(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 321

สรุปบท ตอนที่ 321 เหล่าผู้ท้าชิง: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 321 เหล่าผู้ท้าชิง – (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บท ตอนที่ 321 เหล่าผู้ท้าชิง ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 321 เหล่าผู้ท้าชิง

สือกังอายุสามสิบกว่า แต่มองดูเหมือนแก่กว่าอายุมาก เหมือนคุณลุงผู้กร้านโลกอายุสี่สิบกว่า หนวดเคราของเขารุงรังขาดการตัดแต่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายความโทรมบางอย่างที่บอกไม่ถูก

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นที่หนวดเครารุงรังและดูโทรมเหมือนกันแล้ว เขาดูแปลกแยกออกไป ชุดเสื้อผ้ากางเกงขายาวถูกซักอย่างหมดจด บนเนื้อผ้าไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นเกาะ เล็บบนข้อนิ้วมือหนาถูกตัดเป็นระเบียบ ดวงตามีประกายเจิดจ้า แน่นอนว่าไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนจรจัดข้างถนนแน่นอน

สำหรับถ้อยคำยกยอปอปั้นของลูกทีม สือกังขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าพูดอย่างนั้น ลู่เฉินเป็นนักร้องที่มีฝีมือคนหนึ่ง ถ้าเรื่องความสามารถนั้นเก่งกว่าฉันเยอะ”

ใครก็คิดไม่ถึงว่าพี่กังจื่อที่ขึ้นชื่อเรื่องความหยิ่งทระนงในวงการกลับยกย่องลู่เฉินถึงเพียงนี้ คนที่เยาะเย้ยลู่เฉินเมื่อครู่หุบปากลงทันที แล้วทำหน้าเหยเก

เหมือนสือกังจะมองไม่เห็น พูดต่อว่า “เมื่อวานฉันกับต้าฉินแห่งวงเฮสิเทชั่นได้คุยกันอยู่นาน พี่ต้าฉินเล่าเรื่องลู่เฉินให้ฟังตั้งเยอะแยะ ในวงการเพลงป็อปมีคนอย่างเขาปรากฏตัวออกมา ถือว่าเป็นความโชคดี”

สือกังเข้าวงการมาสิบกว่าปี ผ่านทั้งช่วงเวลารุ่งโรจน์และช่วงเวลาล้มเหลว แนวเพลงกระแสหลัก แนวเพลงนอกกระแส วงการชั้นล่างหรือวงการชั้นสูงเขาเคยสัมผัสมาหมดแล้ว แน่นอนว่าต้องมีความคิดมีทัศนคติเป็นของตัวเอง

เขารู้ดีว่าในวงการเพลงของจีน วงการเพลงนอกกระแสนั้นก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน ในนั้นมีคนรูปแบบต่างๆ นักร้องที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะมีความคิดเห็นที่ผิดเพี้ยนและอิจฉาริษยานักร้องที่โด่งดังในวงการเพลงกระแสหลัก

และก็มักจะเป็นคนพวกนี้นี่แหละ ที่อิจฉาในชื่อเสียงและเกียรติยศของวงการเพลงกระแสหลัก

ในทางกลับกัน นักร้องของวงการเพลงกระแสหลักก็มักจะดูแคลนและขับไล่นักร้องของวงการเพลงนอกกระแส นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอ

เทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H เกิดขึ้น ก็เพื่อทำลายกำแพงที่กั้นทั้งสองวงการออกจากกัน ทำให้ผู้ที่มีความสามารถจริงๆ ได้แสดงออก ทำให้วงการเพลงกระแสหลักยอมรับการมีตัวตนอยู่ของพวกเขา

แต่มันไม่ง่ายเลย!

แน่นอนว่ามีนักร้องและวงดนตรีจำนวนไม่น้อยที่แจ้งเกิดจากเทศกาลดนตรี 72H แล้วถูกบริษัทเอเจนซี่บันเทิงดึงตัวไปเซ็นสัญญาออกอัลบั้ม แต่สถานการณ์ของวงการเพลงนอกกระแสกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กำแพงที่กั้นระหว่างกันและการเลือกปฏิบัติสุดท้ายก็ยังไม่สิ้นสุดลงจริงๆ เสียที

บอกตามตรงว่าตอนนี้สือกังที่กำลังเดินอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างวงการเพลงกระแสหลักกับวงการเพลงนอกกระแส ก็ดูถูกพวกไอดอลหนุ่มหน้ามนที่ความสามารถธรรมดา อาศัยหน้าตาทำมาหากินล้วนๆ ในวงการเพลงกระแสหลักเช่นกัน

แต่ลู่เฉินไม่ใช่คนประเภทนั้น

พอพูดถึงต้าฉินแห่งวงเฮสิเทชั่น ทุกคนเงียบลง

ไม่ว่าพวกเขาจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้วงเฮสิเทชั่นเป็นวงดนตรีที่โด่งดังมากวงหนึ่ง จุดกำเนิดของต้าฉินทำให้เขามีชื่อเสียงในวงการเพลงนอกกระแสมากขึ้นตามไปด้วย เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ นั้นได้สร้างความประทับใจให้กับนักร้องชั้นล่างไม่รู้ตั้งเท่าไร จนเรียกฉินฮั่นหยางว่าเป็นพี่ใหญ่

ลู่เฉินเป็นคนแต่งเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ ผลงานของเขายังมีเพลง ‘วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์’ ‘เธอในอดีต’ ‘บินให้สูงขึ้น’ ที่ล้วนแต่เป็นเพลงซอฟต์ร็อกที่โดดเด่น

เขายังหนุ่มแน่น รูปงาม ได้ถ่ายทำละครโทรทัศน์ และได้คบหาดูใจกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ทำให้คนมองข้ามความสามารถอันเก่งกาจของเขาในด้านการแต่งเพลงไปโดยไม่ตั้งใจ

การดูถูกเยาะเย้ยคนแบบนี้ ไม่ใช่ความโง่เขลาที่น่าขันหรอกหรือ

หลายคนมีสีหน้าละอายใจ

สือกังตบมือกล่าวว่า “ความจริงคิดกลับกัน การได้แสดงร่วมเวทีกับนักร้องอย่างลู่เฉิน ช่างเป็นโชคของพวกเราจริงๆ ฉันขอให้ทุกคนขุดเอาความสามารถของตัวเองออกมา อย่าให้คนอื่นดูแคลนเอาได้!”

ตอนนี้ทุกคนฮึกเหิมขึ้น ขานรับอย่างห้าวหาญ “ใช่ พี่กังจื่อพูดถูก!”

“พวกเราจะให้คนอื่นดูถูกไม่ได้!”

สือกังยิ้มแต่ไม่พูดอะไร ในใจคิดถึงการแสดงคืนนี้

เขาไม่ใช่นักร้องที่ขาดความทะเยอทะยาน ชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้เขายิ่งต้องถนอมรักษาโอกาส ลู่เฉินแม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่พอให้เขาสูญเสียความกล้าหาญและความมั่นใจ

เพราะเรื่องนี้เลี่ยวเจี่ยยังได้แข่งดื่มเหล้ากับลู่เฉินโดยเฉพาะ แล้วทั้งสองคนก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนกัน

เลี่ยวเจี่ยเป็นคนใจร้อนไปหน่อย แต่นิสัยดี เส้นสายและชื่อเสียงในวงการยิ่งดี

ดังนั้นต่อให้ลู่เฉินจะโด่งดังกว่านี้ เมื่อเจอกับเขาก็ยังต้องทักทายอย่างเกรงใจ

“เจ้าเด็กนี่ก็มาด้วยเหรอ!”

เมื่อเห็นลู่เฉิน ใบหน้าผอมคล้ำของเลี่ยวเจี่ยเผยยิ้มแป้น

เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง เข้ามาจับมือและตบไหล่ลู่เฉินอย่างไม่เห็นเป็นคนอื่นคนไกล พลางถามว่า “การแสดงของนายเริ่มกี่โมง”

ลู่เฉินตอบ “ประมาณสองทุ่มครับ”

เลี่ยวเจี่ยหัวเราะ “ของฉันทุ่มครึ่ง อยากประลองกับนายมานานแล้ว นี่ไงโอกาสมาถึงซะที!”

ลู่เฉินทำหน้าแหย “พี่เลี่ยวเจี่ย อย่าล้อผมเล่นได้ไหม”

“ใครล้อนายเล่นล่ะ!”

เลี่ยวเจี่ยถลึงตาบอกต่อว่า “ถ้านายแพ้ฉัน ฉันจะดูถูกนาย!”

…………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar