นคุณวันพรุ่งนี้…”

“ไม่เป็นไรค่ะ!”

เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกฟางอวิ๋นตัดบทก่อน “ขอบคุณในน้ำใจของคุณค่ะ แต่ฉันต้องคอยดูลูกสาวทำการบ้านตอนเย็น ดังนั้นต้องขอโทษด้วยค่ะ”

ถึงแม้ปากจะพูดแบบเกรงใจ แต่ใบหน้าของฟางอวิ๋นไม่มีความเกรงใจเลยสักนิด กระทั่งเย็นชาเล็กน้อย

ผู้ชายหน้าเหลี่ยมมาตรฐานถูกปฏิเสธจึงทำตัวไม่ถูก ทำสีหน้าเหนียมอายไม่หยุด

พี่หวังเห็นท่าไม่ดี จึงคิดจะพูดแก้สถานการณ์สักสองประโยค

ผลสรุปว่าฟางอวิ๋นไม่ให้โอกาสเธอได้พูด หมุนตัวกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ปิดประตูใหญ่ไปเลย

สองคนที่อยู่นอกประตู จึงได้แต่กลับไปด้วยความโกรธเคือง

ฟางอวิ๋นนั่งบนโซฟา ถอนหายใจเบาๆ อดเอามือไปนวดคลึงหว่างคิ้วไม่ได้

เมื่อครู่พี่หวังคนนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานในแผนกของเธอ ปกติก็ชอบเป็นแม่สื่อให้คนอื่น คนหน้าเหลี่ยมนั่นคือญาติห่างๆ ของเธอ เป็นรองผู้ว่าการอยู่ในตำบลแห่งหนึ่งของเมืองปินไห่

พี่หวังอยากแนะนำญาติห่างๆ คนนี้ที่ได้ยินว่าเพิ่งหย่าร้างเมื่อสองสามปีก่อนให้กับฟางอวิ๋น หลังจากถูกฟางอวิ๋นปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมไปแล้วจึงมาหาที่บ้านโดยตรง ฟางอวิ๋นเลยต้องแสร้งทำเป็นต้อนรับขับสู้

เพราะเป็นเพื่อนร่วมงานแผนกเดียวกัน เจอหน้ากันบ่อย ฟางอวิ๋นจึงต้องไว้หน้าบ้าง

แต่อีกฝ่ายอยากอาศัยโอกาสนี้ตีสนิท เธอจึงปฏิเสธไปตามตรงโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ไม่อย่างนั้นถ้าหากเกิดพัวพันขึ้นมาจริงๆ จะต้องยุ่งยากมากเป็นแน่

อีกทั้งเมื่อก่อนพี่หวังก็ไม่เคยกระตือรือร้นขนาดนี้ ตอนนี้อยากจะมาเอาใจ ไม่รู้ว่าเธอมีเจตนาอะไรกันแน่

หลังจากลู่ชิ่งเซิงตายไป ถึงแม้จะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เธอก็ไม่เคยพึ่งพาใคร เธอมีลูกสาวลูกชายที่เชื่อฟังก็พอแล้ว

ชีวิตความเป็นอยู่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ลู่เฉินกับลู่ซีก็มีอนาคตสดใส ฟางอวิ๋นจึงไม่คิดอย่างอื่น

เธอไม่อยากแต่งงานอีก ไม่คิดแม้แต่นิดเดียว

อีกสองปีลู่เสวี่ยก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เธอต้องคิดเรื่องใหญ่ในชีวิตของลู่ซีกับลู่เฉิน อนาคตยังต้องเลี้ยงหลาน…

ฟางอวิ๋นพอใจกับชีวิตแบบนี้มาก

เพียงแต่ตอนนี้ลู่เฉินเป็นดาราไปแล้ว ได้ยินว่าดาราแต่งงานช้า ไม่อย่างนั้นจะกระทบต่ออาชีพการงาน

ส่วนเรื่องมีลูก ก็ไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไรเหมือนกัน!

ทางด้านลู่ซีก็ช่วยดูแลจัดการสตูดิโอของน้องชายอยู่ที่ปักกิ่ง จึงยุ่งเป็นปกติขนาดเวลาโทรศัพท์มาหาก็พูดไม่ถึงสองสามนาที แล้วแบบนี้จะหาแฟนที่เหมาะสมได้เมื่อไร

ฟางอวิ๋นยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีเรื่องให้เป็นห่วงไม่รู้จบ

“แม่!”

ขณะที่ฟางอวิ๋นกำลังเหม่อลอย ลู่เสวี่ยวิ่งกระโดดหยองๆ ลงมาจากข้างบน

เธอยืนอยู่บนบันไดชะโงกศีรษะมองห้องนั่งเล่น เห็นฟางอวิ๋นอยู่คนเดียวจึงโล่งใจทันที “ตัวน่ารำคาญสองคนกลับไปแล้วเหรอคะ”

ฟางอวิ๋นพูดดุ “ห้ามพูดจาไม่มีมารยาทแบบนี้ หรือว่าก้นมันคันนัก”

ลู่เสวี่ยวิ่งลงมานั่งข้างเธอ กอดแขนของแม่ยิ้มหน้าทะเล้น แล้วเอ่ยว่า “ก็ไม่ชอบจริงๆ นี่คะ โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้น น่าขยะแขยงจริงๆ ทำเอาหนูกินข้าวไม่ลง!”

เธอแสร้งทำท่าน่ารักไร้เดียงสา จึงไม่มีใครอยากตำหนิเธอ

ฟางอวิ๋นส่ายหน้าอย่างจนใจ

ญาติห่างๆ คนนั้นของพี่หวังจะว่าแย่ก็ไม่ใช่ แต่ฟางอวิ๋นไม่ชอบสายตาของอีกฝ่ายเอามากๆ

เธอไม่อยากพูดถึงคนคนนั้นอีก จึงเอ่ยว่า “ลูกจะดูโทรทัศน์ไม่ใช่เหรอ ไปเปิดเองแล้วกัน!”

“ใช่ค่ะ!”

ลู่เสวี่ยกระโดดสูงสามฟุต “ใกล้จะเริ่มแล้ว!”

คืนนี้เวลาสองทุ่มครึ่ง ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของลู่เฉินและยังเล่นเป็นนักแสดงนำด้วยตัวเอง จะออกอากาศครั้งแรกในช่องสัญญาณดาวเทียมของสถานีโทรทัศน์ไห่จิน เธอจะต้องดูให้ได้ เพื่อให้กำลังใจพี่ชายของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar