ตอนที่ 316 ได้พบ
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ เป็นวันเทศกาลโคมไฟ
พอถึงวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหนึ่งตามปฏิทินจีน การเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่สิ้นสุดลงเสียที โรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ เริ่มเปิดเรียน สังคมกำลังกลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
หลังจากเซ็นสัญญากับบริษัทรถยนต์จงหวาไปแล้ว ลู่ซีฮึกเหิมมาก ช่วยลู่เฉินทำสัญญาโฆษณาอีกสองฉบับกับนาฬิกาธันเดอร์เบิร์ดและยาสระผมหลันเจี๋ย มีเงินเข้าบัญชีมาอีกสิบล้านหยวน
เงินทุนที่ใช้ถ่ายทำละครเรื่องใหม่ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป แต่ลู่เฉินไม่ได้รีบประกาศแผนการถ่ายทำ
ในวันเทศกาลโคมไฟ เขามาถึงบ้านหลังใหม่ของตัวเอง
บ้านหลังนี้เป็นบ้านใหม่ที่เฉินเฟยเอ๋อร์โอนให้ลู่เฉิน อยู่ในเขตชุมชนจื่อเฉิงย่วนของปักกิ่ง
จื่อเฉิงย่วนพัฒนาขึ้นโดยวั่นหลงแคปปิตอลผู้ซึ่งเป็นหัวมังกรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ตั้งอยู่ระหว่างเขตวงแหวนที่สองและสาม ห่างจากสวนสาธารณะอวี้ยวนถานไม่ไกล สร้างเสร็จในปี 2007 จนถึงปัจจุบันนี้ เป็นพื้นที่ที่ราคาสูงลิ่วของแท้
ห้องพักอยู่บนอาคารหลังที่เจ็ดห้อง 1701 มีสองชั้น พื้นที่ทั้งหมดสามร้อยตารางเมตร มีห้าห้องนอน สองห้องรับแขก และสามห้องน้ำ เทียบกับคอนโดห้องเดี่ยวที่ลู่เฉินเช่าอยู่แล้ว ที่นี่ช่างแตกต่างราวกับฟ้ากับเหว
ที่สำคัญคือในเขตชุมชนจื่อเฉิงย่วนมีระบบการจัดการที่ดีมาก ลู่เฉินอาศัยอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกปาปารัซซี่แอบถ่ายหรือตามรบกวน แน่นอนว่าราคาของมันย่อมแพงหูฉี่
คำนึงถึงระยะทางของเขตชุมชนจื่อเฉิงย่วนกับศูนย์ศิลปะยุคใหม่ที่ใกล้กันมาก ดังนั้นหลังจากเซ็นสัญญาโอนสิทธิ์ในการเช่ากับทางนั้นไปแล้ว ลู่เฉินจึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่
บ้านเป็นชื่อของเขาโดยสมบูรณ์แล้ว เพราะเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ตกแต่งบ้านไว้แล้ว เขาแค่ขนข้าวขนของเข้ามาก็อยู่ได้เลย สะดวกมาก
บ้านใหม่ตกแต่งอย่างดี มองออกว่าถูกออกแบบโดยมัณฑนากรชื่อดัง สไตล์การตกแต่งแบบยุโรปอันเรียบง่าย ตกแต่งด้วยของแต่งบ้านที่เป็นผลงานศิลปะ ทำให้ผู้อยู่รู้สึกเสพสุขกับการใช้ชีวิต
ชั้นล่างมีสองห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องอาหาร และห้องน้ำ ห้องรับแขกใหญ่มาก เชื้อเชิญเพื่อนสนิทสามถึงห้าคนมาจัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ห้องครัวกับห้องอาหารดูสะอาดผิดปกติ ไม่มีร่องรอยของการถูกใช้มาก่อน
โซฟา เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้าล้วนเข้าชุดกัน เลือกแต่ของมียี่ห้อทั้งหมด แม้ลู่เฉินไม่ค่อยรู้เรื่องการตกแต่งบ้าน ก็ยังดูออกว่าบ้านของเฉินเฟยเอ๋อร์หลังนี้คงทุ่มเงินไปอย่างน้อยสองสามล้านหยวน
ราคาบ้านในจื่อเฉิงย่วนขั้นต่ำเริ่มที่หนึ่งแสนหยวนต่อตารางเมตรขึ้นไป คอนโดมิเนียมสองชั้นที่มีแบบแปลนยอดเยี่ยมเช่นนี้ขายในราคาสามสิบล้านถือว่าลดราคาลงไปเยอะแล้ว เป็นราคามิตรภาพอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าเทียบกับราคาตอนที่เธอซื้อ ยังได้กำไรอีกเยอะ ช่วงหลายปีนี้ราคาบ้านในเมืองหลวงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรุนแรง ต่อให้เป็นบ้านในเขตวงแหวนรอบที่ห้าราคายังตั้งสองสามหมื่นหยวนต่อตารางเมตร เป็นราคาที่คนทั่วไปรับไม่ไหว
ถ้าลู่เฉินไม่โชคดีไม่ได้เดินบนเส้นทางนี้ อย่าว่าแต่บ้านในจื่อเฉิงย่วนเลย ต่อให้วิ่งไปมณฑลเหอเป่ยที่อยู่ติดกับปักกิ่งก็ยังซื้อไม่ไหว
“ฉันเคยมานอนที่นี่หลายครั้ง แต่จัดหาคนมาทำความสะอาดเป็นเวลา เลยสะอาดมาก”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มพลางจับมือลู่เฉิน แล้วบอกต่อว่า “ฉันจะพานายไปดูข้างบน!”
วันนี้เธอพาลู่เฉินมาดูบ้าน ดีใจเหมือนตัวเองเพิ่งซื้อบ้านใหม่
ในฐานะราชินีแห่งวงการเพลงที่มีรายได้ต่อปีหลายสิบล้านกระทั่งหลายร้อยล้าน เฉินเฟยเอ๋อร์ทุ่มเทให้กับอสังหาริมทรัพย์มาก เธอไม่เคยเอาเงินที่เธอหามาได้ไปลงทุนในธุรกิจการเงิน ส่วนใหญ่จะเอาไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เสียมากกว่า วิลล่า โฮมออฟฟิศ และร้านค้ามากมายล้วนเป็นชื่อของเธอ
ความจริงแล้วการลงทุนที่ปลอดภัยเช่นนี้ ทำกำไรให้เธอเกินกว่าที่ลงทุนไปมหาศาล!
มีเงินก็มั่นใจได้ กอปรกับมีเส้นสายในวงการบันเทิงที่กว้างขวาง ดังนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์จึงควบคุมการงานและโชคชะตาของตัวเองเอาไว้ในกำมือ เธอไม่ต้องพึ่งพาบริษัทเอเจนซี่ เธออิสระกว่าศิลปินส่วนใหญ่
ขณะขึ้นไปตามบันไดเวียน เฉินเฟยเอ๋อร์ทำตัวลึกลับ “ฉันเตรียมของขวัญไว้ให้นายด้วย”
ลู่เฉินสงสัย “ของขวัญอะไรครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มแต่ไม่ตอบ
ขึ้นถึงชั้นบน ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ดูพิเศษมาก ห้องรับแขกตรงหน้าบันไดถูกดัดแปลงเป็นบาร์เล็กๆ และที่นั่งดื่มชา นอกระเบียงถูกจัดแต่งด้วยกระถางต้นไม้สีเขียวชอุ่มไปทั่ว ทำให้คนอยากนั่งลง ดื่มชาไปพลางอ่านหนังสือไปพลาง พร้อมกับชื่นชมวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวง
ฝั่งตรงข้ามบาร์เล็กๆ นั้น ตั้งเปียโนอัปไรต์ใหม่เอี่ยมไว้หลังหนึ่ง สัญลักษณ์รูปฮาร์ปสีทองบนเปียโนทอแสงประกายล้อกับดวงไฟ โดดเด่นเห็นชัดเน้นย้ำถึงราคาค่างวดของมัน
เปียโนสไตน์เวย์ราคาแพงลิ่วหลังนี้ เป็นของขวัญที่เฉินเฟยเอ๋อร์เตรียมไว้ให้ลู่เฉิน!
ลู่เฉินรู้สึกเซอร์ไพรส์ “ขอบคุณครับ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์เหลือกตาใส่เขาอย่างงอนๆ ทีหนึ่ง ราวกับตำหนิที่เขาเกรงใจเธอ
ลู่เฉินหัวเราะแหะๆ ยื่นมือออกไปคว้าเอวบางเข้ามาสู่อ้อมอก แล้วก้มลงจุมพิตบนริมฝีปากเธอ
เป็นจูบอันยาวนานที่เกิดจากความซาบซึ้งและรักใคร่ จูบจนเฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดงก่ำถึงจะหยุด
เธอผลักลู่เฉินออกเบาๆ อย่างเอียงอาย แล้วบอกว่า “ลองเล่นเปียโนดูสิ”
ลู่เฉินพยักหน้า เดินเข้าไปหยุดตรงหน้าเปียโน เปิดฝาครอบขึ้น แล้วลองพรมนิ้วฟังเสียงและความคมชัด
เปียโนสไตน์เวย์ราคาหลายแสนให้เสียงไพเราะสุดซึ้ง แม้ว่าเปียโนอัปไรต์จะสู้แกรนด์เปียโนไม่ได้ แต่เพียงแค่ใช้ในบ้านนับว่าหรูหรามากแล้ว โทนเสียงถูกผู้เชี่ยวชาญปรับแต่งมาเป็นอย่างดี อย่างน้อยลู่เฉินฟังแล้วไม่มีปัญหา
แม้จะได้รับความทรงจำอันล้ำค่ามาจากโลกแห่งความฝัน แต่ลู่เฉินไม่มีความคิดว่าจะอาศัยสิ่งนี้หาเงินเลี้ยงตัวไปจนตาย เขาพยายามพัฒนาความสามารถของตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้
เช่นเรื่องเปียโน เมื่อก่อนนี้ระดับของลู่เฉินไม่ได้เหนือกว่าพวกมือใหม่สักเท่าไร แต่ตอนนี้ถ้าเขาไปสอบวัดระดับ เกรดแปดหรือเก้าไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา ต่อไปยังมีโอกาสที่จะพัฒนาได้อีก
หากตัดเรื่องความทรงจำออกไปไม่พูดถึง ความสามารถด้านดนตรีของลู่เฉินเป็นพรสวรรค์ล้วนๆ
เฉินเฟยเอ๋อร์เอ่ย “เล่นดูสักเพลงสิ”
ลู่เฉินถาม “ผมเล่นเปียโน ส่วนคุณร้องเพลง?”
เฉินเฟยเอ๋อร์คิดแล้วตอบว่า “นายเล่นด้วยร้องด้วย ฉันถ่ายวิดีโอให้”
เธอควักโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา เปิดแอปถ่ายวิดีโอแล้วเริ่มถ่ายลู่เฉิน
ลู่เฉินหลุดขำ เขานั่งหลังตรง สิบนิ้วมือพรมลงบนแป้นเปียโนอย่างพลิ้วไหว ตั้งใจพูดว่า “เพลงนี้ผมขอมอบให้คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ หญิงสาวแสนสวย ฉลาดหลักแหลม และน่าภาคภูมิใจ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์มือสั่น กลั้นขำแล้วจับมือถือให้มั่นคง ถ่ายทำต่อไป
ลู่เฉินเริ่มเล่นทำนองท่อนแรก
ทำนองเพลงที่ลู่เฉินเล่นนั้นช่างน่าประทับใจ แต่กลับไม่คุ้นเคย ทำให้เฉินเฟยเอ๋อร์ตกตะลึง
นี่เป็นเพลงใหม่อีกเพลง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar