อ่านสรุป ตอนที่ 635 นี่คือพี่ชายฉันเอง จาก (นิยายแปล) Perfect Superstar โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 635 นี่คือพี่ชายฉันเอง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายSlice of Life (นิยายแปล) Perfect Superstar ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 635 นี่คือพี่ชายฉันเอง
ลู่เสวี่ยรีบเร่งฝีเท้า แสงยามเย็นที่หลงเหลือหลังจากอาทิตย์ลับแสงทอดตกลงบนร่างเธอ ราวกับกำลังห่มร่างเธอไว้ด้วยเสื้อคลุมสีทองอร่าม ผมยาวของเธอโบกสะบัดปลิวไหวราวกับกระโปรงที่สะบัดไปมา รอยยิ้มเบิกบานบนใบหน้าเหมือนกับดอกไม้ฤดูร้อนที่ผลิบาน มีความงดงามของเด็กสาวที่บรรยายออกมาไม่ถูก ทำให้คนรอบข้างจดจ้องไม่วางตา
เธอเหมือนกับนกน้อยโผบินเข้าสู่ป่าโถมตัวเข้าสู่อ้อมกอดของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างเมอร์เซเดสเบนซ์
อ๋า!
คนที่เห็นภาพนี้ต่างก็ลอบถอนหายใจในใจ ความรู้สึกซับซ้อนมากมายบรรยายออกมาไม่ถูก
และอู๋เฮ่าที่เพิ่งปรากฏตัวที่ประตูมหาวิทยาลัยก็เห็นฉากนี้เข้าพอดี เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเลย เขาไม่เคยคิดฝันว่าเทพธิดาที่เขาหลงใหลจะอยู่ใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นในที่สาธารณะได้ขนาดนี้
เขาเลือดร้อนขึ้นสมองทันที อู๋เฮ่าที่เสียสติไปแล้ว รีบเร่งฝีเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเดินพุ่งเข้าไปใกล้ในระยะไม่กี่ก้าวนั้น จู่ๆ เขาก็รู้สึกขลาดกลัวขึ้นมาทันที เพราะว่าชายหนุ่มที่สวมแว่นตาสีดำคนนี้สูงกว่าเขามากนัก แม้ว่าจะไม่เห็นใบหน้าทั้งหมด แต่ก็รูปร่างหน้าตาดีกว่าเขามาก
และเขาก็ดูมีเงินออกอย่างนั้น รถเมอร์เซเดสเบนซ์ที่เปล่งประกายความหรูหราออกมา หากไม่มีเงินสองล้านหยวนจะซื้อไม่ได้เลย คนคนนี้ต้องเป็นคนรวยอย่างแท้จริง
“เสียว…ลู่เสวี่ย เขาคือใครเหรอ”
ไหนๆ ก็วิ่งมาแล้ว อู๋เฮ่าไม่ยอมแพ้ ในใจลังเลอยู่นานก่อนจะเอ่ยปากถาม
ลู่เสวี่ยหันกลับมาปรากฏว่าเห็นอู๋เฮ่าเข้า อดไม่ได้ที่จะตกใจ ก่อนจะปรากฎสีหน้ารำคาญใจออกมา “อู๋เฮ่า ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับพี่ รบกวนต่อไปอย่ามากวนใจฉันอีก ขอบคุณมาก!”
ชายร่างสูงใหญ่ที่กอดลู่เสวี่ยไว้ขมวดคิ้ว จู่ๆ อากาศโดยรอบก็เย็นลงทันที
อู๋เฮ่ารู้สึกเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง ไม่เพียงแต่ความเกลียดชังจากลู่เสวี่ย ยิ่งไปกว่านั้นคือความกดดันไร้รูปร่างที่แผ่ออกมาจากชายผู้นั้น ริมฝีปากอู๋เฮ่าขยับอยู่หลายครั้ง เหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก สุดท้ายก็หันหลังเดินจากไปด้วยสีหน้าซีดเซียว
หากอยู่ต่อไปก็จะไม่เป็นการทำให้ตัวเองอับอายขายหน้าหรือ นอกจากกลายเป็นเรื่องตลกแล้วยังจะเป็นอะไรได้อีก
ลู่เสวี่ยพึมพำอย่างไม่พอใจอีกสองสามคำ ชายร่างสูงใหญ่นั้นส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะปล่อยเธอจากอ้อมกอด
ตอนนี้เอง ที่หวังเยี่ยน ไป๋ฟางฟาง และหลินอวี่เยียนสามคนนั้นตามมาถึง หวังเยี่ยนใช้สายตารังเกียจมองอู๋เฮ่าด้วยหางตา เธอไม่เคยรู้สึกดีกับตาทึ่มขี้ตื๊อนี้เลย
เพื่อนสนิทสองสามคนยังใช้สายตาสงสัยมองไปยังชายร่างสูงคนนั้น
ผู้ชายคนนี้ก็คือพี่ชายของลู่เสวี่ย? ช่างมีสไตล์เหลือเกิน
ลู่เสวี่ยรีบแนะนำ “พี่คะ พวกเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องของหนูค่ะ พวกเรารีบขึ้นรถก่อนเถอะ”
