“มะ ไม่มีอันใด”
คิ้วที่ขมวดของจ้าวเซียวหรานคลายออก พร้อมยิ้มอย่างเขินอาย “ทำให้ท่านอ๋องเห็นเรื่องตลกเสียแล้ว”
ผ่านไปครึ่งวัน นิสัยของจ้าวเซียวหรานผู้นี้ ก็เหมือนกับชื่อของเขา
สง่างามและอิสระ เขาขมวดคิ้วเช่นนี้เห็นได้ยากนัก
ทว่าเมื่อครู่นี้ก่อนที่โม่เยว่เข้ามา เขายังขมวดคิ้วพูดอะไรบางอย่างกับกู้หมิง ในเบ้าตาก็แดงเล็กน้อย และในดวงตาราวกับมีน้ำตาหลงเหลืออยู่ ดูราวกับพบเจอปัญหาอะไรที่แก้ได้ยาก
เช่นนี้ยังจะบอกว่าไม่มีอันใดอีก?!
เห็นเขาไม่ยอมพูด โม่เยว่ก็ไม่ได้ซักไซ้
จากนั้นก็สอบถามกู้หมิง ว่ากู้ป๋อจ้งไปที่ใด
“พ่อของข้าออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าไปแห่งใด ท่านอ๋องมาหาเขามีธุระหรือ?”
กู้ป๋อจ้งไม่อยู่ และไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ โม่เยว่ก็ไม่ได้เสียเวลารอเขากลับมา
เขาคิดว่าไปตำหนักสิงกงก่อนสักรอบ ไปดูลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา
ถึงอย่างไรตระกูลเฉิน คงไม่เคลื่อนไหวอันใดเพียงชั่วครู่ชั่วยามเป็นแน่
ดังนั้น โม่เยว่จึงสั่งให้หรูโม่อยู่ปกป้องหยุนหว่านหนิง ดูแลโจวถงรวมทั้งจับตาดูตระกูลเฉิน ส่วนเขาพาองครักษ์ลับคนอื่น มุ่งหน้าไปเยี่ยมเยือนหยวนเป่า
โม่เยว่เพิ่งจะก้าวเท้าออกไป จ้าวเซียวหรานก็ถอนหายใจเบาๆ
“อาหมิง เรื่องเสียหายนี้ของข้า พูดออกไปมีแต่จักทำให้คนหัวเราะเยาะ”
เขาเอ่ยเสียงเบา “ท่านอ๋องเพลานี้ทำอันใดไม่ถูกแล้ว หากให้เขารู้เรื่องเช่นนี้ของข้า ก็จักทำให้หูของเขามีราคีเท่านั้น!”
“ไม่หรอก”
กู้หมิงยิ้มอย่างอ่อนโยน “ท่านอ๋องไม่ใช่คนเช่นนั้น”
ในสายตาของคนอื่น โม่เยว่นั้นเย็นชาไร้ความรู้สึก
แต่กู้หมิงรู้ ว่าเขาภายนอกดูเย็นชาแต่จิตใจดี
“หากท่านอ๋องรู้ถึงความยากลำบากของเจ้า จักต้องยื่นมือช่วยเหลือเจ้าแน่ แต่ในเมื่อเจ้าไม่ยอมบอก ข้าก็ย่อมต้องเคารพในสิ่งที่เจ้าเลือก”
“หากข้าบอกไปแล้ว แต่ท่านอ๋องช่วยไม่ได้เล่า!”
น้ำเสียงของจ้าวเซียวหรานแผ่วเบา
หลังจากเงียบไปชั่วขณะ จู่ๆ กู้หมิงก็เอ่ยขึ้น “เจ้าแน่ใจนะ ว่าคุณหนูฉินตั้งครรภ์แล้ว?”
“อืม”
สีหน้าของจ้าวเซียวหรานแดงเล็กน้อย “สองเดือนก่อน คืนนั้นข้าดื่มหนักนิดหน่อย……”
เขาเกาศีรษะ และยิ่งเขินอายขึ้นเรื่อยๆ “หลังจากครั้งนั้น นางก็ห่างเหินกับข้าแล้ว หลังจากนั้นก็ได้ยินว่านางตั้งครรภ์ ข้าก็เลยไปถามนาง”
“ผู้ใดจะรู้ว่านางจะบอกข้า ว่าเด็กที่อยู่ในท้องนางไม่ใช่ลูกของข้า”
กู้หมิงฟังอย่างตั้งใจ
“อาหมิง นางก็ไม่ใช่คนเช่นนั้น! หากลูกในท้องนางไม่ใช่ลูกข้า จักเป็นลูกผู้ใดเล่า?”
จ้าวเซียวหรานขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเบา “หลังเกิดเรื่องข้าส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ในระหว่างสองเดือนนี้นางแทบจะไม่ออกจากบ้านเลย”
“และก็ไม่เคยไปมาหาสู่กับผู้ชายคนใดด้วย”
“ดังนั้นเด็กในท้องนาง ต้องเป็นลูกข้าเป็นแน่!”
เห็นคำพูดที่มีเหตุผลของเขาแล้ว กู้หมิงก็พยักหน้า “หากเด็กเป็นลูกของเจ้า เจ้าต้องรับผิดชอบนางสิถึงจะถูก”
“ใช่”
จ้าวเซียวหรานถอนหายใจติดต่อกัน “แต่นางไม่ยอมพบข้าเลย! และก็ไม่ให้ข้ายอมรับเด็กคนนั้นด้วย…….”
นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกว่าทำให้ลำบากใจที่สุด
เห็นสีหน้าห่อเหี่ยวของจ้าวเซียวหรานแล้ว กู้หมิงก็เอ่ยปลอบเสียงอ่อนโยน “เซียวหราน เจ้าก็อย่าเสียใจไปนักเลย ข้าคิดว่า คุณหนูฉินมีปมในใจอันใดกับเจ้าหรือเปล่า?”
“ปมในใจ?”
จ้าวเซียวหรานไม่เข้าใจ
เขาคิดอย่างละเอียด แล้วส่ายหัวอีกครั้ง “น่าจะไม่มี”
“บางทีอาจเป็นในคืนวันนั้นที่เจ้าดื่มจนเมาแล้วอาจพูดอันใด?”
กู้หมิงเอ่ยอีกครั้ง
ไม่เช่นนั้นคุณหนูฉินผู้นั้น คงไม่ถึงกับทิ้งเขาไปนานเช่นนี้ดอก?
“ในคืนนั้นที่ดื่มจนเมา?”
จ้าวเซียวหรานพึมพำกับตนเอง แววตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นพร่ามัว ราวกับกำลังหวนคิดถึงเรื่องราวในคืนวันนั้น แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็คิดไม่ออกว่าในคืนนั้นเขาพูดอันใดกันแน่
“ข้าคิดไม่ออกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...