(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 473

สรุปบท ตอนที่ 473 นกน้อยไยจะรู้ปณิธานของพญาหงส์: (นิยายแปล) Perfect Superstar

ตอนที่ 473 นกน้อยไยจะรู้ปณิธานของพญาหงส์ – ตอนที่ต้องอ่านของ (นิยายแปล) Perfect Superstar

ตอนนี้ของ (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายSlice of Lifeทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 473 นกน้อยไยจะรู้ปณิธานของพญาหงส์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 473 นกน้อยไยจะรู้ปณิธานของพญาหงส์

วันที่ 18 พฤศจิกายน เวลาบ่ายสองโมง ลู่เฉินกับคนกลุ่มหนึ่งบินมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกง

เฉกเช่นเดียวกับตอนที่มาถึงฮ่องกงครั้งแรก ลู่เฉินไม่ทำตัวเป็นจุดเด่นเหมือนเดิม เขาไม่พูดถึงตารางการเดินทางในบล็อกของตัวเอง คนที่รู้ความเคลื่อนไหวของเขามีเพียงสองสามคนในสตูดิโอ

แต่สิ่งที่ลู่เฉินคาดไม่ถึงก็คือ เขาเพิ่งจะเดินออกมาจากช่องทางเดินของนักท่องเที่ยว ท่ามกลางกลุ่มคนที่รอรับอยู่ด้านนอกจู่ๆ ก็มีกล้องถ่ายรูปนับสิบกับไมค์ของนักข่าวโผล่พรวดออกมา โอบล้อมเขาภายในพริบตา

“คุณลู่เฉิน ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหม”

“ลู่เฉิน ไม่ทราบว่าคุณกับหลิวกั่งเซิงเป็นอะไรกัน”

“คุณลู่เฉิน คุณคิดยังไงกับเฉินหยวนเฉินต่อคำวิจารณ์ผลงานเพลงของคุณ”

“คุณลู่เฉิน มีคนพูดว่าคุณมาถ่ายทำภาพยนตร์ที่ฮ่องกง อยากจะมาแย่งโอกาสทำธุรกิจกับเพื่อนสายอาชีพเดียวกันใช่ไหม….”

“ไม่ทราบว่าคุณมีความคิดยังไงกับเรื่องนี้”

แสงแฟลชสว่างจ้าตาต่อเนื่องกัน ไมค์ติดโลโก้ของสื่อสำนักต่างๆ แย่งกันยื่นเข้ามาด้านหน้า นักท่องเที่ยวที่อยู่รอบๆ จึงหันมามองด้วยความสงสัยหรือไม่ก็ตกใจ…

และยังมีคำถามซักไซ้ไล่เลียงถาโถมเข้ามาราวกับฝนตกอย่างบ้าคลั่ง

ลู่เฉินงงเล็กน้อย

นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาได้รับการปฏิบัติเหมือนคนดังในฮ่องกงตั้งแต่เมื่อไร

แบบนี้มันแปลกไปหน่อยนะ!

แต่ลู่เฉินก็ไม่ใช่คนธรรมดา เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เขายังคงควบคุมสติอารมณ์เอาไว้ได้ ยื่นมือบังไมค์สองสามอันที่ยื่นมาใกล้จะติดหน้าตัวเองออกโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แล้วเอ่ยว่า “หลบหน่อยนะครับ ที่นี่เป็นทางเดินสาธารณะ ขอบคุณครับ!”

และด้านหลังของลู่เฉิน ก็ยังมีทีมงานตามมาอีกหนึ่งขบวน

ทีมงานพวกนี้ลู่เฉินพามาจากปักกิ่ง ผู้ชายสิบคนผู้หญิงอีกสองคนล้วนเป็นคนหนุ่มสาวทั้งสิ้น เพิ่งปลดประจำการมาไม่นาน เป็นหนุ่มสาวเลือดร้อนทั้งนั้น และยังได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพมาอีกด้วย

ดังนั้นเมื่อเห็นลู่เฉินถูกคนล้อมไว้ พวกเขาจึงรีบเดินไปข้างหน้าทันที สกัดกั้นปาปารัสซี่เหล่านั้นก่อนเป็นอันดับแรก สร้างระยะปลอดภัยให้ลู่เฉิน ให้เขาสามารถหลุดจากสถานการณ์นี้อย่างรวดเร็ว

พวกปาปารัสซี่คิดไม่ถึงว่าข้างกายลู่เฉินจะมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันเยอะขนาดนี้ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมของคนเหล่านี้ จากสภาพที่บีบบังคับถามในตอนแรกถูกพังทลายลงอย่างรวดเร็ว มีนักข่าวคนหนึ่งถูกเบียดล้มลงบนพื้นไม่เป็นท่า

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินรีบมาถึงที่เกิดเหตุ ยับยั้งพวกปาปารัสซี่ที่มีเจตนาอยากจะตามตื๊อต่อ

ด้วยเหตุนี้ลู่เฉินจึงรอดตัวเข้าไปนั่งในรถอเนกประสงค์ที่รออยู่ด้านนอกได้อย่างราบรื่น

กลับมาฮ่องกงครั้งนี้ทีมงานเยอะกว่าเดิม ทางสตูดิโอได้เช่ารถบัสขนาดกลางคันหนึ่ง และผู้ที่รับหน้าที่มารับลู่เฉินที่สนามบินก็คือหลีเจินผู้ช่วยที่อยู่ฮ่องกง

หลีเจินเห็นสถานการณ์ที่วุ่นวายเมื่อครู่ เธอเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด “คุณลู่ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันคิดไม่ถึงว่าปาปารัสซี่จะเยอะขนาดนี้”

ลู่เฉินโบกมือเพื่อแสดงว่าไม่สนใจ สิ่งที่เขาหงุดหงิดคือทำไมปาปารัสซี่พวกนั้นถึงมาโอบล้อมตัวเอง

แล้วใครคือเฉินหยวนเฉิน แล้วก็มาแย่งโอกาสทำธุรกิจกับเพื่อนอาชีพเดียวกันที่ฮ่องกงมันคืออะไร งงไปหมดเลย!

เขาคิดว่าเรื่องนี้น่าจะซาไปแล้ว จึงบินกลับปักกิ่งในอีกสองสามวันให้หลัง

ทว่าเรื่องราวกลับพัฒนาไปไกลเกินคาด ไฟสงครามที่เกิดจาก ‘คนบ้าแห่งทะเลใต้’ ไม่ได้สงบลง ตรงกันข้ามกลับขยายลุกลามไปในวงกว้าง คนในวงการเพลงป็อปอีกหลายคนถูกลากเข้ามาเกี่ยวด้วย ทะเลาะกันบนอินเทอร์เน็ตร้อนแรงมาก

สองสามวันก่อน เฉินหยวนเฉินซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ นักวิจารณ์ภาพยนตร์โทรทัศน์และเพลงชื่อดัง ได้เขียนคอลัมน์หนึ่งบน ‘หนังสือพิมพ์รายวันกั่งเฉิง’ เขาคิดว่าคนทำเพลงในฮ่องกงไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเอง ผลงานเพลงภาษาจีนกวางตุ้งแค่เพลงเดียวของลู่เฉินไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ และ ‘รักที่สุดในชีวิต’ ก็ไม่ใช่ผลงานคลาสสิคที่ควรค่าให้คุยโวโอ้อวดอะไรมากมาย นอกจากนี้มีความน่าสงสัยว่าจงใจสร้างกระแส และสงสัยอีกว่าน่าจะมีนักการตลาดออนไลน์คอยสนับสนุนอยู่

‘หนังสือพิมพ์รายวันกั่งเฉิง’ เป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์ภาษาจีนที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในฮ่องกง บทความของเฉินหยวนเฉินได้รับเสียงสะท้อนอยู่ไม่น้อย กลายเป็นสุมไฟให้การโต้เถียงบนอินเทอร์เน็ตร้อนแรงขึ้น

จนถึงตอนนี้ เดิมทีลู่เฉินที่ไม่มีชื่อเสียงใดๆ ในฮ่องกงถือว่าดังขึ้นมาจริงๆ แล้ว และประวัติของเขาก็ถูกคนขุดค้นออกมาในไม่ช้า รวมทั้งเรื่องที่เขามาถ่ายทำภาพยนตร์ที่ฮ่องกงอีกด้วย

เช่นนี้แล้วคงสะกิดใจคนวงในอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงมีข่าวลือออกมา พูดว่าคนจีนอยากใช้นโยบายสนับสนุนของรัฐบาลฮ่องกงเพื่อแย่งโอกาสของคนในท้องถิ่น จึงเรียกร้องให้แก้ไขนโยบาย

เนื่องจากการเตรียมงานถ่ายทำ ‘โปเยโปโลเย’ งานของสตูดิโอในฮ่องกงจึงยุ่งมาก หลีเจินก็เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงได้ข่าวอย่างจำกัด และรู้เรื่องมาแค่นี้

เธอเอ่ยคำขอโทษ “คุณลู่ ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ฉันน่าจะรายงานเรื่องพวกนี้กับคุณเร็วกว่านี้”

ลู่เฉินเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว เขาจึงหัวเราะ “ได้ยินเสียงแมลงกระชอนร้องก็จะไม่ทำนาแล้วเหรอ พวกเราก็ทำงานของเราไป ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องไร้สาระพวกนี้”

ฐานที่มั่นของเขาอยู่ที่ประเทศจีน ฮ่องกงเป็นแค่เวทีให้เขาก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์เท่านั้น การเข้าไปร่วมโต้เถียงข่าวซุบซิบนั้นโง่เกินไป เสียทั้งกำลังและเวลา

อีกทั้งนกน้อย ไยจะรู้ปณิธานของพญาหงส์!

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar