ตอนที่ 308 ข่าวดี
วันที่แปดหลังจากวันขึ้นปีใหม่จีน บริษัทน้อยใหญ่ในเมืองหลวงเริ่มเปิดทำการแล้ว
บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดก็เช่นกัน เพียงแต่เหนือประตูด้านหน้าของชั้นล่างยังมีป้ายยาวเขียนว่า ‘สุขสันต์วันตรุษจีน’ แขวนไว้ โคมไฟสีแดงเรียงรายเป็นแนวยาวยังคงบรรยากาศรื่นเริงของวันขึ้นปีใหม่ บนพื้นมีเศษประทัดสีแดงเกลื่อนกลาด
ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์มาเยือนที่นี่ด้วยกัน หลินจื้อเจี๋ยกับรองประธานของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดคนหนึ่งมาต้อนรับที่หน้าประตู
การต้อนรับแบบนี้ทำให้ลู่เฉินรู้สึกแปลกประหลาด
เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นเพื่อนของหลินจื้อเจี๋ย ทั้งสองฝ่ายสนิทสนมกันดี มาเยือนบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง แม้ลู่เฉินมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาก แต่ก็ไม่จำเป็นต้องให้การต้อนรับเป็นทางการขนาดนี้
เมื่อคนปฏิบัติด้วยพิธีรีตอง แสดงว่าต้องมีเรื่องมาร้องขอ?
ลู่เฉินคิดอยู่ในใจ ถามยิ้มๆ ว่า “พี่หลิน พวกพี่ทำอะไร ทำไมต้องเกรงใจขนาดนี้ ครั้งหน้าผมไม่กล้ามาแล้ว!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้ม “นั่นน่ะสิ พี่หลินเห็นเราเป็นคนอื่นคนไกลไปได้”
หลินจื้อเจี๋ยหัวเราะ “ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ พวกเธอสองคนเป็นแขกกลุ่มแรกที่มาในปีใหม่นี้ แน่นอนว่าต้องให้ความสำคัญมากหน่อย ฉันยังไม่ได้แสดงความยินดีกับลู่เฉินที่ได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมกับรางวัลนักประพันธ์ทำนองยอดเยี่ยมเลย ตอนนั้นไม่ได้ไป เสียดายมาก!”
หลินจื้อเจี๋ยมีสิทธิ์เข้าร่วมพิธีมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ในฐานะผู้อำนวยการเพลงของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด แต่เขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อวาน จึงไม่ทันไปร่วมงาน
แสดงความยินดีตอนนี้ยังไม่สาย
ลู่เฉินยิ้ม “ขอบคุณครับ”
คนทั้งกลุ่มพูดคุยหัวเราะกันจนไปถึงห้องประชุมของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด
เพราะเฉินเฟยเอ๋อร์ได้แจ้งล่วงหน้า ทางบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดจึงเตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้ว ในห้องประชุมมีพนักงานที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดหลายคนนั่งรออยู่แล้ว บนหน้าจอโทรทัศน์แขวนผนังขึ้นข้อความว่า ‘งานประชุมการทำอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ อัลบั้มบุปผานารี’
เมื่อเห็นว่าลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เข้ามา คนเก่งของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดพร้อมใจกันยืนขึ้นต้อนรับทักทาย
บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดให้ความสำคัญกับอัลบั้มใหม่ที่เปลี่ยนสไตล์เพลงของเฉินเฟยเอ๋อร์มาก ตั้งใจจะให้เป็นการเริ่มต้นปี 2016 ที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นจึงจัดตั้งทีมงานคุณภาพที่มีหลินจื้อเจี๋ยเป็นผู้นำ มารับหน้าที่ดูแลการผลิตและการจัดจำหน่ายอัลบั้มใหม่โดยเฉพาะ
อัลบั้มใหม่นี้มีชื่อเดียวกับเพลง ‘บุปผานารี’ เพลงนี้เป็นเพลงที่ลู่เฉินเขียนให้เฉินเฟยเอ๋อร์โดยเฉพาะ และเป็นเพลงหลักของอัลบั้ม ตามแผนจะเริ่มเตรียมการถ่ายทำมิวสิควิดีโอในสัปดาห์หน้า
งานประชุมในวันนี้เป็นการปรึกษาหารือเรื่องการทำอัลบั้ม การโปรโมต เป็นต้น เพราะเฉินเฟยเอ๋อร์มีสตูดิโอของตัวเอง อัลบั้มใหม่จึงจ้างงานนอกให้บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดเป็นผู้จัดการ ซึ่งย่อมมีปัญหาเรื่องความร่วมมืออยู่มาก
เมื่อมีลู่เฉินเข้าร่วมด้วย ยิ่งต้องการการประสานงานด้านต่างๆ
ผู้เข้าร่วมประชุมนอกจากลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และหลินจื้อเจี๋ยแล้ว ยังมีโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักเรียบเรียงเพลง ฝ่ายห้องอัด และฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเฟยสือเรคคอร์ด
การประชุมใช้เวลาไปประมาณสองชั่วโมง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยมิตรภาพ
ลู่เฉินไม่พูดมาก แต่ไม่มีใครกล้าละเลยการมีตัวตนของเขา เขาคนเดียวรับผิดชอบเพลงครึ่งอัลบั้ม ทั้งยังร่วมดูแลเรื่องการเรียบเรียงเพลงและการควบคุมการผลิตด้วย ความสำคัญของเขามากกว่าหลินจื้อเจี๋ยเสียอีก
หลังจบการประชุม หลินจื้อเจี๋ยพาลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
ผู้อำนวยการเพลงแห่งบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดชงกาแฟให้กับทั้งคู่ด้วยตัวเอง
เขาใช้เมล็ดกาแฟชั้นดีที่สุด กลิ่นหอมหวนเข้มข้น ที่แปลกคือรสชาติกลับไม่ขมอย่างที่คิด ดื่มเข้าไปแล้วรสชาตินุ่มละมุนลิ้น
แม้แต่ลู่เฉินที่ไม่ใช่คอกาแฟ ก็ยังรู้สึกได้ถึงความพิเศษ
เทียบกันแล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์มีความรู้มากกว่า เมื่อดื่มเข้าไปไม่กี่คำก็แสดงความชอบ “พี่หลิน นี่เป็นกาแฟบลูเมาน์เทนแบบต้นตำรับใช่ไหม”
หลินจื้อเจี๋ยยิ้ม “ใช่แล้ว ฉันเพิ่งซื้อกาแฟบลูเมาน์เทนกลับมาจากญี่ปุ่น มีแค่สองปอนด์ ถ้าเธอชอบ เอากลับไปด้วยปอนด์หนึ่ง”
กาแฟบลูเมาน์เทนเป็นกาแฟที่ดีที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง แต่ก็เป็นกาแฟที่ถูกหลายยี่ห้อลอกเลียนแบบมากที่สุด ในประเทศจีนกลับถูกด้อยค่าจนเทียบเท่าชานมไข่มุก ไม่ว่าเข้าไปในร้านกาแฟไหนก็สามารถหาซื้อกาแฟแก้วละไม่กี่สิบหยวนที่ถูกอ้างว่าเป็นกาแฟบลูเมาน์เทนได้
ความจริงแล้วกาแฟบลูเมาน์เทนที่มาจากจาเมกา ทุกปีผลิตได้แค่ไม่เกินร้อยตัน ส่วนใหญ่ถูกส่งไปขายที่ยุโรปและอเมริกา เข้ามาในประเทศจีนน้อยมาก
เนื่องจากคนญี่ปุ่นลงทุนในอุตสาหกรรมกาแฟบลูเมาน์เทนสูงมาก ได้รับส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อย ดังนั้นในญี่ปุ่นจึงหากาแฟบลูเมาน์เทนของแท้ต้นตำรับได้ เพียงแต่ราคาสูงเป็นพิเศษ
“หนึ่งปอนด์เลยเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากยิ้ม “พี่หลินเกรงใจเกินไปแล้ว พี่มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ”
เธอฉลาดขนาดนี้ มีหรือจะดูไม่ออกว่าหลินจื้อเจี๋ยมีเรื่องขอร้อง ถึงได้เกรงอกเกรงใจขนาดนี้
“ปิดบังเฟยเอ๋อร์ไม่ได้เลยจริงๆ…”
หลินจื้อเจี๋ยไม่ได้เสียหน้าที่ถูกจับได้ เขาหัวเราะบอกว่า “ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องของฉันหรอก แค่อยากถามลู่เฉินว่าปีนี้นายมีแผนจะถ่ายละครเรื่องใหม่บ้างไหม”
ลู่เฉินเข้าใจทันที บริษัทเฟยสือเรคคอร์ดจับตามองละครเรื่องใหม่ของเขาอยู่
ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ลู่เฉินกลายเป็นคนดังมาแรงในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ภายในเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือน ละครแนวความรักของคนเมืองความยาวยี่สิบตอนเรื่องนี้ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไห่จิน สร้างสถิติเรตติ้งสูงที่สุดในบรรดาละครโทรทัศน์แนวเดียวกัน ช่วยให้คนหน้าใหม่หลายคนรวมทั้งลู่เฉินโด่งดังขึ้น
เช่นหูหยางที่รับบทเป็นหานไท่ซีตัวประกอบชายอันดับหนึ่ง จางลี่เวยที่รับบทเป็นชุยซินอ้ายตัวประกอบหญิงอันดับหนึ่ง ล้วนเป็นดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการไม่นาน ก่อนที่ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จะออกอากาศ จะมีสักกี่คนที่เคยได้ยินชื่อของสองคนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar