ตอนที่ 491 เลือก
ครั้งนี้ คนที่รับสายคือโจวอี้
เขาพูดเสียงขรึมว่า “คุณลู่ ผมกำลังไป มากสุดอีกสองสามนาทีก็จะถึงครับ”
โจวอี้เป็นนักธุรกิจที่ฉลาดมากคนหนึ่ง และหลายครั้งคนที่ฉลาดมักถูกอธิบายว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ เมื่อเจอปัญหากับหงหวาโจวอี้ทำตัวหัวเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก ไม่อยากช่วยแบ่งเบาภาระกดดันจากลู่เฉิน
แต่ท่าทีของเขาในตอนนี้ก็ดีไร้ที่ติ ในฐานะนักธุรกิจชาวฮ่องกงที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนหนึ่ง กำลังและฐานะของโจวอี้ไม่สามารถเทียบกับมหาเศรษฐีระดับชั้นนำได้ แต่ก็ไม่ใช่คนมีเงินธรรมดาทั่วไป ถือว่ามีฐานะมากพอสมควร
เขามายังสถานที่ถ่ายทำด้วยตัวเอง เพื่อสนับสนุนลู่เฉินอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่เฉินขี้เกียจเดาความคิดของอีกฝ่าย เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อครู่อย่างคร่าวๆ อีกครั้ง สุดท้ายก็พูดกับโจวอี้อย่างตรงไปตรงมา “เถ้าแก่โจว ผมต้องการจัดงานแถลงข่าวครับ อยากจะบอกความจริงกับสื่อและสาธารณชนขณะเดียวกันก็จะประกาศโทษถึงพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของหงหวาด้วย”
“ผมอยากรู้ว่า ตอนนี้คุณช่วยเชิญสื่อที่มีน้ำหนักมาได้มากเท่าไรครับ”
ลู่เฉินพูดถึง ‘มีน้ำหนัก’ สามคำนี้หนักแน่นเป็นพิเศษ เขาเชื่อว่าโจวอี้เข้าใจความหมายของตนเอง
โจวอี้เข้าใจแน่นอนอยู่แล้ว ครั้งนี้ลู่เฉินอยากจะสู้กับหงหวาให้ถึงที่สุด!
และถ้าหากโจวอี้ออกหน้าเชิญนักข่าวจากสื่อที่มีน้ำหนักมาได้ นั่นก็หมายความว่าเขาถูกลู่เฉินจับมัดไว้กับการสู้รบครั้งนี้เป็นมั่นเหมาะแล้ว ไม่สามารถโอนเอนไปมาเหมือนตอนก่อนหน้าได้อีก จำเป็นต้องแสดงทัศนคติของตัวเองเพื่อสนับสนุนลู่เฉินอย่างชัดเจน
คนวัยรุ่นสมัยนี้ เก่งจริงๆ เลย!
โจวอี้เงียบไปและกำลังครุ่นคิด
ทว่าลู่เฉินกลับไม่ให้เขาถ่วงเวลา พูดอย่างไม่เกรงใจเลยว่า “เถ้าแก่โจว ถ้าหากคุณทำไม่ได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาแล้วครับ”
นี่คือการแจ้งให้ทราบครั้งสุดท้ายของลู่เฉิน ถ้าอยากจะร่วมงานกันต่อไป ก็ต้องหยิบท่าทีของการร่วมงานกันออกมา
ไม่อย่างนั้นทุกคนก็โบกมือบ๊ายบาย!
โจวอี้ถอนหายใจยาวแล้วเอ่ยว่า “ให้เวลาผมครึ่งชั่วโมงครับ”
แน่นอนว่าเขาไม่อยากปะทะกับตระกูลเจี่ยงโดยตรง ความคิดชั่วแล่น ไม่มีส่วนช่วยใดๆ ต่อธุรกิจของเขา ตรงข้ามกลับก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยากที่ไม่จำเป็น
โจวอี้ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากเป็นอย่างมาก เขาชอบการหาเงินที่เร็วและสบาย
แต่ฮ่องกงในตอนนี้หาเงินไม่ง่ายแล้ว การแข่งขันในธุรกิจมีความดุเดือดเป็นที่สุด กำไรหนึ่งเปอร์เซ็นต์อาจจะต้องทุ่มเทความพยายามถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และเกือบจะต้องขาดทุนด้วยซ้ำ
ดังนั้นโจวอี้ถึงได้ซื้อกิจการของเจียหยางพิคเจอร์สและลงทุนหลายด้าน ไม่วางไข่ไก่ไว้ในตะกร้าเดียวกัน
โจวอี้ก็คาดหวังกับโปรเจกต์ภาพยนตร์ของลู่เฉินเป็นอย่างมาก จากที่ทำความรู้จักลู่เฉินอย่างจริงจัง เขาพบว่าชายหนุ่มที่เดบิวต์ในประเทศจีนไม่ถึงสองปีคนนี้ สร้างปาฏิหาริย์ติดต่อกันมาแล้วหลายครั้ง
คนที่เดินตามลู่เฉิน เชื่อมั่นลู่เฉิน สนับสนุนลู่เฉิน ล้วนได้รับการตอบแทนมหาศาล
และเนื่องจากความเข้าใจแบบนี้ ดังนั้นยามที่ต้องเลือก โจวอี้จึงเลือกลงเบี้ยพนันบนตัวลู่เฉิน
แน่นอนว่า เขาก็มีไพ่ตายเหมือนกัน
ใบหน้าของลู่เฉินมีรอยยิ้มในที่สุด น้ำเสียงดูอ่อนโยนขึ้น “หนึ่งชั่วโมงก็ได้ครับ งานแถลงข่าวจะจัดขึ้นเวลาเก้าโมงครึ่ง ทางผมเตรียมข้อมูลไว้แล้ว”
เมื่อตัดสินใจแล้ว โจวอี้จึงแสดงความเด็ดขาดที่นักธุรกิจตัวจริงพึงมีออกมาทันที “ครับ!”
เรื่องจัดงานแถลงข่าวกะทันหันจัดการสำเร็จแล้ว
ลู่เฉินเพิ่งจะวางสายจากโจวอี้ ทางเฉินเหวินเฉียงก็พาตำรวจนายหนึ่งมาหาเขา
“คนนี้คือคุณลู่เฉินเถ้าแก่ของพวกเราครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar