ตอนที่ 36 ดนตรีร็อกที่ใกล้ตาย
“เริ่มแล้ว การแสดงเริ่มแล้ว!”
“ตื่นเต้นๆๆๆๆ!”
“ใครช่วยบอกฉันได้บ้างว่าท่านลู่จะขึ้นเวทีตอนไหน”
“ถามเหมือนกัน ฉันก็อยากรู้!”
“คนเยอะจังเลย อยากจะไปดูที่สถานที่จัดงานจริงๆ รู้สึกว่าหน้างานคือความสุดยอดที่สุด”
“ผู้ดำเนินการถ่ายทอดสดผู้ยิ่งใหญ่ คอนเสิร์ตจะเริ่มแล้ว!”
“รู้สึกกังวลกับไอคิวของเพื่อนนักเรียนที่พูดถึงงานคอนเสิร์ตคนนี้จริงๆ…”
“นั่งรอดูผู้จัดขึ้นเวที…”
เวลาหนึ่งทุ่มตรง ห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้รับความนิยมอย่างพุ่งพรวด ยอดออนไลน์พุ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกัน ยอดทะลุหนึ่งแสนคนขึ้นไปแล้ว อัตราการเติบโตที่สูงขึ้นทำให้คนตกตะลึงอ้าปากค้าง
อวี๋แฟนคลับจำนวนมากต่างก็คำนวณเวลาในการล็อกอิน ข้อความเด้งเต็มหน้าจอ ทำให้ห้องถ่ายทอดสดครึกครื้นสุดๆ!
เนื่องจากลู่เฉินต้องขึ้นแสดงบนเวที ดังนั้นหลี่เฟยอวี่จึงเป็นพิธีกรหน้างาน พี่เสี่ยวเฟยเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่ตอนหกโมงเย็นแล้ว แค่อาศัย ‘ปากนักขาย’ ระดับเงินของเขา ก็ดึงแฟนคลับได้ถึงสองหมื่นคนขึ้นไป และอยู่ไปเรื่อยๆ จนความนิยมระเบิดเป็นพลุแตก
จากนั้นก็ตามด้วยการตกรางวัลของอวี๋แฟนคลับจำนวนมหาศาล หลี่ไป๋แฟนคลับตัวยงให้เรือบรรทุกเครื่องบินมาถึงสามลำ
เขาแสดงออกอย่างใจป้ำ หลังจากลู่เฉินขึ้นเวทีแล้วก็จะมอบให้อีกเจ็ดลำ เพื่ออวยพรการขึ้นเวทีอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!
จากนั้นก็ขอการสนับสนุนให้เด็กหนุ่มจนยอดระเบิดเป็นสิบเท่า!
คนอื่นที่ไม่รู้เรื่อง เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ที่อึกทึกครึกโครมขนาดนี้ คงจะเข้าใจว่าคืนนี้เป็นงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเพื่อลู่เฉินโดยเฉพาะ ดังนั้นทุกคนถึงได้ตื่นเต้นและกระตือรือร้นมากขนาดนี้
หลี่เฟยอวี่ยิ้มจนปากเบี้ยว ไม่สนใจสายตาแปลกๆ ที่ส่งมาจากคนรอบข้างอย่างสิ้นเชิง
ที่นี่คือสถานที่จัดงานเทศกาลดนตรีคาร์นิวัลไนท์ เสียงดังอึกทึกเป็นบรรยากาศปกติ!
ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลว่าการถ่ายทอดสดของตัวเองจะมีผลกระทบถึงคนอื่น สร้างความขายหน้าให้กับตัวเองและลู่เฉิน
ยิ่งครึกครื้นถึงจะยิ่งสนุก!
แสงไฟรอบสถานที่จัดงานค่อยๆ ดับลง ไฟบนเวทีเปิดสว่างทั้งหมด โฟกัสไปที่วงวอทชเมินที่ขึ้นแสดงเป็นวงแรก สถานที่จัดงานค่อยๆ เงียบลง รอพวกเขาเริ่มการแสดงร้องเพลง
วงวอทชเมินในฐานะผู้เปิดการแสดง ถือว่าเป็นตำนานในโฮ่วไห่
วงวอทชเมินก่อตั้งขึ้นเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นวงดนตรีร็อกระดับประเทศที่คร่ำหวอดอยู่ในดนตรีร็อกแท้ๆ ยาวนานกว่ายี่สิบปี!
เพลงร็อกแอนด์โรลของจีนเริ่มต้นในยุค 80 ได้รับอิทธิพลมาจากลัทธิเสรีนิยมตะวันตกในตอนนั้น เพลงร็อกจีนเริ่มพัฒนาขึ้น เกิดวงดนตรีร็อกใหม่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปลายยุค 80 ก็เจริญรุ่งเรืองสุดขีด
วงดนตรีร็อกของประเทศเกิดขึ้นหลายพันวงในตอนนั้น เกิดการร้องเพลงคลาสสิคมากมายอย่างแพร่หลาย ทว่าหลังจากเข้าสู่ยุค 90 ความนิยมของธุรกิจเพลงป๊อปที่เพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดของเพลงร็อกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
มีนักร้องแนวร็อกบางคนยอมทำตามกระแส เปลี่ยนสไตล์และแนวคิดของตัวเอง ร้องเพลงแนวซอฟต์ร็อกหรือไม่ก็บัลลาด แต่ก็ยังมีร็อกเกอร์มากมายที่ดึงดันรักษาฐานที่มั่นสุดท้ายของเพลงร็อกจีน ไม่ยอมก้มศีรษะให้ตลาด
จนถึงปัจจุบัน เพลงร็อกจีนได้กลายเป็นคำที่ห่างไกล มีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่ยังดิ้นรนอยู่
วงวอทชเมินก็คือหนึ่งวงในนั้น ตอนที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมาเพลงร็อกจีนก็อยู่ในช่วงที่ตกต่ำแล้ว แต่อาศัยความแน่วแน่กับการสนับสนุนของจำนวนแฟนคลับอันน้อยนิด ทำให้ยืนหยัดอยู่ในวงการเพลงใต้ดินเล็กๆ ของโฮ่วไห่ได้นานถึงยี่สิบปี!
วงวอทชเมินไม่เคยดังมาก่อน แล้วก็ไม่เคยมีผลงานใดๆ ที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคย พวกเขาเชื่อว่าเพลงร็อกไม่มีวันตาย เชื่อมั่นอุดมคติที่มีอยู่ในหัวใจ เพราะฉะนั้นจึงได้รับการนับถือจากคนในวงการเป็นจำนวนมากได้สำเร็จ
งานไลท์บลูมิวสิคคาร์นิวัลออฟไนท์จึงเชิญพวกเขามาเป็นผู้เปิดการแสดง เป็นการยกย่องจิตใจที่แรงกล้าอย่างหนึ่ง
นี่คือยุคที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของคนที่ยึดถืออุดมคติ!
วงวอทชเมินมีสมาชิกทั้งหมดสี่คน อายุเฉลี่ยสี่สิบปีขึ้นไป แต่ละคนล้วนเป็นบุคคลดังระดับผู้อาวุโส และเพลงที่พวกเขาร้อง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สไตล์เด็กวัยรุ่นชอบและชื่นชม
เพลง ‘อยู่ก็เหมือนตาย’ กับเพลง ‘กระสุนที่หน้าอก’ ลู่เฉินก็ไม่เคยฟังมาก่อน
แต่ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือ การแสดงร้องเพลงของพวกเขาเต็มไปด้วยพลังของคนที่ผ่านโลกมามาก เสียงเพลงที่ได้อารมณ์ดังไปทั่วงานที่มีคนเบียดเสียด ทะลุผ่านกระจกยาวจรดพื้นบานใหญ่นอกบาร์ ส่งผ่านไปถึงหูของทุกคน
ฉินฮั่นหยางพูดขึ้นกะทันหัน “สัญญาเช่าของบาร์เนอร์วานาจะสิ้นสุดปลายปีนี้ ได้ยินว่าจะทำการถ่ายโอน”
เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเซื่องซึม หงอยเหงาเศร้าใจ
พี่น่าตกใจ จากนั้นก็เหมือนได้สติขึ้นมา “อย่างนั้นพวกต้าม่ายจะทำยังไง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar