ตอน ตอนที่ 499 ฉันแสดงเอง จาก (นิยายแปล) Perfect Superstar – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 499 ฉันแสดงเอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายSlice of Life (นิยายแปล) Perfect Superstar ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 499 ฉันแสดงเอง
โจวอี้บอกลู่เฉินในโทรศัพท์ว่า เจี่ยงเฉิงหวาของหงหวาเชิญผู้อาวุโสท่านหนึ่ง อยากจะติดต่อผ่านท่านเพื่อขอโทษและยอมรับผิดต่อลู่เฉิน และกำหนดว่าจะจัดงานเลี้ยงขอโทษต่อหน้าลู่เฉินในวันพรุ่งนี้ตอนเย็นที่โรงแรมเก็นติง!
ผู้อาวุโสท่านนี้เป็นคนมีคุณธรรมน่าเคารพนับถือและมีชื่อเสียงมาก โจวอี้นับดูแล้วก็ยังเป็นรุ่นน้องของเขา เจี่ยงเฉิงหวาเชิญระดับเทพออกมา คาดว่าคงทุ่มเทสูงมาก และยังพิสูจน์ถึงความจริงใจของตัวเอง
ลู่เฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ก็ได้ครับ ผมก็ต้องให้เกียรติผู้อาวุโสเหมือนกัน พรุ่งนี้ตอนเย็นจะไปตรงตามเวลานัดครับ”
“อย่างนั้นก็ดีมากครับ!”
โจวอี้หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “เจี่ยงเฉิงหวาแทบจะเอาหัวโขกพื้นเลยทีเดียว พวกเราก็อย่าเล่นมากกว่านี้เลย อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขจะนำพาความมั่งคั่งมาให้”
“อ้อใช่ กองถ่ายของพวกเราจะเริ่มถ่ายทำใหม่เมื่อไรครับ”
อันที่จริงโจวอี้เป็นคนหยิ่งและถือตัวมาก ทว่าความหยิ่งผยองของเขาถูกเก็บซ่อนไว้ในกระดูก ไม่เผยออกมาให้เห็นได้ง่าย คนในวงการธุรกิจของฮ่องกงที่เข้าตาของเขานั้นมีไม่มากนัก
แต่สำหรับลู่เฉินชายหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าตัวเองมากกว่าสิบปีผู้นี้ ตอนนี้เขาเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ ความคิดเล็กคิดน้อยที่เคยมีแต่เดิมพลันมลายหายไปหมดแล้ว และอยากจะร่วมงานครั้งนี้ต่อด้วยความจริงใจ
ลู่เฉินตอบว่า “เริ่มถ่ายทำใหม่วันนี้ครับ”
เวลาล้วนมีค่า จะปล่อยเวลาให้เสียเปล่าไม่ได้ ถูกหงหวาถ่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ความเสียหายด้านเงินทองอันที่จริงเป็นเรื่องรองลงมา ที่สำคัญกว่าคือแผนการทำงานถูกรบกวนจนยุ่งเหยิง ทำให้ลู่เฉินค่อนข้างหงุดหงิด
ตอนนี้เจี่ยงเฉิงหวายอมรับว่าทุกอย่างจบลงแล้ว กองถ่ายภาพยนตร์เริ่มถายทำใหม่วันนี้จึงถูกต้องเหมาะสม
โจวอี้ถามอย่างใส่ใจว่า “แล้วนักแสดงที่เล่นบทปีศาจแม่เฒ่าหาได้หรือยังครับ”
ลู่เฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
โจวอี้ถึงแม้จะซื้อกิจการเจียหยางพิคเจอร์ส กลายเป็นเถ้าแก่ของบริษัทภาพยนตร์โทรทัศน์เจ้าเก่าแห่งนี้ แต่ความเป็นจริงเขาไม่เข้าใจเรื่องภาพยนตร์เลย งานต่างๆ จึงมอบให้กับบุคลที่เชี่ยวชาญรับผิดชอบ และไม่เคยถามรายละเอียดมาก่อน
ลู่เฉินไปมาหาสู่กับเขาสองสามครั้ง จึงพอเข้าใจเขาระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงรู้สึกงงมาก “ตอนนี้ยังไม่มีครับ แต่ไม่มีผลกระทบต่อการถ่ายทำใหม่วันนี้ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”
โจวอี้พูดอย่างจนใจว่า “ก็ไม่มีอะไรครับ คือหลิวเจ้าฮุยมาหาผม บอกว่าอยากกลับเข้ากองอีกครั้ง และยังบอกอีกว่าอยากจะยกน้ำชาขอโทษคุณ เขากับญาติคนหนึ่งของผมถือว่าเป็นเพื่อนซี้กัน มาร้องไห้น้ำตาตกขอร้องผม…”
หลิวเจ้าฮุยก็คือนักแสดงบทปีศาจแม่เฒ่าที่ได้รับการแนะนำจากเจียหยางพิคเจอร์ส เช่นเดียวกับหม่าหรงเจิน คนคนนี้ก็มีประสบการณ์การแสดงอย่างมากมาย
แต่นักแสดงมากประสบการณ์ใช่ว่าจะแข็งแกร่ง ภายใต้การข่มขู่ของหงหวากับตระกูลเจี่ยง เขาถอนตัวออกจากกองถ่ายเป็นคนแรก
ตอนนี้เสียใจสำนึกผิดอยากจะกลับเข้ากองใหม่ คงได้ยินข่าวอะไรมาแน่นอน
ลู่เฉินตอบทันทีว่า “คนนี้ผมจ้างไม่ไหวครับ คุณช่วยตอบเขาแทนผมด้วยนะครับ”
ล้อเล่นอะไรกัน คนแบบนี้ถ้าหากให้เขากลับมาอีกครั้ง คนที่คอยเฝ้ากองอยู่จะคิดอย่างไรเล่า
ลู่เฉินไม่ใช่คนดีที่ไร้หลักการ!
การปฏิเสธของลู่เฉิน โจวอี้ไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด เขายิ้มแล้วเอ่ยว่า “ได้ครับ ผมจะปฏิเสธเขาเอง ความจริงเขาก็ไม่ได้พูดว่าจะต้องกลับมาจริงๆ แค่รู้สึกกลัวนิดหน่อย”
ลู่เฉินครุ่นคิดเล็กน้อย และเข้าใจความหมายของโจวอี้ทันที
หลิวเจ้าฮุยกลัวหงหวากับตระกูลเจี่ยงจึงเป็นฝ่ายถอนตัวจากกองเอง ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าลู่เฉินเป็นฝ่ายชนะ เขากลัวว่าจะถูกลู่เฉินคิดบัญชีย้อนหลัง ดังนั้นถึงได้บากหน้ามาขอร้องโจวอี้
กลับเข้ากองไม่ใช่วัตถุประสงค์ แต่ร้องขอความเมตตาต่างหากคือเรื่องจริง!
เมื่อเข้าใจประเด็นสำคัญที่อยู่ในนี้ ลู่เฉินรู้สึกไม่ชอบใจหลิวเจ้าฮุยเป็นอย่างมาก
ถ้าหากใช้เวลาครึ่งเดือนสำหรับเฉินเฟยเอ๋อร์คนเดียว ถือว่าเพียงพอแล้ว!
แต่ลู่เฉินคาดคิดไม่ถึง “แบบนั้นจะทำได้ยังไง นั่นมันทำลายภาพลักษณ์ของคุณไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ๆ!”
ควรทราบว่าเดิมทีเขาอยากให้เฉินเฟยเอ๋อร์แสดงบทเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน แต่เนื่องจากคิวไม่ว่าง บวกกับผู้ชมก็เริ่มเบื่อความสวยงามเหล่านี้ ดังนั้นเฉินเฟยเอ๋อร์จึงไม่ได้มาที่ฮ่องกงด้วย
ตอนนี้ให้เธอแสดงบทปีศาจแม่เฒ่า ภาพลักษณ์เปลี่ยนกะทันหันเกินไป ลู่เฉินกังวลว่าจะมีผลกระทบในแง่ลบต่อภาพลักษณ์ของเฉินเฟยเอ๋อร์
เฉินเฟยเอ๋อร์กลับจริงจังมาก “ฉันคิดว่าไม่มีปัญหา นักแสดงที่แท้จริง จะยึดภาพตัวละครสไตล์เดิมตลอดไปไม่ได้แสดงเป็นคนดีได้ ก็ต้องแสดงเป็นคนร้ายได้เหมือนกัน”
“ฉันยินดีที่จะรับความท้าทายแบบนี้…”
ขณะที่พูด เธอค่อยๆ ลุกขึ้นซบไปที่อ้อมอกของลู่เฉิน พูดอย่างอ่อนโยนว่า “นายทุ่มเทกับภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งมากมาย ฉันหวังว่าจะช่วยนายได้บ้าง”
เพื่อภาพยนตร์ ‘โปเยโปโลเย’ เรื่องนี้ ลู่เฉินเริ่มวางแผนลดน้ำหนักเมื่อหนึ่งเดือนก่อน จนถึงตอนนี้ผอมลงมากกว่าห้ากิโลกรัม แต่เดิมเขาไม่ได้มีรูปร่างกำยำล่ำสันอยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงดูอ่อนแอไม่บึกบึนมาก เหมาะสมกับความต้องการของตัวละคร
เขามาต่อสู้ที่ฮ่องกงเพียงลำพัง พยายามทำตัวกลมกลืนในแวดวงของฮ่องกง เริ่มจากไม่มีอะไรเลยจนสามารถก่อตั้งสตูดิโอลู่เฉินขึ้นมาได้ หาทีมงานมาร่วมงานถ่ายทำภาพยนตร์ และยังถูกยั่วยุจากกลุ่มอิทธิพลของแก๊งมาเฟีย เส้นทางนี้เดินไม่ราบรื่นนัก
หลี่มู่ไป๋ในฐานะเพื่อนของลู่เฉิน ได้เคลื่อนทัพในประเทศจีนต่อสู้กับตระกูลเจี่ยง ช่วยลู่เฉินจัดการศัตรู แล้วเธอในฐานะคนรักที่สนิทสนมใกล้ชิดที่สุดของลู่เฉิน จะนิ่งดูดายได้อย่างไร
ทำลายภาพลักษณ์?
ก็ไม่ถึงขนาดนั้น หากแสดงบทร้ายได้ออกรสออกชาติ ก็สามารถยกระดับตัวเองได้เหมือนกัน!
ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ ลู่เฉินก็เข้าใจความคิดของเฉินเฟยเอ๋อร์ เขาสวมกอดสาวงามผู้เป็นที่รักอยู่ในอ้อมกอด รู้สึกถึงความสงบสุขที่อยู่กลางใจ อยากจะหยุดเวลา ณ ตอนนี้ให้อยู่แบบนี้ตลอดไป
…………………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar