ตอนที่ 645 ก็จะไปด้วย
“ทำไมนายต้องมอบหนังสือชุดเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ให้หลี่ว์เจิ้นไห่ล่ะ”
หลังจากที่หลี่ว์เจิ้นไห่บอกลาจากไป หลี่มู่ซืออดไม่ได้ที่จะถามลู่เฉินอย่างสงสัย
หนังสือชุดนั้นลู่เฉินกำชับให้ผู้ช่วยไปเอามาจากในรถ เห็นได้ชัดว่าเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ได้คิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพียงแต่หลี่มู่ซือมองไม่ออกว่าลู่เฉินทำอย่างนี้มีเจตนาอะไร
แม้ว่าเธอจะไม่สนใจในตัวหลี่ว์เจิ้นไห้ แต่อีกฝ่ายยังไงก็ถูกแนะนำมาโดยเพื่อน อย่างไรก็ต้องรับผิดชอบหน่อย ไม่ควรแกล้งทำเป็นไม่รู้เห็นอะไรทั้งนั้น
ลู่เฉินยกถ้วยชาขึ้น ยิ้มก่อนจะพูดว่า “รองผู้อำนวยการหลี่ว์คนนี้น่าสนใจดี เป็นคนที่ควรค่าแก่การคบหาสมาคม ที่ผมให้หนังสือชุดนั้นไป ก็เพราะอยากให้โอกาสเขาสักครั้ง”
หลี่มู่ซือขมวดคิ้ว “พูดภาษาคนสิ!”
ลู่เฉินเกือบจะสำลักตาย เขารีบวางถ้วยชาลง แล้วอธิบายว่า “ที่จริงก็ไม่มีอะไรซับซ้อน หลี่ว์เจิ้นไห่ในฐานะตัวแทนของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานต้องอยากร่วมงานกับผมแน่นอน แต่โปรเจกต์ที่ผมทำอยู่ตอนนี้ไม่มีที่ว่างแล้ว”
ละครเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ใช้เวลาเตรียมการนานอย่างนั้น ผู้ที่ร่วมมือกันก็ผ่านการต่อรองผลประโยชน์กันมาแล้ว จบลงที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งโมเดลแห่งความสำเร็จตอนที่ถ่ายทำละคร ‘ฟูลเฮ้าส์’
สิทธิ์การฉายเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ แน่นอนว่าต้องตกอยู่ในมือของสถานีโทรทัศน์เจ้อตงและสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งอยู่แล้ว หากสถานีโทรทัศน์เซียงหนานอยากจะเบียดเข้ามามีส่วนร่วมในซุปถ้วยนี้ละก็ ต่อให้ลู่เฉินรับปาก สถานีโทรทัศน์เจ้อตงและสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งก็ไม่มีทางไม่เห็นด้วย
ลู่เฉินเองก็ไม่ได้ใจกว้างพอที่จะไปผิดใจกับผู้ร่วมลงทุนที่ยิ่งใหญ่ทั้งสอง เพื่อต้อนรับ ‘อดีตศัตรู’ ต่อให้บุญคุณความแค้นจางหายไปหลังจากที่หลี่ว์เจิ้นไห่มาพบกันในครั้งนี้แล้วก็ตาม
แต่ดังคำกล่าวที่ว่าไม่มีมิตรแท้ตลอดกาล มีเพียงผลประโยชน์ตลอดไปนั่นแหละ ละครเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ นั้นไม่อาจร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนานได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผลงานเรื่องต่อไปจะไม่ได้ด้วยนี่
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่แท้จริงที่เขามอบหนังสือเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ให้หลี่ว์เจิ้นไห่ไป
เพราะเรื่องต่อไปที่ลู่เฉินจะถ่ายทำคือเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นั่นเอง
เพียงแต่เขาส่งสัญญาณได้ลึกลับไปหน่อย
ตอนที่หลี่ว์เจิ้นไห่จากไปเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เข้าใจทันที แต่ลู่เฉินเชื่อว่าไม่นานเขาต้องเข้าใจแน่
“ผู้ชายนี่เห็นได้ชัดเลยว่าพึ่งพาไม่ได้…”
หลี่มู่ซือเมื่อฟังลู่เฉินอธิบายจนเข้าใจแล้ว ก็แสดงอาการดูถูกเขาทันที “ลูกเล่นแพรวพราวจริงนะ”
ลู่เฉินยิ้มขื่นพลางลูบจมูกตน เขาตัดสินใจไม่ถือสาเธอ
หลี่มู่ซือยังพูดต่ออีกว่า “แต่ว่าก็ว่าเถอะ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’นี้ ถ้าถ่ายทำเป็นละครละก็ ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์เซียงหนานถือว่าไม่เลว วิวทิวทัศน์ทางเซียงหนานดีมาก เงื่อนไขการถ่ายทำก็ไม่เลวเลย”
“อ๋า?”
ลู่เฉินชะงักไป หากคำพูดนี้ออกมาจากปากของคนในวงการละก็มันปกติมาก แต่เมื่อออกมาจากปากของหลี่มู่ซือ มันทำให้เขารู้สึกว่าแปลกอย่างบอกไม่ถูก
“อ๋าอะไรกัน!”
หลี่มู่ซือกลอกตาใส่เขา ก่อนจะพูดว่า “หนังสือนี้ฉันเคยอ่าน ก่อนหน้านี้เวลาเบื่อๆ ก็เคยดูละครที่สถานีโทรทัศน์เซียงหนานผลิตด้วย คุณภาพผลงานของพวกเขาถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในประเทศได้เลย”
ลู่เฉินหัวเราะก่อนจะพูดว่า “พี่ก็ชอบหนังสือเล่มนี้เหรอ”
หลี่มู่ซือพยักหน้า “ใช่แล้ว เฟยเอ๋อร์ให้ฉันมาชุดหนึ่ง ใช้เวลานานเลยแหละกว่าจะอ่านจบ”
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ที่มอบให้เธอ ลู่เฉินยังไม่รู้เรื่องนี้เลย เขาเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว “อย่างนั้นพี่ลองว่ามาสิ พี่ชอบตัวละครไหนในหนังสือมากที่สุด”
ปัญหานี้ ในคลับหนังสือบนอินเทอร์เน็ต ก็มีแฟนหนังสือเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ถามขึ้นมาบ่อยๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar