สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป “ท่านตา……”
เฉินอันหวายยื่นมือออกไปเพื่อหยุดคำพูดเขา “ท่านไม่ต้องพูดให้มากความ! ข้ารู้ความหมายของท่านอ๋อง และรู้ว่าท่านอ๋องไม่ได้สนใจเรื่องนี้”
“แต่ท่านอ๋องลืมไปแล้วหรือว่ากุ้ยเฟยเหนียงเหนียงตายอย่างไร?”
พูดถึงเฉินกุ้ยเฟย……
โม่เหว่ยก็เงียบไป
เสด็จแม่ป่วยตายไปเมื่อหลายปีก่อน เป็นความโศกเศร้าเสียใจตลอดกาลในใจเขา
ก่อนหน้านี้หยุนหว่านหนิงก็เคยบอก ว่าที่เขาร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด เป็นเพราะพิษในครรภ์มารดา
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนที่เฉินกุ้ยเฟยยังตั้งครรภ์เขาอยู่ ก็ถูกคนรับใช้วางพิษ!
เพียงแค่ปริมาณของพิษนั้นไม่มาก ไม่มีการตอบสนองรุนแรงอันใด เลยไม่มีผู้ใดตรวจสอบตลอดมา
เป็นเช่นนี้มาเนิ่นนาน สารพิษได้ซึมเข้าสู่อวัยวะภายในของเฉินกุ้ยเฟย และยังแทรกซึมไปยังทารกในครรภ์อีกด้วย ด้วยเหตุนี้โม่เหว่ยจึงป่วยมาตั้งแต่เกิด และไม่มีผู้ใดสามารถรักษาได้
“เฉินกุ้ยเฟยให้กำเนิดเจ้าอย่างสุดชีวิต และได้จากโลกนี้ไปโดยลำพัง”
เฉินอันหวายกล่าวอย่างเด็ดขาด “หรือเจ้าอยากให้ความตายของกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง กำกวมอยู่เช่นนี้หรือ?!”
“แต่ท่านตา เสด็จแม่ถึงแก่กรรมมาหลายปีแล้ว แม้ต้องการจะตรวจสอบ แต่เบาะแสทั้งหมดในยี่สิบกว่าปีนี้ก็ไม่มีแล้ว ข้าต้องตรวจสอบเช่นไรหรือ?!”
โม่เหว่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขารู้ว่าเฉินอันหวายเองก็เจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาว
แต่ตัวเขาเอง ก็เจ็บปวดเพราะสูญเสียแม่เช่นกัน!
ในฐานะเด็กขี้โรคที่ไม่ได้รับความรักจากแม่มาตั้งแต่เด็ก เขาย่อมต้องเฝ้าปรารถนาถึงความรักจากแม่มากกว่าผู้ใด!
“ข้าไม่เคยยอมแพ้เลย ต้องการตรวจสอบความจริงในตอนนั้น แต่ข้าเคยลองดูแล้ว กลับไม่เจออันใดเลยจึงได้หยุดไป”
หลังหยุนหว่านหนิงรักษาเขาหายแล้ว เรื่องแรกที่โม่เหว่ยทำคือตรวจสอบสาเหตุการตายของเฉินกุ้ยเฟย
เพียงแต่เรื่องผ่านมาหลายปี กลายเป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ได้แต่หวนคิดถึงวันเก่าๆ
บวกกับที่เขารักษาตัวอยู่ที่จวนมาหลายปี ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ในพระราชวังไปนานแล้ว แม้ตั้งใจจะตรวจสอบ ก็มีอุปสรรคมากีดขวาง เขามีความตั้งใจแต่ไร้ซึ่งกำลัง!
“ข้าเข้าใจความลำบากของท่านอ๋อง”
เฉินอันหวายกล่าวเสียงหนัก “การตรวจสอบสาเหตุไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราจึงต้องยิ่งอดทน”
“ท่านอย่าลืมล่ะ ตอนนั้นไม่เพียงแต่กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงเท่านั้นที่จากไป แม้แต่ท่านน้าใหญ่และท่านน้ารองของท่าน ก็จากไปตามๆ กัน ซึ่งข้าตามหาคำตอบของเรื่องนี้มาโดยตลอด”
ในครานั้นเพราะตระกูลเฉินไม่ยอมแพ้ในการตรวจสอบสาเหตุการตายของเฉินกุ้ยเฟย ยืนกรานที่ตรวจสอบหาความจริงให้ปรากฏ
ด้วยเหตุนี้ท่านใหญ่เฉินกับท่านรองเฉินจึงมีส่วนพัวพัน และทำให้พี่น้องทั้งสองเสียชีวิตอย่างอนาถเช่นกัน
ทว่าสาเหตุการตายของพวกเขา ก็ยังคงเป็นปริศนา
เฉินอันหวายได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงได้ออกจากการเป็นขุนนาง
เคราะห์ร้ายที่ตระกูลเฉินกับตระกูลกู้ประสบ มีความคล้ายกันอยู่เล็กน้อย
เพียงแต่ ตระกูลเฉินโหดร้ายยิ่งกว่าก็เท่านั้นเอง
ท่านสามเฉินเฉินลี่ฮุยเวลานี้ก็ถอนหายใจเช่นกัน “ท่านอ๋อง พวกเราเข้าใจนิสัยของท่านอ๋อง รู้ว่าท่านอ๋องไม่มีความตั้งใจในการแย่งชิงตำแหน่งไท่จื่อ”
“แต่ท่านอ๋องอย่าลืมสิ มีเพียงอำนาจสูงสุดเท่านั้น จึงจะสามารถช่วยให้ท่านสามารถตรวจสอบความจริงให้ชัดเจนได้”
สายตาของเขาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ทำให้โม่เหว่ยพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
……
คุกหลวง
เห็นโม่เยว่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หยุนหว่านหนิงก็ขมวดคิ้ว “เป็นอันใดหรือ? มีเรื่องหนักอกหนักใจ หรือพบปัญหาอันใดหรือ?”
โม่เยว่มองดูม่านลูกปัดแวบหนึ่ง
โม่ฮั่นอี่ว์กำลังหลับอยู่ โจวฉางเฟิงก็หลับตาพักสมองเช่นกัน
การใช้ชีวิตในคุกหลวง นอกจากกินก็คือนอน ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
เขาลดเสียงเบาลง พูดเรื่องของจวนอ๋องโจว
“โอ๋?”
หยุนหว่านหนิงก็ประหลาดใจไม่น้อย
นางมองดูรอบๆ อย่างระแวดระวัง และเอ่ยไปเสียงเบาเช่นกัน “ดูท่าแล้วคนของตระกูลเฉิน จะอดกลั้นไม่ไหวแล้ว”
ในตอนแรกพวกเขาคิดไม่ถึงข้อนี้
เพียงมุ่งไปยังการรับมือโม่หุยเหยียนเท่านั้น และโม่หุยเฟิงที่ระมัดระวังตัวอยู่ที่เขาซีเซียงอันห่างไกล แต่ไม่เคยคิดที่จะจัดวางกำลังป้องกันโม่เหว่ยมาก่อน
เขาไม่มีเจตนาในการแย่งชิงบัลลังก์ แต่ตระกูลเฉินกลับไม่ยอมวางมือ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อนงค์ใจพระชายาราชสีห์
อัพใหม่เถอะค่ะ...
เมื่อไรจะอัพเพิ่มคะ ฮือ รอนานมากแล้วววว...
อนงค์ใจพระชายาราชสีห์ บทที่ 353 - 430 หายไปไหน หายยาววววมากกกก...
รอตอนต่อไปจ้า...
สนุกดีอ่านแล้วขำ 555...