(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 447

สรุปบท ตอนที่ 447 เยียนชื่อเสีย: (นิยายแปล) Perfect Superstar

สรุปตอน ตอนที่ 447 เยียนชื่อเสีย – จากเรื่อง (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

ตอน ตอนที่ 447 เยียนชื่อเสีย ของนิยายSlice of Lifeเรื่องดัง (นิยายแปล) Perfect Superstar โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 447 เยียนชื่อเสีย

“ลุงหม่า พวกเราจะไปไหนครับ”

“ลุงหม่า บริษัทหนังที่ไหนอยากให้ลุงไปเล่นครับ”

“ลุงหม่าๆ…”

เสี่ยวอู๋ที่ถูกหม่าหรงเจินลากลงมาจากรถบัสเล็กเพิ่งจะได้สติกลับมา ทันใดนั้นจึงมีคำถามมากมายที่อั้นไว้ไม่อยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจว่าจะมีของดีตกลงมาจากฟ้า ‘ฉันจะได้เล่นสักบทจริงๆ เหรอ’

ปีนี้เสี่ยวอู๋เพิ่งอายุยี่สิบปีเต็ม เรียนจบมัธยมปลายก็ออกมาทำงาน เขาเติบโตมาจากหมู่บ้านเล็กๆ ที่ห่างไกลในเขตหยวนหลง สำหรับความเจริญหรูหราของเกาะฮ่องกงนี้ เขายังคงอยู่ในสภาวะสับสนไม่ค่อยรู้เรื่อง

แต่เสี่ยวอู๋รู้ดีว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง

เขาจึงจับหม่าหรงเจินให้แน่นขึ้นโดยสัญชาตญาณ

หม่าหรงเจินโบกรถแท็กซี่คันหนึ่ง พอเข้าไปนั่งในรถ เขาจึงพูดกับเสี่ยวอู๋อย่างจริงจังว่า “เสี่ยวอู๋ ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นบริษัทไหนที่อยากให้ฉันไปเล่น แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ขอแค่เทสต์หน้ากล้องสำเร็จได้เล่นบทนั้น นายก็เป็นผู้ช่วยของฉันไปก่อนดีไหม”

ถึงแม้จะล้มเหลวแต่ก็ไม่อยากเสียหน้า อย่างน้อยตอนนั้นหม่าหรงเจินก็เคยโด่งดังมาก่อน ช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดก็มีทั้งผู้ช่วยและบอดี้การ์ดสี่ห้าคน ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะตกอับ แต่จะให้คนอื่นดูถูกไม่ได้

ดังนั้นเขาจึงลากเสี่ยวอู๋มาด้วย ด้านหนึ่งเพื่อช่วยเสี่ยวอู๋ อีกด้านหนึ่งจริงๆ แล้วก็เพื่อเชิดหน้าชูตาของตัวเอง

เสี่ยวอู๋พยักหน้าอย่างมึนงง

ผู้ช่วย เป็นคำที่ยิ่งใหญ่มาก เขาเป็นตัวประกอบในโรงถ่ายไลออนร็อก เห็นผู้ช่วยของดารานักแสดงอยู่ไม่น้อย มีบางคนหยิ่งยิ่งกว่าดาราเสียอีก นี่คือสิ่งที่ทำให้คนตัวเล็กๆ อย่างเขาอิจฉามากที่สุด

ต่อให้เป็นผู้ช่วยของหม่าหรงเจิน ก็ยังดีกว่าเป็นตัวละครเล็กๆ ที่มีบทพูดไม่กี่คำ

“ขอบคุณลุงหม่าครับ”

หม่าหรงเจินตบไหล่ของเสี่ยวอู๋อย่างชื่นชม แล้วเอ่ยว่า “อีกสักพักพอเจอเถ้าแก่แล้ว นายก็พูดน้อยๆ ฟังเยอะๆจะต้องรักษามารยาทมากๆ อย่าตกม้าตายล่ะ อ้อใช่…”

เขาเอ่ยกับคนขับแท็กซี่ว่า “พี่ครับ รบกวนส่งพวกเราไปร้านเสื้อผ้าแถวๆ นี้หน่อยครับ”

คนขับแท็กซี่ของฮ่องกงส่วนใหญ่แล้วอายุค่อนข้างมาก เพราะคนหนุ่มสาวไม่ชอบทำงานที่เหนื่อยและลำบากแถมเงินเดือนก็น้อย คนขับรถแท็กซี่ดูแล้วยังอายุมากกว่าหม่าหรงเจินเสียอีก

หม่าหรงเจินเพิ่งนึกได้อีกหนึ่งปัญหา ตอนนี้ทั้งสองคนล้วนใส่เสื้อผ้าของตัวประกอบ เหม็นกลิ่นเหงื่อไปทั่วตัว หากไปเจอเถ้าแก่ที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยสภาพแบบนี้คงขายหน้ามาก ดังนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนชุดที่สะอาดสะอ้าน

เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เมื่อครู่รีบร้อนรับปาก โชคดีที่ฮ่องกงมีร้านเช่าเสื้อผ้าบริการอยู่มากมาย ดังนั้นตอนนี้เขาจำเป็นต้องเช่าชุดที่ดูดีสักหน่อย

แน่นอนว่าขาดของเสี่ยวอู๋ไม่ได้เหมือนกัน

เพื่อโอกาสในครั้งนี้ หม่าหรงเจินทุ่มเทเต็มที่

ขณะที่หม่าหรงเจินกับเสี่ยวอู๋เปลี่ยนเสื้อผ้า เฉินเหวินเฉียงกับลู่เฉินและวั่นเสี่ยวเฉวียนมาถึงร้านอาหารซุ่นกี่ในย่านเกาลูนตงที่หรูหราก่อนล่วงหน้า

เฉินเหวินเฉียงได้จองห้องอาหารวีไอพีเอาไว้แล้ว

วันนี้ตลอดทั้งวัน ผู้จัดการสตูดิโอคนนี้ได้พาลู่เฉินและคนอื่นๆ ทัวร์เกือบครึ่งฮ่องกง ตอนเช้าไปเจรจาการร่วมงานกับเจียหยางพิคเจอร์ส ตอนบ่ายก็วิ่งไปอีกสองสามที่ ประเด็นสำคัญคืออยากให้ลู่เฉินคุ้นเคยกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์หลักๆ ของฮ่องกง

อันที่จริงตอนที่หม่าหรงเจินแสดงเป็นตัวประกอบอยู่ที่ไลออนร็อก ลู่เฉินกับคนอื่นๆ ก็เข้าไปเยี่ยมชมโรงถ่ายหนังแห่งนี้เหมือนกัน เพราะตามแผนแล้ว ฉากส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ใหม่เรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ ล้วนต้องถ่ายทำให้เสร็จสิ้นที่นี่

สำหรับอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงถ่ายไลออนร็อก ลู่เฉินรู้สึกพอใจมาก โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นวัดร้างโบราณแห่งหนึ่งที่อยู่ตีนเขาสิงโตแห่งนี้ เหมาะที่จะใช้เป็นฉากหลักในภาพยนตร์…วัดร้างหลานรั่ว

เฉินเหวินเฉียงพูดต่อว่า “การโจมตีครั้งนี้ ทำให้กิจการของหม่าหรงเจินล้มจนลุกไม่ขึ้น แน่นอนว่ามีสาเหตุมาจากการตลาดเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้ถือว่าหายหน้าหายตาไปจากสาธารณชนเสียเป็นส่วนใหญ่ สองสามปีก่อนผมเคยกินข้าวกับเขา เขาดูตกอับมาก”

“หม่าหรงเจินก็นิสัยไม่เลวเหมือนกัน น่าเสียดายที่เจอคนไม่ดี”

วั่นเสี่ยวเฉวียนเอ่ยอย่างปลงอนิจจัง “สังคมสมัยนี้ คนดีใช่ว่าจะได้รับการตอบแทนที่ดีเหมือนกัน”

เฉินเหวินเฉียงกำเมล็ดแตงโมที่กระจายอยู่บนโต๊ะหนึ่งกำมือแล้วเอ่ยว่า “คนชั่วก็ได้รับกรรมที่ก่อไว้เหมือนกันผู้จัดการแซ่ซ่งคนนั้นกับภรรยาเก่าของเขาอยู่ด้วยกันได้สองสามปี ใช้เงินที่หลอกและโกงมาจนหมด จากนั้นก็ไปจีบภรรยาน้อยของหัวหน้าแก๊งหงชิงคนหนึ่ง สรุปถูกรถบรรทุกใหญ่ชนตายบนถนน ได้ยินว่าบดจนเละเลย”

ลู่เฉินกับวั่นเสี่ยวเฉวียนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เรื่องราวของหม่าหรงเจินสามารถทำเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งได้เลย!

กริ๊ง~

ขณะที่พูดคุยกัน โทรศัพท์ของเฉินเหวินเฉียงก็ดังขึ้น

เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้น แล้วเผยรอยยิ้มออกมาทันที “พี่หม่ามาถึงแล้วเหรอ เดี๋ยวผมลงไปรับคุณนะครับ”

พอวางสาย เฉินเหวินเฉียงก็พูดกับลู่เฉินว่า “หม่าหรงเจินมาแล้ว ผมขอลงไปก่อนครับ”

ลู่เฉินพยักหน้า “ครับ”

หม่าหรงเจินอย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้อาวุโสในวงการ ถึงแม้จะตกอับ แต่ก็ควรให้เกียรติเขา

เฉินเหวินเฉียงออกหน้าเหมาะสมที่สุดแล้ว

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar