อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 6

ขณะที่กำลังรู้สึกสงสัย หรูยี่ที่ไล่ตามคนชุดดำไปเมื่อคืนก็กลับมาแล้ว

“ท่านอ๋อง ข้าน้อยไล่ตามไปจนถึงนอกคูเมือง แต่คนชุดดำวรยุทธสูงมาก อีกทั้งยังเชี่ยวชาญการหลบหนี คุ้นเคยกับเส้นทางของเมืองหลวงมาก จึงทิ้งห่างข้าได้อย่างรวดเร็ว”

สีหน้าตำหนิตนเอง “ท่านอ๋อง ข้าน้อยไร้ความสามารถจริงๆ”

“ช่างเถอะ ท่านอ๋องรู้แล้ว ว่าคนชุดดำมีวรยุทธไม่ธรรมดา ”

โม่เยว่โบกมือไปมา

เมื่อคืน ตอนที่เขาต่อสู้กับคนชุดดำ แม้แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนชุดดำ

ความเจ็บปวดที่แขนยากจะทนไหว สีหน้าเขาซีดขาวเพราะเสียเลือดมากเกินไป

เมื่อครู่ หรูโม่ได้ไปเชิญท่านหมอมาตรวจบาดแผลของเขาแล้ว ท่านหมอมองแผลที่ถูกพันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ชื่นชมออกมา บอกว่าคนที่ทำแผลให้เขา ต้องมีฝีมือทางการแพทย์ไม่เลวเลยทีเดียว

โม่เยว่กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย

ผู้หญิงอย่างหยุนหว่านหนิง ทำไมจึงมีวิชาแพทย์ด้วย

เวลาสั้นๆแค่สองวัน นางทำให้เขารู้สึกทึ่งได้มากจริงๆ

ท้ายที่สุด อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเข้าใจนาง หรือว่า……นางจะไม่ใช่หยุนหว่านหนิงจริงๆ

เรื่องนี้ เขาได้สั่งการให้หรูโม่ไปตรวจสอบแล้ว

เมื่อเห็นว่าหรูยี่ยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้น เขาก็พูดเสียงขรึมว่า “ลุกขึ้นเถอะ หลังจากนี้ต้องเพิ่มการป้องกันของจวนอ๋อง อย่าให้เกิดเรื่องเหมือนเมื่อคืนขึ้นมาอีก ทางด้านคนชุดดำ ให้ส่งคนตามอย่างต่อเนื่อง”

“ขอรับ ท่านอ๋อง”

หรูยี่เพิ่งจะลุกขึ้นยืน

เขาก็ต้องขมวดคิ้ว“ท่านอ๋อง ข้าน้อยคิดว่า ตอนนี้ท่านอ๋องทั้งหลาย ต่างก็แสดงออกถึงความเป็นมิตรแค่ภายนอกเท่านั้น คนชุดดำเมื่อคืนนี้จะใช่……”

เป็นคนที่อ๋องคนใดคนหนึ่งส่งมา เพื่อลอบสังหารโม่เยว่

โม่เยว่แววตาเคร่งขรึมลง จากนั้นก็ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้”

“ตอนนี้ อย่างไรเสียภายนอกของทุกคนก็ยังคงรักษาความเป็นพี่น้องกันอยู่ ถ้าหากมีการส่งคนมาลอบสังหาร นั่นก็เท่ากับฉีกหน้ากากตนเอง”

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาแสดงออกอย่างชัดเจนมาก

สำหรับตำแหน่งรัชทายาทแล้ว เขาไม่สนใจเลยสักนิด

ใครจะขึ้นครองราชย์ เขาล้วนไม่สนใจ เพราะฉะนั้นเสด็จพี่ทั้งหลายเหล่านั้น ก็ไม่มีเหตุผลที่จะส่งคนมาฆ่าเขา

หรูยี่พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วท่านอ๋อง เมื่อครู่ตอนที่ข้าน้อยกลับมา เห็นเกี้ยวของวังมาถึงถนนใหญ่ด้านตะวันออกแล้ว ข้าน้อยคิดว่า ต้องเป็นเต๋อเฟยเหนียงเหนียงออกมาเยี่ยมท่านอ๋องแน่”

เพิ่งจะพูดจบประโยค พ่อบ้านลุงเว่ยก็วิ่งเข้ามารายงานอย่างรีบร้อนว่า เต๋อเฟยเหนียงเหนียงเสด็จมาแล้ว

โม่เยว่กับหรูยี่สบตากับครู่หนึ่ง สั่งการด้วยเสียงต่ำว่า “รู้ใช่ไหมว่าควรตอบคำถามอย่างไร”

“ข้าน้อยทราบแล้ว ข้าน้อยไม่มีทางรายงานพระสนมอย่างแน่นอน ว่าเรื่องนี้มีสาเหตุมาจากพระชายาของท่านอ๋อง”

ตอนนี้เอง ที่หน้าประตูก็มีเสียงพูดดังขึ้น “ทำไม เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น ยังคิดจะปิดบังข้าด้วย พวกเจ้าแต่ละคน ช่างบังอาจไม่กลัวถูกลงโทษเลยใช่ไหม”

หรูยี่“……”

เขามีความผิด ต้องชิ่งหนีเอาตัวรอดก่อน

โม่เยว่จ้องมองเขาด้วยสายตาดุดัน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น

เต๋อเฟยแม้จะอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ก็ดูแลตัวเองอย่างดี

นางแต่งกายอย่างสุภาพและดูสง่า แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นสนมที่ได้รับความโปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง

“หยุด”

สุดท้ายหรูยี่ก็ชิ่งหนีออกไปไม่ได้ ถูกเต๋อเฟยขวางเอาไว้ “หรูยี่ เมื่อครู่เจ้าบอกว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพระชายา เกี่ยวกับพระชายาคนไหน”

เหมือนนางจะลืมไปแล้วว่า ในเรือนชิงหยิ่ง ยังมีพระชายาหมิงที่ถูกขังเอาไว้ เป็นลูกสะใภ้ที่ถูกต้องตามธรรมเนียมของนาง

“พระสนม เมื่อครู่ข้าน้อยแค่พูดผิดไปเท่านั้น”

หรูยี่สีหน้ากระอักกระอ่วน

“พูดผิดหรือ พูดผิดยังพูดคำว่าพระชายาออกมาได้ด้วย”

เต๋อเฟยทำเสียงเย็นขึ้นจมูก เดินมาข้างเตียง เข้าใกล้หัวเตียงเพื่อมองดูโม่เยว่ ทันใดนั้นก็รู้สึกทั้งสงสารทั้งโมโห “เยว่เอ๋อร์ ดูสภาพเจ้าซิ จะให้ข้าไม่รู้สึกปวดใจได้อย่างไร”

“เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ก็ไม่ส่งคนไปบอกข้าสักคำ ถ้าหากเจ้าเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ จะให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร”

นางกำผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ นั่งลงข้างๆพลางร้องไห้ออกมา

โม่เยว่ถอนหายใจออกมาอย่างระอาใจ “เสด็จแม่ ที่ข้าไม่ยอมบอกให้ท่านรู้ ก็เพราะเกรงว่าท่านจะทุกข์ใจ”

“เหลวไหล เจ้าเป็นชีวิตจิตใจของแม่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ข้าจะอยู่คนเดียวได้อย่างไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์