ตอน ตอนที่ 428 ของประมูลของลู่เฉิน จาก (นิยายแปล) Perfect Superstar – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 428 ของประมูลของลู่เฉิน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายSlice of Life (นิยายแปล) Perfect Superstar ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 428 ของประมูลของลู่เฉิน
แน่นอนว่าลู่เฉินไม่มีความสามารถพิเศษที่จะล่วงรู้อนาคตได้ว่า งานกาล่าดินเนอร์คืนนี้จะเกิดเหตุไม่คาดฝัน
เหลียงจื้อหาวกระโดดออกมาหาเรื่องเขา แม้จะดูแปลกประหลาดแต่ก็ทำให้ลู่เฉินรู้ว่าตัวเองพลาดอะไรไป นั่นก็คือเขาไม่ได้ทำการบ้านมาล่วงหน้า เช่น ในงานเลี้ยงมีกฎเกณฑ์อะไรบ้าง หรือต้องระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง แต่ตรงมาที่นี่เลย
เช็คเงินสดเขานำมันมาอยู่แล้ว เขาคิดว่าพกเงินมาก็พอแล้ว
แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เหลียงจื้อหาวเมื่อเห็นลู่เฉินอึ้งไป เขาทำหน้าแบบ ‘ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้’ เขาหัวเราะเสียงดังกล่าวว่า “ฮ่าๆ คุณมาจากจีนแผ่นดินใหญ่จริงๆ มิน่าล่ะถึงไม่รู้กฎเกณฑ์ของที่นี่”
“ผมจะบอกให้ งานเลี้ยงของพี่จิ้งมีของประมูลที่มาจากแขกในงานเป็นคนมอบให้!”
เสียงหัวเราะของเขาช่างแสบแก้วหู ทำให้แขกคนอื่นหันมามอง
เห็นได้ชัดว่าเหลียงจื้อหาวจงใจทำให้ลู่เฉินขายหน้า!
ลู่เฉินกลับเฉยๆ เป็นซูจิ้งที่ทนไม่ได้แทน ใบหน้าเรียวมึนตึงขึ้นมาทันที
ซูจิ้งเป็นคนนิสัยดีมาตลอด แต่นี่เหลียงจื้อหาวตั้งใจกลั่นแกล้งแขกที่เธอเชิญมา จะไม่พลอยทำให้เธอเสียหน้าไปด้วยหรือ?
ในห้องโถงใหญ่มีแขกหลายสิบคนแล้ว
ซูจิ้งยังไม่ทันเอ่ยปาก เหลียงเจียซิ่งชิงพูดขึ้นว่า “จื้อหาว อย่าเสียมารยาทแบบนี้ คนจากแผ่นดินใหญ่อะไรกัน พวกเราล้วนเป็นแขกของคุณซูจิ้งกันทั้งนั้น แกโวยวายอะไร!”
เหลียงจื้อหาวหวาดเกรงลุงของตัวเอง หดหัวกลับไม่กล้าพูดอะไรอีก
เหลียงเจียซิ่งเอ่ยขอโทษลู่เฉิน “คุณลู่ ขอโทษจริงๆ ครับ หลานของผมไม่รู้กาลเทศะ คุณอย่าได้ถือสาเลยนะครับ”
ท่าทีของเขาดูจริงใจ คำพูดน่าฟังไร้ที่ติ แต่ลู่เฉินกลับรู้สึกไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะคำว่า ‘กาลเทศะ’ ของเขานั้นฟังแล้วแสลงใจอย่างไรชอบกล
เจ้าจิ้งจอกเฒ่า!
ลู่เฉินแอบด่าอยู่ในใจ แต่ภายนอกดูเรียบเฉยราวกับไม่ถือสา
เขายิ้มพลางพูดว่า “ท่านประธานเหลียงพูดเกินไปแล้วครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ในเมื่อธรรมเนียมของเซียงเจียงเป็นแบบนี้ผมก็ควรจะทำตาม ยังต้องขอบคุณหลานของคุณที่ช่วยเตือนผมครับ”
ลู่เฉินหันไปพูดกับหลีเจินที่อยู่ข้างกายเขาว่า “หยิบนามบัตรผมออกมาใบหนึ่ง ปากกาด้วย”
เหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ในสายตาของหลีเจินทั้งหมด ในใจของเธอทั้งรุ่มร้อนและรู้สึกผิด
คืนนี้เป็นการออกงานสังคมครั้งแรกในเซียงเจียงของลู่เฉิน และเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงท้องถิ่นของเขา เรื่องสำคัญเช่นนี้ เธอที่เป็นผู้ช่วยและเลขากลับลืมบอกลู่เฉินถึงกฎของงานกาล่าดินเนอร์การกุศล
มูลนิธิการกุศลที่ก่อตั้งโดยไฮโซชื่อดังมักจะเชิญเพื่อนสนิทในวงการหรือคนในชนชั้นเดียวกันมาร่วมงาน ยังเชิญให้แขกที่มาร่วมงานบริจาคสิ่งของออกมาร่วมประมูลชิ้นหนึ่ง เช่น นาฬิกาข้อมือ ภาพวาด เครื่องประดับมีค่า แม้แต่ของแบรนด์เนมที่ยังไม่ได้ใช้ก็มี
เมื่อสิ่งของถูกนำขึ้นไปประมูลก็สามารถประมูลสิ่งของของตัวเองกลับมาได้ และสามารถแย่งประมูลสิ่งของที่หมายปองกับคนอื่นได้ แต่โดยปกติแล้วจะไม่เพิ่มราคาประมูลให้สูงเกินไป ความจริงเป็นเพียงเกมเชื่อมสัมพันธ์ทางสังคมเท่านั้น
เมื่อก่อนหลีเจินเคยไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์การกุศลสองครั้ง จึงรู้ดีอยู่
นี่เป็นความผิดพลาดในหน้าที่ของเธอ
หลีเจินยังคิดว่าจะชดเชยอย่างไร สุดท้ายลู่เฉินกลับให้เธอหยิบเพียงนามบัตรกับปากกา
“เอ่อ…”
หลุดจากอาหลานตระกูลเหลียงมาได้ซูจิ้งโล่งอก เธอแอบกระซิบกับลู่เฉินว่า “ขอโทษจริงๆ คุณเหลียงคนนี้มีความคิดบางอย่างต่อฉัน เพียงแต่ตอนนี้ฉันไม่คิดเรื่องความรัก”
ลู่เฉินพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
มิน่าเล่าเหลียงเจียซิ่งถึงได้ยิ้มฝืดขนาดนั้น คงคิดว่าเขาเป็นคู่แข่งหัวใจ
ท่าทีของเหลียงจื้อหาวกลับไม่ค่อยน่าดู
คุณชายทายาทไฮโซคนนี้ ทำให้ลู่เฉินได้รู้จักกับท่าทางเย่อหยิ่งยกตนข่มท่านและการกีดกันคนนอกของชนชั้นไฮโซของเซียงเจียงแล้ว
เมื่อหลายสิบปีก่อน ความเจริญก้าวหน้าของจีนแผ่นดินใหญ่รวดเร็วนำหน้าเซียงเจียง ไม่ได้เป็นประเทศยากจนล้าหลังอีกต่อไปแล้ว เมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง ฮู่ไห่ เซินไห่ เป็นต้น ล้วนเป็นเมืองที่คุณภาพชีวิตของประชากรไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียงเจียงเลย ยังมีบางแห่งที่ดีกว่าด้วยซ้ำ
แต่คนเซียงเจียงบางคนมองไม่เห็นหรือไม่ใส่ใจในจุดนี้ ยังหลงมัวเมาอยู่กับความรุ่งเรืองในอดีต ไม่ได้ลืมตามองตลาดและทรัพยากรมหาศาลของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดของเซียงเจียงทดแทนได้ การปิดหูปิดตาตัวเองส่งผลให้การพัฒนาในหลายๆ ด้านล้าหลัง
อุตสาหกรรมละครและภาพยนตร์ของเซียงเจียงที่เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุดก็คือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุด
สิ่งที่ทำให้ลู่เฉินรู้สึกสนใจคือ ซูจิ้งบอกความจริงกับเขาตามตรง เหมือนกับเพื่อนแท้ที่เล่าความทุกข์ใจของตัวเองให้เพื่อนฟังอย่างตรงไปตรงมา
ความเชื่อมั่นของเธอทำให้ทั้งสองสนิทกันมากขึ้น
ด้วยการแนะนำของซูจิ้ง ลู่เฉินได้รู้จักคนระดับสูงในวงการหลายคน พวกเขาบางคนเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทผลิตละครและภาพยนตร์ มีบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์และนิตยสารบันเทิงด้วย ยังมีเพื่อนศิลปินอีกหลายคน
นอกจากเรื่องเหนือความคาดหมายเล็กน้อยเมื่อครู่ การออกงานสังคมครั้งแรกที่เซียงเจียงของเขาถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
…………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar