ตอนที่ 465 อิจฉา
“ยินดีที่ได้ร่วมมือกันครับ!”
ในห้องประชุม จางเย่าเฉิงรองผู้จัดการใหญ่ของสำนักพิมพ์ซานไห่และลู่ซีแห่งสตูดิโอลู่เฉิน ร่วมกันเซ็นสัญญาจัดพิมพ์หนังสือนิยายกำลังภายในเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’
จางเย่าเฉิงยิ้มเกลื่อนหน้าจับมือกับลู่เฉินและลู่ซี กล่าวอย่างจริงใจว่า “ขอให้ทั้งสองท่านวางใจได้ครับ พวกเราสำนักพิมพ์ซานไห่จะทุ่มทรัพยากรที่มีทั้งหมดเพื่อการโปรโมตและโฆษณานิยายเรื่องนี้ จะทำให้ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ขายดีในตลาดตอนปลายปีนี้แน่นอน!”
‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เป็นหนังสือชุดห้าเล่มจบ ตัวอักษรหนึ่งล้านคำ ตามสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกัน ฉบับสวยงามจะจัดพิมพ์ครั้งแรกหนึ่งแสนชุด ฉบับธรรมดาจะพิมพ์ครั้งแรกสองแสนชุด ยอดพิมพ์ทั้งหมดสูงถึงหนึ่งล้านห้าแสนเล่ม!
สำหรับหนังสือเล่มใหม่ที่เขียนโดยคนหน้าใหม่ และยังไม่ได้เป็นนิยายดังในตำนาน การจัดพิมพ์หนังสือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ครั้งแรกดูจะมากเกินไป ถ้าขายไม่ดี สำนักพิมพ์ซานไห่จะขาดทุนหนักหนา
ในฐานะผู้นำในการร่วมมือกันครั้งนี้ จางเย่าเฉิงจึงต้องรับความเสี่ยงสูง ในบางแง่มุมอาจกล่าวได้ว่า เขานำเอาอนาคตในสายอาชีพและชื่อเสียงในวงการของตัวเองมาเป็นเดิมพัน
แน่นอนว่าจางเย่าเฉิงไม่สู้ในสงครามที่ไม่ชนะ นอกจากจะเชื่อมั่นในหนังสือเล่มนี้แล้ว เขายังรู้ว่า ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์มาก อีกทั้งยังมีแรงผลักดันจากสำนักพิมพ์ซานไห่ สตูดิโอลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ ทำให้ที่จริงแล้วความเสี่ยงไม่สูงมาก
ซูเปอร์สตาร์สองคนมีแฟนคลับในบล็อกล่างฉาวรวมกันมากกว่าห้าสิบล้านคน ต่อให้หักแล้วหักอีก ยอดขายหนังสือสามแสนชุดก็ยังไม่เท่าไร
หากภายใต้การนำของจางเย่าเฉิง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ดังเป็นพลุแตก นิยายแนวใหม่ทำยอดขายทะลุเป้ากลายเป็นนิยายขายดี ชื่อเสียงและอำนาจของเขาจะต้องก้าวหน้าขึ้นอีกมาก
ลู่ซียิ้มน้อยๆ “งั้นก็ต้องฝากผู้จัดการจางด้วยค่ะ”
“เกรงใจไปแล้วครับ…”
จางเย่าเฉิงถามลองเชิง “พูดตามตรงนะครับ ผมนับถือคนเขียนเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ มาก สามารถเขียนนิยายแบบนี้ออกมาได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา ขอให้ผมได้เชิญเขาไปเลี้ยงข้าวสักมื้อได้ไหมครับ”
ในสัญญาการจัดพิมพ์ สตูดิโอลู่เฉินเป็นตัวแทนหลักในการเซ็นสัญญา นักเขียนตัวจริงไม่ได้ปรากฏตัว ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ ‘อี้จินกู่’ ในโลกออนไลน์นั้นจางเย่าเฉิงแทบจะหาไม่ได้เลย
นี่ยิ่งทำให้เขาประหลาดใจเข้าไปใหญ่ คิดว่าอยากจะหาโอกาสทำความรู้จักสักครั้ง
ทุกคนรู้จักกันผูกมิตรกัน หาก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ขายดี ผลงานชิ้นต่อไปก็เจรจาได้ง่ายแล้ว สตูดิโอลู่เฉินแม้เป็นตัวแทนให้กับนักเขียน ก็ต้องคำนึงถึงเจ้าตัวนักเขียนเองด้วยว่าจะไปในทิศทางไหนใช่ไหมล่ะ
จางเย่าเฉิงไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น เพียงแต่ทำไปตามประสบการณ์ในสายอาชีพของคนเก่าแก่ในวงการ
ลู่เฉินและลู่ซีมองหน้ากัน ฝ่ายหลังยิ้มตอบว่า “ต้องขอโทษด้วยค่ะผู้จัดการจาง คุณนักเขียนคนนี้ไม่ชอบออกสังคม เขายังมอบลิขสิทธิ์ให้กับสตูดิโอของเราทั้งหมด ก็เลย…”
“อนาคตถ้าคุณนักเขียนยินยอม พวกเราค่อยจัดการกันอีกที”
ตอนอธิบาย ลู่ซีแอบกลอกตาใส่ลู่เฉินทีหนึ่งโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า…แกเป็นคนเล่นเกมให้ลึกลับซับซ้อนเอง
ความจริงลู่ซีเข้าใจในความกังวลของลู่เฉิน เขาเขียนเพลงเก่งขนาดนี้ เขียนบทละครก็ยังดีเด่น ถ้าบอกว่าเขียนนิยายจัดพิมพ์ออกขายยิ่งจะทำให้คนอื่นพูดไม่ออก
บางครั้งลู่ซีก็คิดไม่ออกว่าในสมองของน้องชายเธอบรรจุอะไรมากมายขนาดนั้น เมื่อก่อนไม่เห็นว่าเขาจะมีความสามารถอะไรเลย อยู่ๆ ก็เก่งกาจโดดเด่นขึ้นมา
สมควรจะถ่อมตนไว้ก่อน ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
จางเย่าเฉิงเสียดาย “น่าเสียดายจริงๆ เลย”
เขาไม่ได้คิดว่าลู่ซีจงใจปิดบังเขา ที่ไม่ให้เขาข้องเกี่ยวกับนักเขียน เพราะทุกวันนี้สตูดิโอลู่เฉินมีทั้งความสามารถและตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องใช้ลูกไม้นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar