(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 399

ตอนที่ 399 ไปฮ่องกง

ยิ่งวงการบันเทิงก้าวหน้า เรื่องเสียหายในวงการก็ยิ่งมีมาก

และเมื่อวงการอินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู ก็ทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมาถึงจุดที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อก่อนต้องรับรู้ข่าวสารผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารเท่านั้น ตอนนี้แค่ท่องเน็ตก็รู้ข่าวได้ทันที

อินเทอร์เน็ตทำให้ศิลปินไอดอลมีคนติดตามมากกว่าเมื่อก่อน ขณะเดียวกันข่าวด้านลบของศิลปินก็ถูกทำให้เป็นเรื่องใหญ่ในอินเทอร์เน็ตได้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ง่ายขึ้น

คนเราแต่ละคนต่างมีนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน ในวงการมีทั้งคนดีและคนเลว ยิ่งมีคนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ข่าวแง่ลบก็ยิ่งถูกปล่อยออกมาไม่หยุด ทำให้ประชาชนมีอคติต่อวงการบันเทิงอย่างลึกซึ้ง

ดาราศิลปินเสพยา ซื้อประเวณีนอกใจเมาแล้วขับ ชกต่อยทำร้ายร่างกาย…หลายปีมานี้ข่าวเสียหายกลายเป็นเรื่องปกติประจำวันของวงการบันเทิงไปแล้ว ขึ้นเป็นข่าวพาดหัวอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อสังคมมากขึ้นไม่หยุดหย่อน

สภาพการณ์แบบนี้ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลต้องออกมากำหนดกฎเกณฑ์เพื่อรับมือ เพิ่มบทลงโทษต่อศิลปินที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือทำผิดศีลธรรม ไม่มีคำว่า ‘ดื่มสามจอกเพื่อลงโทษ ’ แล้วจบเรื่องอีกต่อไป

วั่นเสี่ยวเฉวียนติดคุกปีครึ่งเพราะเหตุทำร้ายร่างกาย แม้การกระทำความผิดของเขานั้นมีเหตุผลน่าให้อภัย แต่กฎก็คือกฎ ทุกคนต้องเคารพและทำตามกฎหมาย ถูกระงับงานไปสองปีถือว่าอะลุ้มอล่วยให้มากแล้ว

ดังนั้นในสองปีนี้ วั่นเสี่ยวเฉวียนถ่ายทำภาพยนตร์ไม่ได้ ถึงถ่ายทำออกมาก็ไม่อาจนำออกฉายได้ ไม่มีบริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์หรือนายทุนคนไหนอยากติดต่อเขาแน่นอน

หนทางที่เหลือไว้ให้เขา ถ้าไม่พักงานไปช่วงเวลาหนึ่ง ก็ต้องหางานอื่นทำ

ความจริงแล้วผลกระทบจากการถูกระงับงานนั้นหนักหน่วง ผู้กำกับอย่างวั่นเสี่ยวเฉวียนยังดีหน่อย ถ้าเป็นศิลปินไอดอล การถูกระงับงานสองปีเท่ากับถูกผลักลงสู่เหวลึกที่ไม่มีทางปีนขึ้นมาได้อีก

สำหรับวั่นเสี่ยวเฉวียน ถูกพักงานสองปีเขายังพอจะดำรงชีวิตอยู่ได้ ไม่ถึงขั้นอดตาย

แต่ไม่สามารถประกอบอาชีพที่เขารักและอุทิศทั้งชีวิตให้กับมัน เป็นสิ่งที่ทุกข์ทรมานมาก

เทียบกับเมื่อสองปีก่อน วั่นเสี่ยวเฉวียนดูเหมือนแก่ลงไปสิบปี จอนผมขาวโพลนหมดแล้ว

เมื่อเห็นลู่เฉินนำบทภาพยนตร์เรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ ออกมา ตอนแรกวั่นเสี่ยวเฉวียนตื่นเต้น รู้สึกว่าเลือดร้อนวิ่งพล่านไปทั้งตัว พลังชีวิตไหลเวียนทั่วร่างอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อนึกถึงสถานภาพของตัวเองในตอนนี้ ก็ราวกับถูกน้ำเย็นราดใส่หัว สะดุ้งตื่นทันที

รสชาติแบบนี้ ยากที่จะใช้ถ้อยคำใดมาอธิบาย

ความสับสนในใจทำให้วั่นเสี่ยวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น จนข้อนิ้วโปนเป็นสีขาว

ทุกอย่างอยู่ในสายตาของลู่เฉินทั้งหมด เขาแอบสลดใจเช่นกัน

ลู่เฉินรู้ถึงความลำบากที่วั่นเสี่ยวเฉวี่ยนต้องเผชิญในตอนนี้ แต่ในเมื่อเขานำบทภาพยนตร์ออกมาแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวมาพร้อม “อาจารย์วั่น หนังเรื่องนี้ ผมอยากเชิญคุณมาเป็นที่ปรึกษา”

มีทั้งแผนรุกและแผนรับ วั่นเสี่ยวเฉวียนไม่อาจมีชื่อเป็นผู้กำกับได้ แต่เป็นผู้ให้คำปรึกษาได้ไม่มีปัญหา พูดตามตรงก็คือการแขวนหัวแกะแต่ขายเนื้อสุนัข หลีกเลี่ยงกฎข้อห้ามนั่นเอง

เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้ภาพยนตร์ทั้งเรื่องมีวั่นเสี่ยวเฉวียนเป็นผู้กำกับจนจบ ชื่อของเขาก็ไม่อาจขึ้นไปปรากฏบนจอได้ ไม่ว่าจะในการโปรโมตหรือในรายชื่อทีมงานก็ตาม เหมือนกับเป็น ‘มนุษย์ล่องหน’

นี่เป็นวิธีประนีประนอมอย่างไม่ต้องสงสัย ลู่เฉินทำความเข้าใจสถานการณ์ของวั่นเสี่ยวเฉวียนมาก่อนแล้วจึงเสนอความคิดนี้ออกมา ถ้าฝ่ายนั้นติดคุกเพราะติดยาเสพติดอะไรแบบนั้น ต่อให้วั่นเสี่ยวเฉวียนเก่งแค่ไหน ลู่เฉินก็คงไม่กล้าเข้าใกล้

เพราะการเชิญให้วั่นเสี่ยวเฉวียนเป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์ ก็ถือเป็นความเสี่ยงด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar