(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 369

สรุปบท ตอนที่ 369 ติ่งดารา: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปตอน ตอนที่ 369 ติ่งดารา – จากเรื่อง (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

ตอน ตอนที่ 369 ติ่งดารา ของนิยายSlice of Lifeเรื่องดัง (นิยายแปล) Perfect Superstar โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 369 ติ่งดารา

เมืองหลวง ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง

ประกาศแจ้งเที่ยวบินที่มาถึงติดต่อกันสองครั้ง ทางออกของอาคารผู้โดยสาร T2 มีคนมากมายมายืนล้อมอยู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินสิบกว่าคนราวกับเผชิญหน้ากับศัตรู คอยคุ้มกันกลุ่มคนให้อยู่นอกเส้นกั้น

นอกจากนักข่าวที่ถือกล้องถ่ายรูปหรือแบกกล้องถ่ายวิดีโอแล้ว มากไปกว่านั้นคือกลุ่มวัยรุ่นที่ชูป้ายยินดีต้อนรับ นักท่องเที่ยวที่อยู่แถวนั้นจึงมองมาด้วยสายตาที่สงสัยและตกใจ คาดเดาว่าน่าจะเป็นคนดังที่มาจากต่างประเทศ

“มาแล้วๆ!”

เสียงร้องกรี๊ดดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มผู้คน ช่องทางเดินปรากฏคนกลุ่มหนึ่งพร้อมกับกระเป๋าใบน้อยใหญ่ที่เข็นมากับรถเข็นสัมภาระ ในหมู่คนเหล่านั้นคนที่อยู่ด้านหน้าสุดคือผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่สวมแว่นกันแดดคนหนึ่งกับหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวสวมผ้าปิดปากคนหนึ่ง

ทั้งสองคนเดินจูงมือกัน มีความสนิทสนมอย่างเห็นได้ชัด

แชะๆ!

วินาทีต่อมา แสงแฟลชสว่างวาบทันที เลนส์กล้องสั้นยาวแต่ละอันโฟกัสไปที่คู่รักคู่นี้!

“ลู่เฉิน!” “เฉินเฟยเอ๋อร์!”

ผู้คนรอบนอกส่งเสียงกรี๊ดเสียงดังขึ้นมาทันที ผสมปนเปกับคำสารภาพรักอย่างเช่น ‘ฉันรักคุณ’ อีกมากมาย ป้ายชื่อที่ตั้งใจทำอย่างประณีตแต่ละชิ้นถูกชูให้สูงขึ้น ทำให้บรรยากาศที่สนามบินคึกคักมากเป็นพิเศษ!

มีหลายคนพยายามเดินเบียดมาข้างหน้า จึงเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานมีประสบการณ์เยอะ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทันการ ไม่เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นมาจริงๆ

ลู่เฉินตกใจกับเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า จึงหยุดชะงักอย่างช่วยไม่ได้

กองละคร ‘ฟูลเฮ้าส์’ ใช้เวลาถ่ายทำที่กรุงโซลสองวัน ดังนั้นวันที่ 20 พฤษภาคมจึงเป็นวันเดินทางกลับเมืองหลวง

ด้วยเหตุนี้ฉากที่ถ่ายทำต่างประเทศจึงถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนในประเทศได้แบ่งกองถ่ายทีมหนึ่งถ่ายฉากที่เกี่ยวข้องกับตัวประกอบอยู่ในเมืองหลวง หลังจากนั้นทั้งสองทีมจะมารวมตัวกันอีกครั้ง แล้วย้ายกองไปที่โรงถ่ายจินหลิง

ลู่เฉินคาดคิดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิงว่า เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์จะเจอการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่อลังการในสนามบินเช่นนี้

แฟนคลับที่มาถึงสนามบินมีอย่างน้อยหลักร้อย และยังมีนักข่าวและสื่ออีกจำนวนมาก

เนื่องจากเฉินเฟยเอ๋อร์มีประสบการณ์เยอะกว่า จึงเอ่ยพูดเบาๆ ว่า “ไม่ต้องสนใจนักข่าวพวกนี้ พวกเราเดินตรงไปเลย อย่าอยู่ที่นี่นาน รถรับส่งน่าจะจอดรออยู่ข้างนอกแล้ว”

ลู่เฉินพยักหน้า จูงมือเฉินเฟยเอ๋อร์รีบเดินออกไปข้างนอก

“ลู่เฉิน ขอถามว่าคุณมองเรื่องการปะทะกันที่เกิดขึ้นกับโคจิ คิตากาวะยังไงบ้างคะ”

“คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ สามารถพูดถึงตอนที่ลู่เฉินถูกตำรวจเกาหลีคุมตัวไปได้ไหมคะ ว่าคุณรู้สึกยังไงบ้าง”

“ลู่เฉิน ตอนที่อยู่เกาะเชจู คุณมีเจตนาอะไรถึงต้องลงมือด้วยตัวเองคะ”

“ลู่เฉินๆ…”

สำหรับนักข่าวที่ถามคำถามไร้สาระเหล่านี้ ลู่เฉินกระอักกระอ่วนใจจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฉินเฟยเอ๋อร์บอกให้เขาไม่ต้องสนใจนักข่าวพวกนี้ ไม่อย่างนั้นพูดครึ่งค่อนวันก็ยังอธิบายไม่ชัดเจน

เขาเองก็คาดคิดไม่ถึงว่า เรื่องนี้จะมีผลกระทบที่ใหญ่ขนาดนี้ ตอนที่อยู่ที่กรุงโซล ไม่เพียงแต่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของเกาหลีเท่านั้น แม้แต่นักข่าวของสื่อในประเทศจีนก็ยังวิ่งไปถึงที่นั่นหลายคน

เพียงแต่สิ่งที่สมควรพูดลู่เฉินได้พูดไปหมดแล้ว และในบล็อกก็ได้ประกาศอย่างชัดเจน

เขาไม่จำเป็นต้องใช้เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างกระแส ถึงแม้ในอินเทอร์เน็ตจะเป็นกระแสใหญ่โตแล้วก็ตาม

“ลู่เฉิน ขอลายเซ็นหน่อยได้ไหมคะ”

แฟนคลับสาวคนหนึ่งพยายามลอดผ่านการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ใช้แรงอย่างเต็มที่ยื่นสมุดและปากกาไปหาลู่เฉิน ใบหน้าสดใสแดงก่ำ ท่าทางเหมือนคนใกล้จะร้องไห้

ลู่เฉินไม่อยากสนใจนักข่าว แต่เมื่อเห็นหญิงสาวอายุสิบกว่าปีคนนี้ที่ไม่สนใจการดุและผลักของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พยายามสุดชีวิตเพื่อให้ได้ลายเซ็น เขาก็ไม่อาจนิ่งดูดายได้อีกต่อไป

ลู่เฉินปล่อยมือเฉินเฟยเอ๋อร์ทันที รีบเดินเข้าไปหา

ด้วยเหตุนี้อาชีพติ่งดาราจึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยถูกแอบจ้างจากบริษัทเอเจนซี่ของศิลปินดารา รับบทบาทเป็นผู้นำกลุ่มแฟนคลับหรือผู้ที่มีสิทธิ์มีเสียงในการพูดอย่างเต็มที่ สร้างกระแสให้กับศิลปินไอดอลอย่างต่อเนื่อง

ลู่เฉินเปิดสตูดิโอเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะมีการตั้งงบประมาณสำหรับทำการโปรโมตผ่านสื่อเอาไว้ แต่เขาไม่เคยจ้างแฟนคลับอาชีพเลยสักคน เพราะฉะนั้นติ่งดาราเหล่านี้จึงเป็นแฟนคลับตัวจริงอย่างไม่ต้องสงสัย มากพอที่จะอธิบายถึงความฮอตของเขาในตอนนี้ว่าสูงมากแค่ไหน!

ลู่เฉินพอเข้าใจกลุ่มพวกนี้อยู่บ้าง ดังนั้นคำแซวเล่นของเฉินเฟยเอ๋อร์ เขาจึงจนใจมากกว่า

การที่มีติ่งเยอะเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก โดยปกติทั่วไปอาจจะเจอการก่อกวนต่างๆ นานา เทียบกันแล้ว แฟนคลับที่อยู่ตามแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด บล็อก ฟอรัมต่างๆ น่ารักกว่าเยอะ

กริ๊ง~

ลู่เฉินกำลังอยากจะสอบถามเรื่องนี้กับเฉินเฟยเอ๋อร์อีกสองสามประโยค โทรศัพท์ที่เขาเพิ่งเปิดเครื่องไม่นานก็พลันดังขึ้น

คนที่โทรมาหาเขาก็คือพี่หลี “ลู่เฉิน พวกเธอถึงเมืองหลวงหรือยัง”

ลู่เฉินยิ้มตอบว่า “เพิ่งถึงครับ ตอนนี้อยู่บนรถ พี่หลีมีอะไรอยากชี้แนะไหมครับ”

พี่หลีทำเป็นพูดดุ “ชี้แนะอะไรล่ะ! ฉันจองโต๊ะที่โรงแรมรีเจนซี่แล้ว นายกับเฉินเฟยเอ๋อร์ก็มาด้วยกันเลย ถือว่าฉันเลี้ยงต้อนรับพวกเธอก็แล้วกัน”

ลู่เฉินตอบรับทันที “ครับ ผมกับเฟยเอ๋อร์ไปถึงสักประมาณหกโมงได้ไหมครับ”

พี่หลีดีใจ “โอเค อย่างนั้นฉันจะไปรอพวกเธอก่อน แล้วเจอกันนะ!”

พอวางสาย ลู่เฉินจึงพูดกับเฉินเฟยเอ๋อร์ว่า “พี่หลีจะเลี้ยงข้าวพวกเราครับ”

เฉินเฟยเอ๋อร์เอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “นายมีงานยุ่งแล้ว!”

ลู่เฉินยิ้มพลางส่ายหน้า

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar