อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ นิยาย บท 561

“ระ เรื่องอันใด?”

โจวถงถือสิ่งที่หรูโม่มอบให้เขาแน่น

นั่นคือกุญแจอายุยืนของลูกชายเขา

ลูกชายของโจวถงคือลูกที่เกิดตอนพ่อแม่อายุมากแล้ว เขาเกิดตอนที่โจวถงอายุสี่สิบกว่าปี ด้วยเหตุนี้ลูกชายของเขาเลยร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเมื่อครั้งยังเด็ก โจวถงเลยสั่งให้คนทำกุญแจอายุยืนให้เขาพกติดตัว

เขาลูบกุญแจอายุยืนนั่น แล้วร่ำไห้

ไม่รอให้โม่เยว่เปิดปากถาม ก็ร้องไห้เสียงดังลั่น “อ๊า……ลูกชายของข้า!”

“เหตุใดอ๋องฉู่จึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้! เหตุใดจึงได้โหดเหี้ยมเช่นนี้! ลูกชายของข้า!”

ภรรยาถูกฆ่าตาย ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้โจวถงเศร้าโศกเสียใจจนเป็นเช่นนี้

แต่ลูกชายของเขา เป็นดั่งกล่องดวงใจของเขา!

ไม่มีลูกชายแล้ว แสงสว่างของโจวถงก็ดับสนิท!

เสียงร้องไห้ของโจวถงน่าสงสารนัก ทำให้โม่เยว่ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

รอเขาร้องไห้ไปสักพัก โม่เยว่ถึงเอ่ยออกมาเสียงหนัก “อ๋องฉู่นั้นทำชั่วได้ทุกเรื่อง หากท่านยินดีเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ และสารภาพความผิดของเขาอย่างซื่อสัตย์ ข้าก็จักไว้ชีวิตท่าน”

“เจ้าฆ่าข้าเถิด! อ๋องหมิงเจ้าฆ่าข้าเสียเถิด!”

โจวถงพุ่งไปยังโม่เยว่ในทันที

ทว่าน่าเสียดายที่ยังไม่ได้เข้าใกล้ ก็ถูกหรูโม่ถีบออกไปเสียก่อน

เขาล้มไปกองอยู่บนพื้น ราวกับผ้าขี้ริ้วขาดวิ่นผืนหนึ่ง

“ลูกเมียของข้าก็ไม่มีแล้ว เหลือข้าที่ใช้ชีวิตไปวันๆ มันจะไปมีความหมายอันใด?! เจ้าฆ่าข้าซะจะดีกว่า!”

“ท่านอยากตายงั้นหรือ?”

โม่เยว่ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้ “หากท่านตายแล้ว ข้าก็จะนำศพของภรรยาและลูกของท่านมาเฆี่ยนตี ทำให้พวกเขาไม่มีความสงบสุขหลังจากตายไป! ทำให้ไปเกิดใหม่ไม่ได้ไปชั่วนิรันดร!”

สีหน้าของเขาโหดเหี้ยม เสียงเย็นเยือกราวกับหิมะ

คำพูดนี้แม้จะโหดเหี้ยมอยู่บ้าง ทว่ากลับใช้ได้ผลกับโจวถงที่สุด!

ได้ฟังคำพูดที่ไร้ความปรานีของเขาแล้ว โจวถงก็สั่นเทาไปทั้งตัว

ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ จึงได้พยักหน้าตอบรับอย่างสิ้นหวัง “ได้ ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำอันใด ข้าก็จะตอบรับเจ้า”

โม่เยว่มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “หากท่านกล้าจบชีวิตตนเอง ข้าจะทำให้ครอบครัวของท่านทั้งสามคนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้แม้แต่ใต้ดิน!”

แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป

หรูโม่ละสายตากลับมา และติดตามไป

“นายท่าน ท่านคิดจะทำเช่นไร?”

เขาหาคำตอบไม่ได้จึงถามออกไป “แม้ภรรยาของโจวถงจะตายไปแล้ว แต่ข้าน้อยไปได้ทันเวลา ลูกของเขาเลยได้รับการช่วยเหลือ และนายท่านยังเชิญหมอมารักษาลูกชายของเขาอีกด้วยไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงไม่บอกโจวถง ว่าลูกของเขายังมีชีวิตอยู่?”

“โจวถงผู้นี้เป็นคนหน้าซื่อใจคด และไม่ยี่หระต่อความตายใดๆ ทั้งสิ้น”

สิ่งที่ร้ายแรงที่สุด คือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน!

หากบอกเขาว่าลูกชายของเขายังมีชีวิตอยู่ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะใช้กลอุบายอันใดจากความเฉลียวฉลาดก็ได้ พอถึงตอนนั้นก็จะทำให้เรื่องมันยุ่งเหยิง

โม่เยว่ส่ายหัวไปมา “ให้เขารู้แค่ว่า ภรรยาและลูกของเขาตายด้วยน้ำมือของโม่หุยเหยียนจริงๆ ก็พอแล้ว มีเพียงความคิดที่จะแก้แค้นที่จะสามารถประคับประคองเขาไว้ได้ และทำให้เขาเกลียดโม่หุยเหยียนอย่างถึงที่สุด”

ด้วยเหตุนี้ ถึงจะได้ฟังคำสั่งของเขา!

“แม้การใช้วิธีนี้มาบังคับเขา จะไม่เหมาะสมจริงๆ ก็ตาม”

โม่เยว่ยิ้มเยาะ “แต่ข้า เป็นคนที่เปิดเผยและโปร่งใสมาแต่ไหนแต่ไร!”

การแย่งชิงในไท่จื่อ เดิมทีก็มีเล่ห์เพทุบายมากมาย

ตั้งแต่โม่หุยเหยียนถึงโม่หุยเฟิง ถึงโม่เยว่ ไปจนถึงโม่ฮั่นอี่ว์ มีมือผู้ใดบ้างที่ไม่ได้แปดเปื้อนเลือด?

ผู้ใดไม่วางแผนทำร้ายผู้อื่น?

เพียงแต่ โม่เยว่เขาจะไม่แปดเปื้อนเลือดผู้บริสุทธิ์ก็เท่านั้น!

“แต่หากเป็นเมื่อก่อน แม้นายท่านจะรู้ว่าลูกชายของโจวถงยังไม่ตาย ก็จักไม่ปรานีเป็นแน่ และจักไม่ยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่ง อย่างการช่วยลูกชายของโจวถงเด็ดขาด”

หรูโม่เอ่ยอย่างระวัง

โม่เยว่ในอดีต ถ้าไม่สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ก็จะซ้ำเติม

ทว่าครานี้เขาไม่เพียงแต่ไม่สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ และไม่ซ้ำเติมเท่านั้น แต่กลับช่วยลูกชายของโจวถงและเชิญหมอมารักษาเขาอีกด้วย

เห็นได้ว่านายท่านของตนเอง ในปัจจุบันนี้ได้เปลี่ยนเป็นคนติดดิน และมีชีวิตชีวาเหมือนผู้อื่นมากขึ้นอีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์