(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 347

สรุปบท ตอนที่ 347 ไล่ออกแล้ว: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 347 ไล่ออกแล้ว – (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บท ตอนที่ 347 ไล่ออกแล้ว ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar ในหมวดนิยายSlice of Life เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 347 ไล่ออกแล้ว

ก่อนหน้าที่ ‘เส้นทางธรรมดา’ จะเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ หนึ่งวัน วันที่ 24 เมษายน เวลาสองทุ่ม การจัดอันดับเพลงฮิตของจีนได้ประกาศอันดับประจำสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนตรงตามเวลา

มีเจ็ดเพลงในอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ขึ้นติดชาร์ตพร้อมกัน นับรวมเพลงที่แต่งโดยลู่เฉินทั้งหกเพลงแล้ว ซึ่งได้แก่ ‘บุปผานารี’ ‘ดวงตาของคุณ’ ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ ‘สวัสดีวันพรุ่งนี้’ ‘พบเจอ’ และ ‘ฝูงชน’

หนึ่งในนั้นมีเพลงหลักคือ ‘บุปผานารี’ ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตโดยตรง นอกจากนี้ ‘ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอ’ ที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกในวงกว้างก็จัดอยู่อันดับที่สาม

อัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ทำยอดขายทะลุหลักล้านในเวลาสั้นๆ แค่หนึ่งสัปดาห์ ผลงานในอัลบั้มขึ้นติดชาร์ตเพลงฮิตเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก แต่เพลงหลักที่ขึ้นอันดับหนึ่ง ยังคงสั่นสะเทือนวงการอยู่ไม่น้อย

สิ่งที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าก็คือ การที่อัลบั้มของเธอชุดนี้จะได้ติดชาร์ตเพลงฮิตครบทั้งสิบเพลงนั้นเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น และนอกจากเพลงหลักแล้ว อันดับของผลงานเพลงอื่นก็กำลังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ

‘ราชินีเพลงรัก’ กำลังจะกลายเป็น ‘ราชินีแห่งชาร์ตเพลง’ แล้ว!

สิ่งนี้ทำให้บุคคลในวงการต้องทบทวนผู้ชายที่ยืนอยู่เบื้องหลังราชินีคนนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง…พลังของลู่เฉิน

อัลบั้มแรกของลู่เฉิน ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ผลงานเพลงทั้งหมดก็เคยติดชาร์ตพร้อมกันอย่างงามสง่าเพลงที่เขาเคยแต่งให้วงเฮสิเทชั่น วงเอ็มเอสเอ็นก็เคยติดชาร์ตทั้งหมดเหมือนกัน ซ้ำยังเข้ายึดครองชาร์ตอันดับต้นๆ เป็นประจำ ตอนนี้ยังมีอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์เพิ่มเข้ามาอีก

พรสวรรค์พิเศษเช่นนี้ คนอื่นหมดแรงอิจฉาจริงๆ

ดังนั้นจึงเกิดเสียงบางส่วนในวงการ เรียกร้องให้ดำเนินการแก้ไขกฎเกณฑ์การจัดอันดับเพลงฮิตโดยเฉพาะ

หัวใจหลักของการแก้ไขอยู่ที่การจำกัดการเกิดเหตุการณ์ ‘ยึดชาร์ต’ อัลบั้มเดียวกันมากสุดมีแค่สามเพลงเท่านั้นที่จะขึ้นชาร์ตพร้อมกันได้ โดยที่ทั้งสามเพลงนั้นจะต้องเป็นผลงานที่ดีที่สุด เพื่อให้นักร้องต้นฉบับคนอื่นได้มีพื้นที่ที่เพียงพอ

อันที่จริงเสียงเรียกร้องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ใช่นักร้องคนแรกที่มีเพลงติดชาร์ตทั้งอัลบั้ม เมื่อก่อนก็มีอัลบั้มดังๆ ในวงการเพลงที่ได้รับความสำเร็จเช่นนี้เหมือนกัน

ทว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พลังสร้างสรรค์ในประเทศมีความอ่อนแอ ในอัลบั้มเดียวกันมีสองสามเพลงขึ้นติดชาร์ตก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ติดชาร์ตทั้งอัลบั้มนั้นยังไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นเสียงเรียกร้องแบบนี้จึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ลู่เฉินโผล่ขึ้นมาในวงการเพลงป็อปราวกับปาฏิหาริย์ จึงสะกิดเส้นประสาทของใครหลายคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความมีหน้ามีตาของเขามันมากเกินไปจริงๆ

และเสียงเรียกร้องที่ออกมาจากปากของคนเหล่านี้ ก็เข้าหูของลู่เฉินอย่างรวดเร็ว

ลู่เฉินได้แต่หัวเราะ

ชาร์ตเพลงฮิตคือชาร์ตเพลงเกียรติยศของวงการเพลงป็อป เป็นกำลังใจสนับสนุนการสร้างสรรค์ การที่เพลงติดชาร์ตนั้นมีความหมายในด้านบวก นอกจากจะยกระดับอิทธิพลของนักร้องและนักแต่งเพลงให้สูงขึ้น ยังทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ติดชาร์ตทั้งอัลบั้มเป็นเรื่องที่ดี ทว่าการแก้ไขกฎเกณฑ์ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ชาร์ตเพลงฮิตสำคัญมาก แต่ไม่ได้สำคัญมากขนาดนั้น ตำแหน่งของเขาในวงการเพลงขณะนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่านชาร์ตเพลง

การยอมรับจากแฟนเพลงถึงจะสำคัญที่สุด

ดังนั้นแม้มีคนอยากจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นเขาหรือไม่ เขาก็ไม่สนใจ อย่างมากวันหลังเวลาทำอัลบั้มให้คนอื่นก็แต่งเพลงแค่สามเพลงก็พอ

ดังคำกล่าวที่ว่าของที่หายากย่อมมีราคาแพง หนึ่งอัลบั้มมีเพลงดีๆ เยอะไปใช่ว่าจะเหมาะสม

แม้ว่าลู่เฉินจะไม่สนใจ แต่กลับมีบางคนโกรธมาก

“พวกเขาจะต้องอิจฉาตาร้อนแน่นอน!”

เฉินเฟยเอ๋อร์โทรหาลู่เฉินและกำลังพูดอยู่ “ต้องมีพวกที่เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้ เลยชอบหาเรื่องนิดๆ หน่อยๆ”

ทว่ากล่าวถึงใครเธอไม่ได้พูด แต่คนที่อิจฉามีเยอะจริงๆ ในวงการบันเทิงมักจะเป็นเช่นนี้ เวลาเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จแล้วไม่สบายใจ ต่อให้แทรกแซงทางตรงไม่ได้ แต่ขอใช้ลูกเล่นชั่วๆ นิดหน่อยก็ยังดี

ข่าวลือที่ปล่อยเข้ามาในวงการครั้งนี้ ดูเหมือนจะชี้เป้ามาที่เฉินเฟยเอ๋อร์ แต่ความจริงแล้วเล็งมาที่ลู่เฉินต่างหาก!

เฉินเฟยเอ๋อร์เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม “ติดไม่ติดชาร์ตดูที่ความสามารถ เปลี่ยนกฎแล้วยังไง”

เฉินเฟยเอ๋อร์กับฟางฮุ่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องของสัญญาที่มีความเห็นต่างกับทางนี้ ลู่เฉินจึงยังไม่บอกเฉินเฟยเอ๋อร์ชั่วคราว เพราะไม่อยากให้เธอเสียสมาธิ

เฉินเฟยเอ๋อร์คงจะได้ยินข่าวลืออะไรมา ดังนั้นถึงได้ถาม

เขาจึงเล่าความเป็นมาของเรื่องราวให้เฉินเฟยเอ๋อร์ฟังอย่างไม่ผิดเพี้ยน

เฉินเฟยเอ๋อร์ฟังจบแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่ฟางฮุ่ยไม่น่าจะเป็นคนโลภแบบนั้น อาจจะเป็นผู้จัดการของเขาหรือเปล่า”

ลู่เฉินกล่าวว่า “ผมไม่รู้…”

ถึงแม้เขาจะวิเคราะห์ว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นกลอุบายของผู้จัดการฟางฮุ่ย แต่เขาไม่ได้โทรไปถามความเป็นจริงกับฟางฮุ่ยโดยตรง…มันไม่เหมาะสม รวมทั้งให้ลู่ซีโทรไปถามก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน

เพราะถ้าหากเป็นความคิดของฟางฮุ่ยจริงๆ แล้วไปถามเธอแบบนี้ เช่นนั้นก็คงเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีก

ลู่เฉินเป็นคนที่ไม่ลืมมิตรภาพเก่าๆ เขาไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น

เฉินเฟยเอ๋อร์เข้าใจแล้ว “ฉันเข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันจะโทรหาพี่ฟางฮุ่ยเอง”

ลู่เฉินโทรไปจะดูไม่งาม แต่ถ้าเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ก็ไม่มีปัญหา

ดังนั้นหลังจากลู่เฉินครุ่นคิดดูแล้ว จึงไม่ได้ห้ามปรามเธอ ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ก็ต้องสะสาง

ผลปรากฏว่าตอนกลางวันเขาคุยโทรศัพท์กับเฉินเฟยเอ๋อร์ ตอนบ่ายฟางฮุ่ยก็รีบวิ่งมาที่สตูดิโอ

เมื่อเจอลู่เฉิน สิ่งที่เธอพูดเป็นประโยคแรกก็คือ “ลู่เฉิน ฉันไล่ผู้จัดการของฉันออกแล้ว!”

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar