ตอนที่ 321 เหล่าผู้ท้าชิง
สือกังอายุสามสิบกว่า แต่มองดูเหมือนแก่กว่าอายุมาก เหมือนคุณลุงผู้กร้านโลกอายุสี่สิบกว่า หนวดเคราของเขารุงรังขาดการตัดแต่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายความโทรมบางอย่างที่บอกไม่ถูก
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นที่หนวดเครารุงรังและดูโทรมเหมือนกันแล้ว เขาดูแปลกแยกออกไป ชุดเสื้อผ้ากางเกงขายาวถูกซักอย่างหมดจด บนเนื้อผ้าไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นเกาะ เล็บบนข้อนิ้วมือหนาถูกตัดเป็นระเบียบ ดวงตามีประกายเจิดจ้า แน่นอนว่าไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนจรจัดข้างถนนแน่นอน
สำหรับถ้อยคำยกยอปอปั้นของลูกทีม สือกังขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าพูดอย่างนั้น ลู่เฉินเป็นนักร้องที่มีฝีมือคนหนึ่ง ถ้าเรื่องความสามารถนั้นเก่งกว่าฉันเยอะ”
ใครก็คิดไม่ถึงว่าพี่กังจื่อที่ขึ้นชื่อเรื่องความหยิ่งทระนงในวงการกลับยกย่องลู่เฉินถึงเพียงนี้ คนที่เยาะเย้ยลู่เฉินเมื่อครู่หุบปากลงทันที แล้วทำหน้าเหยเก
เหมือนสือกังจะมองไม่เห็น พูดต่อว่า “เมื่อวานฉันกับต้าฉินแห่งวงเฮสิเทชั่นได้คุยกันอยู่นาน พี่ต้าฉินเล่าเรื่องลู่เฉินให้ฟังตั้งเยอะแยะ ในวงการเพลงป็อปมีคนอย่างเขาปรากฏตัวออกมา ถือว่าเป็นความโชคดี”
สือกังเข้าวงการมาสิบกว่าปี ผ่านทั้งช่วงเวลารุ่งโรจน์และช่วงเวลาล้มเหลว แนวเพลงกระแสหลัก แนวเพลงนอกกระแส วงการชั้นล่างหรือวงการชั้นสูงเขาเคยสัมผัสมาหมดแล้ว แน่นอนว่าต้องมีความคิดมีทัศนคติเป็นของตัวเอง
เขารู้ดีว่าในวงการเพลงของจีน วงการเพลงนอกกระแสนั้นก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน ในนั้นมีคนรูปแบบต่างๆ นักร้องที่ไม่ประสบความสำเร็จมักจะมีความคิดเห็นที่ผิดเพี้ยนและอิจฉาริษยานักร้องที่โด่งดังในวงการเพลงกระแสหลัก
และก็มักจะเป็นคนพวกนี้นี่แหละ ที่อิจฉาในชื่อเสียงและเกียรติยศของวงการเพลงกระแสหลัก
ในทางกลับกัน นักร้องของวงการเพลงกระแสหลักก็มักจะดูแคลนและขับไล่นักร้องของวงการเพลงนอกกระแส นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอ
เทศกาลดนตรีในทุ่งหญ้า 72H เกิดขึ้น ก็เพื่อทำลายกำแพงที่กั้นทั้งสองวงการออกจากกัน ทำให้ผู้ที่มีความสามารถจริงๆ ได้แสดงออก ทำให้วงการเพลงกระแสหลักยอมรับการมีตัวตนอยู่ของพวกเขา
แต่มันไม่ง่ายเลย!
แน่นอนว่ามีนักร้องและวงดนตรีจำนวนไม่น้อยที่แจ้งเกิดจากเทศกาลดนตรี 72H แล้วถูกบริษัทเอเจนซี่บันเทิงดึงตัวไปเซ็นสัญญาออกอัลบั้ม แต่สถานการณ์ของวงการเพลงนอกกระแสกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กำแพงที่กั้นระหว่างกันและการเลือกปฏิบัติสุดท้ายก็ยังไม่สิ้นสุดลงจริงๆ เสียที
บอกตามตรงว่าตอนนี้สือกังที่กำลังเดินอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างวงการเพลงกระแสหลักกับวงการเพลงนอกกระแส ก็ดูถูกพวกไอดอลหนุ่มหน้ามนที่ความสามารถธรรมดา อาศัยหน้าตาทำมาหากินล้วนๆ ในวงการเพลงกระแสหลักเช่นกัน
แต่ลู่เฉินไม่ใช่คนประเภทนั้น
พอพูดถึงต้าฉินแห่งวงเฮสิเทชั่น ทุกคนเงียบลง
ไม่ว่าพวกเขาจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้วงเฮสิเทชั่นเป็นวงดนตรีที่โด่งดังมากวงหนึ่ง จุดกำเนิดของต้าฉินทำให้เขามีชื่อเสียงในวงการเพลงนอกกระแสมากขึ้นตามไปด้วย เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ นั้นได้สร้างความประทับใจให้กับนักร้องชั้นล่างไม่รู้ตั้งเท่าไร จนเรียกฉินฮั่นหยางว่าเป็นพี่ใหญ่
ลู่เฉินเป็นคนแต่งเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ ผลงานของเขายังมีเพลง ‘วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์’ ‘เธอในอดีต’ ‘บินให้สูงขึ้น’ ที่ล้วนแต่เป็นเพลงซอฟต์ร็อกที่โดดเด่น
เขายังหนุ่มแน่น รูปงาม ได้ถ่ายทำละครโทรทัศน์ และได้คบหาดูใจกับเฉินเฟยเอ๋อร์ ทำให้คนมองข้ามความสามารถอันเก่งกาจของเขาในด้านการแต่งเพลงไปโดยไม่ตั้งใจ
การดูถูกเยาะเย้ยคนแบบนี้ ไม่ใช่ความโง่เขลาที่น่าขันหรอกหรือ
หลายคนมีสีหน้าละอายใจ
สือกังตบมือกล่าวว่า “ความจริงคิดกลับกัน การได้แสดงร่วมเวทีกับนักร้องอย่างลู่เฉิน ช่างเป็นโชคของพวกเราจริงๆ ฉันขอให้ทุกคนขุดเอาความสามารถของตัวเองออกมา อย่าให้คนอื่นดูแคลนเอาได้!”
ตอนนี้ทุกคนฮึกเหิมขึ้น ขานรับอย่างห้าวหาญ “ใช่ พี่กังจื่อพูดถูก!”
“พวกเราจะให้คนอื่นดูถูกไม่ได้!”
สือกังยิ้มแต่ไม่พูดอะไร ในใจคิดถึงการแสดงคืนนี้
เขาไม่ใช่นักร้องที่ขาดความทะเยอทะยาน ชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้เขายิ่งต้องถนอมรักษาโอกาส ลู่เฉินแม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่พอให้เขาสูญเสียความกล้าหาญและความมั่นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar