ตอนที่ 837 รอบปฐมทัศน์ (1)
ณ เป่าลี่แกรนด์เธียเตอร์ กรุงปักกิ่ง
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ในกรุงปักกิ่งจึงผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ดหลังฝนตก จำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าทวีคูณ และจำนวนหน้าจอก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
แต่ในสายตาของคนปักกิ่งรุ่นเก่า โรงภาพยนตร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในใจพวกเขาคือเป่าลี่แกรนด์เธียเตอร์อย่างไม่ต้องสงสัย โรงภาพยนตร์ที่มีประวัติยาวนานถึง 60 ปีแห่งนี้ ตั้งอยู่ในย่านที่เจริญรุ่งเรืองใจกลางกรุงปักกิ่ง ในช่วงแรกเป็นทั้งโรงภาพยนตร์ โรงละคร หอประชุม และอื่นๆ หลังจากบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรืออุปกรณ์ ก็ไม่เหมือนกับในอดีตอีกแล้ว
เนื่องด้วยประวัติศาสตร์ ทำเลที่ตั้ง ชื่อเสียง และประโยชน์มากมายตลอดจนสไตล์ของตัวเอง ดังนั้นภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมทั้งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่เลือกจัดแสดงรอบปฐมทัศน์ที่เป่าลี่แกรนด์เธียเตอร์ทั้งนั้น
วันเสาร์ที่ 29 กันยายน เวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง รอบปฐมทัศน์ของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ก็ได้จัดขึ้นที่เป่าลี่แกรนด์เธียเตอร์
ห้องโถงใหญ่ของเป่าลี่แกรนด์เธียเตอร์สามารถรองรับผู้ชมได้ 500 คน เฉินเฟยมีเดียไม่ได้ประชาสัมพันธ์รอบปฐมทัศน์นี้มากนัก เพียงจัดงานอย่างเรียบง่ายไม่โดดเด่น
แขกผู้มีเกียรติในรอบปฐมทัศน์ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมงานในวงการของเฉินเฟยมีเดีย เพื่อนในวงการของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ รวมทั้งตัวแทนสื่อ ผู้สร้างภาพยนตร์ เป็นต้น
แม้ว่าจะมีสื่อเพียงสิบสำนักที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการ แต่พิธีฉายรอบปฐมทัศน์ยังไม่เริ่ม ก็มีนักข่าวจากสื่อจำนวนมากที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามายึดตำแหน่งดีๆ ในเป่าลี่แกรนด์เธียเตอร์ พร้อมทั้งติดตั้งกล้องกับเลนส์ยาวเลนส์สั้นไว้เรียบร้อย
ลู่เฉินที่ออกมาต้อนรับแขกด้วยตัวเองถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน ถ้าไม่ใช่เพราะพนักงานรักษาความปลอดภัยในงานแข็งแรงพอ เกรงว่าเขาคงจะจมลงไปในฝูงนักข่าวที่รุมล้อมเหล่านี้
“ลู่เฉิน!”
“คุณลู่เฉิน ผมเป็นนักข่าวจากเว็บไซต์ซินอิ่ง ขอถาม…”
“ได้ยินมาว่ายอดจำหน่ายล่วงหน้าของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ แค่ 40 ล้าน เป็นเรื่องจริงไหมคะ”
“ลู่เฉิน หัวข้อกำลังภายในถูกมองว่าเป็นยาพิษของยอดจำหน่ายตั๋ว ถ้าอย่างนั้นคุณยังยืนกรานคำคาดการณ์ยอดจำหน่ายตั๋วของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในตอนแรกอยู่ไหมครับ”
“ลู่เฉิน…”
นักข่าวหลายสิบคนต่างคนต่างแย่งกันพูดเอะอะโวยวาย อยากจะจ่อไมโครโฟนเข้าไปในปากของลู่เฉินใจจะขาด และแต่ละคำถามที่พวกเขาถาม ก็ไม่มีความเป็นมิตรและไม่เข้ากันอีกต่างหาก เป็นการบีบคั้นผู้อื่นอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ลู่เฉินรู้ดีว่าหากเขาไม่เปิดปากพูดอะไรออกมา เกรงว่าจะรับมือกับมันได้ยากขึ้น
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโบกมือเป็นสัญลักษณ์ให้พวกนักข่าวเบาเสียงลง
นักข่าวเหล่านี้เป็นพวกกะล่อนเพียงแค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าลู่เฉินมีอะไรจะพูด ปิดปากเงียบลงอย่างช่ำชองทันที มีเพียงยื่นไมโครโฟนให้ลู่เฉินอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้โลโก้บนไมโครโฟนของตัวเองปรากฏเด่นชัดที่สุดบนกล้อง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลู่เฉินเจอกับนักข่าวหลากหลายประเภท รับมือกับพวกเขาจนมีประสบการณ์มากมาย เขาชี้ไปที่หนึ่งในนั้นไอรีนโนเวล
อีกฝ่ายถามอย่างตื่นเต้นทันที “สวัสดีครับลู่เฉิน ผมเป็นนักข่าวจาก ‘ทุกวันบันเทิง’ ไม่ทราบว่ายอดขายตั๋วล่วงหน้าของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในตอนนี้เป็นอย่างไร เปิดเผยให้ทราบหน่อยได้ไหมครับ”
ลู่เฉินตอบอย่างใจเย็น “ตอนนี้อยู่ที่ 40 กว่าล้าน รวมพรุ่งนี้เข้าไปแล้วคาดว่าไม่น่าจะถึง 50 ล้านครับ”
ข้อมูลยอดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้ากับข้อมูลยอดจำหน่ายตั๋วเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปกปิดได้ เนื่องจากมีช่องทางเปิดให้ค้นหา จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังและทำให้เป็นเรื่องตลก
จริงๆ แล้วนักข่าวจาก ‘ทุกวันบันเทิง’ รู้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพียงแค่เป็นการเปิดประเด็น เมื่อได้ยินคำตอบของลู่เฉินเขารีบรุกถามทันที “ยอดจำหน่ายล่วงหน้าน้อยกว่า 50 ล้าน หมายความว่ายอดจำหน่ายตั๋วทั้งหมดยากที่จะทะลุ 500 ล้าน พูดได้ไหมว่าคำคาดการณ์ของคุณในพิธีเปิดกล้องนั้นเป็นเรื่องที่ผิดพลาด”
สิ่งที่พวกนักข่าวชอบมากที่สุดคือประเด็นที่ถกเถียงกัน การตบหน้าใครสักคนต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร นี่นับว่าสุภาพที่สุดแล้ว
ชื่อเสียงของลู่เฉินนั้นยิ่งใหญ่คับฟ้าจนเกินไป นับตั้งแต่เขาเดบิวต์มาชีวิตราบรื่นมาโดยตลอด ประสบความสำเร็จอย่างมากในทุกๆ ด้าน และไม่เคยล้มเหลวเลยสักครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: (นิยายแปล) Perfect Superstar