ถ้ายืนอยู่ที่นี่ต่อไปมันจะดึงดูดสายตาผู้คนเกินไป แค่เรื่องคาดไม่ถึงเมื่อกี้ก็เรียกสายตาจับจ้องได้ไม่น้อยเลย
เธอยังไม่อยากเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของพี่ชายในตอนนี้
ชายร่างสูงพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า “ได้ อย่างนั้นพวกเราขึ้นรถก่อนค่อยคุยกัน”
เขาเชิญเด็กสาวเหล่านี้ขึ้นรถอย่างสุภาพบุรุษ แน่นอนว่าลู่เสวี่ยนั่งในตำแหน่งข้างคนขับ หวังเยี่ยนและสองคนที่เหลือนั่งด้านหลังได้พอดี
เมื่อขึ้นรถปิดประตูเรียบร้อยแล้ว และได้ปิดกั้นสายตาจากคนภายนอกแล้ว ลู่เสวี่ยที่ถอนหายใจแล้วเฮือกใหญ่ถึงได้แนะนำกับเพื่อนรูมเมตอย่างเป็นทางการว่า “นี่คือพี่ชายของฉันเอง ลู่เฉิน”
ลู่เฉินถอดแว่นตาดำออก แล้วหันหน้าไปหาเด็กสาวทั้งสามคน ยิ้มพลางพูดว่า “สวัสดีครับ”
หวังเยี่ยน ไป๋ฟางฟาง และหลินอวี่เยียน ต่างก็ตกตะลึงจนตาค้าง
พวกเธอหลับฝันไปคงคิดไม่ถึงแน่ว่า พี่ชายของลู่เสวี่ยคนนี้คือลู่เฉิน เป็นลู่เฉินคนที่ร้องเพลง ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ลู่เฉินที่แสดงนำในเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ กับ ‘ฟูลเฮ้าส์’ และถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘โปเยโปโลเย’
และยังเป็นลู่เฉินที่เป็นหนึ่งในโค้ชทั้งสี่ของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’
ในห้องส่วนตัวที่จองไว้นั้น เฉินเฟยเอ๋อร์และเถียนเถียนได้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“พี่สะใภ้”
เมื่อได้เห็นหน้าเฉินเฟยเอ๋อร์ ปากของลู่เสวี่ยราวกับเคลือบน้ำผึ้งเอาไว้ “พี่สะใภ้สวยขึ้นอีกแล้วนะ”
ลู่เสวี่ยเดินตรงไปนั่งด้านข้างเฉินเฟยเอ๋อร์ทันที
เฉินเฟยเอ๋อร์เอ็นดูลู่เสวี่ยเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่รักเพราะเป็นน้องของแฟนเท่านั้น แต่เป็นความรักที่ออกมาจากใจจริงของเธอ
เธอกอดลู่เสวี่ยและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทั้งยังหยิบของขวัญที่ได้เตรียมมามอบให้แก่ลู่เสวี่ย
เป็นสร้อยข้อมือเพชรคาร์เทียร์หลากสี
ลู่เสวี่ยยิ้มอย่างมีความสุขไปทั้งดวงตา และแนะนำเพื่อนทั้งสามคนให้เฉินเฟยเอ๋อร์ได้รู้จัก
เมื่อได้พบกับเฉินเฟยเอ๋อร์ หวังเยี่ยน ไป๋ฟางฟาง และหลินอวี่เยียนต่างระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก เพราะแม้แต่หลินอวี่เยียนที่สวยที่สุดในสามคน ยังโดนความงดงามของราชินีแห่งวงการเพลงคนนี้กดทับในทุกทิศทาง เกรงว่าสิ่งเดียวที่หลินอวี่เยียนมีเหนือกว่าคือความเยาว์วัยเท่านั้น
ในแง่ของรูปลักษณ์นั้น พวกเธอยังเทียบกับเถียนเถียนไม่ได้ด้วยซ้ำ
เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้ถือตัวเป็นดาราดังสักนิดเดียว เธอปฏิบัติต่อเพื่อนทั้งสามคนของลู่เสวี่ยอย่างเป็นกันเองและสุภาพเป็นอย่างมาก พูดคุยยิ้มหัวเราะอย่างเป็นกันเอง ไม่นานบรรยากาศในห้องก็เป็นกันเองอย่างน่าเหลือเชื่อ
ลู่เฉินสบายใจเป็นอย่างมาก ภายในห้องที่มีเสียงพูดคุยกันอย่างสดใส เพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนของลู่เสวี่ยมีความเป็นผู้ใหญ่ จะบอกว่าพวกเธอยังเด็กและงดงามก็คงไม่เกินไปเลย
ถึงแม้ว่าลู่เฉินจะไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นนอกจากกับเฉินเฟยเอ๋อร์ แต่เขากลับรู้สึกมึนเมาทั้งที่ไม่ได้ดื่มเหล้าสักหยดเดียว
…………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar