(นิยายแปล) Perfect Superstar นิยาย บท 474

สรุปบท ตอนที่ 474 ให้ความสำคัญ: (นิยายแปล) Perfect Superstar

อ่านสรุป ตอนที่ 474 ให้ความสำคัญ จาก (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 474 ให้ความสำคัญ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life (นิยายแปล) Perfect Superstar ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 474 ให้ความสำคัญ

สำหรับความไม่สนใจของลู่เฉิน หลีเจินยิ่งรู้สึกเครียดมาก

ช่วงที่ลู่เฉินออกจากฮ่องกงกลับไปปักกิ่ง ภายใต้การนำทีมของผู้จัดการสตูดิโอเฉินเหวินเฉียง ทางสตูดิโอได้ให้ความร่วมมือกับเจียหยางพิคเจอร์สเพื่อเตรียมงานถ่ายทำภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ ทุกคนจึงงานยุ่งมาก เธอเองก็เช่นกัน

และด้วยเพราะสาเหตุนี้ เมื่อเกิดพายุโจมตีลู่เฉินบนอินเทอร์เน็ต หลีเจินจึงไม่ได้ส่งข่าวกลับไปที่ปักกิ่งก่อนเป็นสิ่งแรก เธอประมาทเลินเล่อมาก

เธอคิดว่าเรื่องนี้แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ซา และเป็นเรื่องปกติของวงการบันเทิงฮ่องกง เว้นเสียแต่ว่ามีคนจงใจสนับสนุนไม่อย่างนั้นสื่อจะเปลี่ยนความสนใจเร็วมาก เพราะมีข่าวซุบซิบนินทามากมายออกมาทุกวัน

ตอนนี้มาคิดดูแล้ว เรื่องราวมันรุนแรงมาก ดังนั้นเธอจำเป็นต้องเตือนลู่เฉิน “เฉินหยวนเฉินคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแม้แต่ราชาเพลงหลิวเขาก็ยังไม่ไว้หน้า เขียนบทความด่าคนได้เจ็บแสบมากค่ะ”

ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “เขาแกร่งก็ปล่อยให้เขาแกร่ง ทำเป็นสายลมพัดผ่านขุนเขาก็พอ”

“อ๋า?”

หลีเจินงงเล็กน้อย…ถึงแม้จะไม่เข้าใจนัก แต่ฟังแล้วเหมือนจะสุดยอดมาก

ลู่เฉินหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ไม่มีอะไร กลับไปค่อยว่ากัน!”

‘โปเยโปโลเย’ กำลังจะเริ่มถ่ายทำแล้ว ไม่รู้ว่างานซับซ้อนยุ่งยากมีอีกเท่าไรที่ต้องทำให้เสร็จ ลู่เฉินจะเอาเวลาและกำลังที่ไหนไปทะเลาะกับคนอื่น ต่อให้เฉินหยวนเฉินปากร้ายกว่านี้ หากไม่สนใจเขาแล้วจะเป็นยังไง

พวกปาปารัสซี่กับสื่อบันเทิงคงอยากให้โลกวุ่นวาย อยากให้ลู่เฉินกับเฉินหยวนเฉินทะเลาะกันจนฟ้าดินถล่มทลาย ลู่เฉินไม่ใช่คนโง่ เป็นไปไม่ได้ที่จะหลงกลอุบายพวกนี้!

กลับมาถึงสตูดิโอที่ฮ่องกง ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ลู่เฉินถึงได้พบกับเฉินเหวินเฉียงและวั่นเสี่ยวเฉวียน

“พวกคุณเหนื่อยหน่อยนะครับ!”

สำหรับสมาชิกสำคัญที่ทำงานหนักทั้งสองคน ลู่เฉินปฏิบัติตัวมีมารยาทกับพวกเขามาตลอด

เฉินเหวินเฉียงส่ายหน้า “เป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้วครับ”

ถึงแม้ปากจะพูดอย่างถ่อมตัว แต่เขาก็แสดงความพอใจในตัวเองออกมาทางสีหน้า

แน่นอนว่าเฉินเหวินเฉียงมีเหตุผลที่ต้องภาคภูมิใจ ภายใต้การขับเคลื่อนของเขาอย่างเต็มที่ สตูดิโอกับเจียหยางพิคเจอร์สจึงให้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกัน ทีมงานของกองถ่าย ‘โปเยโปโลเย’ โดยพื้นฐานสร้างทีมขึ้นมาเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน ทีมงาน สถานที่ถ่ายทำต่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว สามารถเริ่มถ่ายทำได้ตลอดเวลา

ในระหว่างนี้ เฉินเหวินเฉียงเรียกได้ว่าใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ วิ่งติดต่องานไปทั่วอย่างเอาจริงเอาจังโดยเฉพาะการประสานงานกับโรงถ่ายไลอ้อนร็อก เขาต้องทำงานหนักมาก ใช้เส้นสายไปไม่น้อย

ในฐานะผู้จัดการสตูดิโอภาพยนตร์แห่งหนึ่ง ความพยายามของเฉินเหวินเฉียงนั้นไร้ที่ติ!

ตอนที่ลู่เฉินอยู่ปักกิ่งได้ติดต่อกับเฉินเหวินเฉียงตลอด ดังนั้นจึงรู้สถานการณ์ทุกอย่าง

วั่นเสี่ยวเฉวียนก็เห็นด้วย “เหล่าเฉินเหนื่อยมากจริงๆ วิ่งทำงานกับเขา ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง”

เขามาฮ่องกง รู้สึกเหมือนถูกเนรเทศก็ไม่ปาน เป็นผลมาจากการที่ต้องเลือกมาอย่างจนใจ

แต่หลังจากที่ได้สัมผัสกับแวดวงท้องถิ่นของฮ่องกงแล้ว วั่นเสี่ยวเฉวียนพบว่าที่นี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่ ตลาดภาพยนตร์ของที่นี่น่าทำทีเดียว เหมาะสมให้เขาขยับไม้ขยับมืออีกครั้ง

เฉินเหวินเฉียงยิ้มเอ่ยว่า “ผู้กำกับวั่นเอาผมมาล้อเล่นอีกแล้ว ผมทำได้แค่เรื่องพวกนี้แหละ ตอนถ่ายทำต้องดูที่คุณแล้ว”

ทั้งสองคนเป็นพาร์ตเนอร์กันมาพักหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาถือว่าไม่เลว

เมื่อเห็นภาพแบบนี้ ลู่เฉินรู้สึกสบายใจมาก

ตอนเย็นลู่เฉินเป็นเจ้ามือ เหมาห้องอาหารวีไอพีของภัตตาคารที่อยู่ใกล้ๆ เชิญสมาชิกใหม่ที่เพิ่งมาถึงฮ่องกงและสมาชิกเก่าของสตูดิโอมากินข้าว ถือว่าเป็นงานเลี้ยงพบปะสมาชิกใหม่และเก่า

“เฉินหยวนเฉินเป็นหนึ่งในตัวแทนสมาชิกท้องถิ่นของฮ่องกง…”

เฉินเหวินเฉียงกล่าวว่า “ลักษณะเด่นของสมาชิกท้องถิ่นของฮ่องกงคือไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะนึกถึงผลประโยชน์ของคนฮ่องกงเป็นอันดับแรก ขับไล่คู่แข่งจากต่างประเทศและคนที่อพยพย้ายถิ่นฐาน ได้ยินว่าปีหน้าเขาจะลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา”

“ผมสงสัยว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงที่เขาเอาคุณมาเป็นเป้า ข่าวโคมลอยบนอินเทอร์เน็ตคาดว่าน่าจะมีคนจงใจปล่อยข่าว ดังนั้นคุณอย่าประมาท อย่าประเมินพลังการปลุกปั่นยั่วยุของพวกเขาต่ำเกินไป”

ก่อนหน้านั้นหลีเจินก็พูดกับลู่เฉินว่าเฉินหยวนเฉินร้ายกาจมาก ลู่เฉินไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่ตอนนี้เฉินเหวินเฉียงได้เปิดเผยเบื้องหลังที่ลึกเข้าไปอีกให้เขาฟัง เช่นนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับคนคนนี้แล้ว

หลายครั้งที่คุณไม่ไปหาเรื่อง เรื่องยุ่งๆ ก็จะมาหาคุณเอง มองข้ามกับหลีกเลี่ยงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา

ลู่เฉินครุ่นคิด แล้วเอ่ยว่า “อย่างนั้นก็ต้องหาโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง ตอนบ่ายที่อยู่ในสนามบินผมเกือบถูกนักข่าวขวางเอาไว้”

จนถึงตอนนี้สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดมากก็คือ นักข่าวพวกนี้รู้เที่ยวบินของตัวเองได้อย่างไร

เฉินเหวินเฉียงหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ปาปารัสซี่พวกนี้จมูกไวมาก และพวกเขาก็มีสายอยู่ในบริษัทสายการบินใหญ่ๆ หลายแห่ง ศิลปินดาราเข้าออกฮ่องกงล้วนรู้ล่วงหน้า ต่อไปคุณใช้ช่องทางวีไอพีจะดีที่สุด”

ลู่เฉินแสดงออกว่าได้รับบทเรียนแล้ว…กลอุบายนี้แยบยลนัก

เฉินเหวินเฉียงพูดต่อว่า “ถ้าจะชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างนั้นก็อย่าไปหานักข่าวปาปารัสซี่เลยครับ พวกเขาเป็นพวกเขียนข่าวมั่วมืออาชีพ ต้องไปออกรายการที่สถานีโทรทัศน์ถึงจะดีที่สุด”

เขาพูดกับหลีเจินว่า “อาเจิน สองสามวันนี้เธอคอยสังเกตหน่อย ว่ามีสถานีโทรทัศน์ไหนส่งคำเชิญมาบ้าง”

หลีเจินพยักหน้า “ได้ค่ะ”

ผลสรุปคือเฉินเหวินเฉียงพูดถูกเผง ลู่เฉินกลับถึงฮ่องกงวันที่สอง ก็มีสถานีโทรทัศน์สามแห่งส่งคำเชิญให้เขาไปออกรายการ!

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar