“ซูจื้อเย่เป็นลูกชายของภรรยาคนแรกตระกูลซูเลยนะ!เป็นหลานที่คุณท่านซูชอบมากที่สุดเลยนะ!” ลุงหลิวพูดเสียงทุ้มต่ำ “นายท่านซูเป็นปรมาจารย์กำลังภายในนะ!”
“แล้วทำไมเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะพรวด
ลุงหลิวเงยหน้าขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เหมือนกับตกใจที่หลี่ฝางไม่สนใจปรมาจารย์กำลังภายในเลย ในใจก็ไม่รู้ว่าหลี่ฝางนั้นกำลังทำเป็นแข็งแกร่งหรือ……มีฝีมือมากกว่าที่เขาคิด
“ทำไมคุณต้องบังคับข่มขู่คนแบบนี้ด้วย?เห็นแก่ตระกูลซูสักหน่อย แล้วปล่อยเรื่องนี้ไป ดีไหม?”
หนานเจียงตระกูลซู มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่ไว้หน้าตระกูลซู และก็มีคนน้อยคนที่กล้าไม่ไว้หน้าตระกูลซู
แต่น่าเสียดาย ที่หลี่ฝางนั้นเป็นคนส่วนน้อย
“ก็แค่ตระกูลซูเล็กๆ ทำไมฉันต้องไว้หน้าด้วย?”
เพียงประโยคสั้นๆ นั้น ทำให้ในใจของลุงหลิว ก็ใจสั่นกะทันหันขึ้นมา
ตำแหน่งของตระกูลซูนั้น คนที่กล้าไม่ไว้หน้า มีน้อยคนมาก
แน่นอน ว่าถ้าไม่สืบลึกไปถึงรากคงจะไม่รู้ว่าตระกูลซูนั้นนับอยู่ในพวกรนหาที่ตาย
แต่หลี่ฝางนั้นไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ดังนั้นลุงหลิวเลยยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่
คนแบบนี้ ถ้าไม่ได้เก่งเกินไป จนมีฝีมือของปรมาจารย์แห่งยุทธภพ ก็ต้องเป็นตระกูลใหญ่ เช่นคนชนชั้นสูงสุดในประเทศ หรือไม่ก็ต้องเป็นทั้งสองอย่างที่กล่าวไป นั่นมันยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ถ้าไปมีเรื่องด้านล่ะก็ ก็คือการหาเรื่องให้ตระกูลซูวุ่นวาย
ในตอนนั้น ลุงหลิวเริ่มกังวลขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
ในตอนนั้นเอง เสียงของหลี่ฝางก็ดังเข้าไปข้างหูของลุงหลิวอีกครั้ง
“ฉันจะให้โอกาสพวกคุณครั้งหนึ่งก็ได้ คุกเข่าลงขอโทษผู้หญิงของฉัน แล้วก็สัญญาว่าต่อจากนี้จะไม่เข้าใกล้เธออีก แล้วเรื่องนี้ก็ถือว่าหายกัน”
“คุณฝันไปเถอะ!” ซูจื้อเย่ตะโกนใส่หลี่ฝาง
ให้เขาคุกเข่าลงขอโทษงั้นเหรอ?แม้แต่พ่อแม่เขาก็ยังไม่ต้องคิดว่าเขาจะทำเลย!
ถ้าต้องให้เขาคุกเข่าลง ให้เขาไปตายยังดีเสียกว่า
ขนาดซูจื้อเย่ที่เกรี้ยวกราดอยู่ซึ่งลุงหลิวรู้แล้วว่าตัวเองกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ตั้งแต่ตอนที่ซูจื้อเย่เริ่มเปิดปากขึ้นมาแล้วและแน่นอน เมื่อเห็นท่าทีของซูจื้อเย่ที่โกรธจนหน้าบูดเบี้ยว ลุงหลิวก็ถอนหายใจ เพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายแล้วล่ะ
“ดูเหมือนพวกคุณจะเลือกแล้วนะ” หลี่ฝางหัวเราะเสียงเย็น พลางมีความอาฆาต ที่ปล่อยออกมาจนปกคลุมไปหมด
ลุงหลิวถอนหายใจยาวๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะพยุงซูจื้อเย่ขึ้นมาเบาๆ
เขารู้ว่าอีกฝ่ายได้รับแรงกระทบมากเกินไป ถึงตัวเองจะโน้มน้าวอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์
……
ตกดึก ในห้องเล็กๆ ห้องนั้นของหยางฉง หลังจากที่หลี่ฝางกับหยางฉงอืดอาด ก่อนจะคุยกันเล็กน้อย จากนั้นหลี่ฝางก็พูดขึ้น “นอนเถอะ ดึกแล้ว”
หยางฉงพยักหน้า แต่กลับพูดขึ้นอย่างลังเล “พี่หลี่ฝาง มีเรื่องหนึ่ง ไม่รู้……”
“เรื่องอะไร?คุณพูดมาตรงๆ เถอะ” หลี่ฝางเห็นท่าทีของหยางฉง ก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“คือแบบนี้……” หยางฉงลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็เปิดปากพูดขึ้น “พ่อฉันอยากให้คุณไปที่บ้านของฉันสักหน่อย ที่คฤหาสน์ของตระกูลหยาง……”
“พ่อคุณงั้นเหรอ?” หลี่ฝางคิดเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแล้วพูดขึ้น “จริงสิ ฉันเองก็ควรไปบ้านคุณสักหน่อย จะมีคนอยู่เยอะไหม?”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น……” หยางฉงรีบพูดขึ้น “คือ……ฉันคิดว่าน้ำเสียงของพ่อฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมือนกับปู่จะเป็นคนเสนอ แถมเขายังเร่งอีกด้วย……”
“คุณกำลังกังวลเรื่องสุขภาพของปู่ของคุณเหรอ?” หลี่ฝางกอดหยางฉงเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงทุ้ม “ไม่ต้องกังวล พรุ่งนี้เราจะไปเยี่ยม ไม่เป็นไรนะ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
สู้ไม่เป็นก็เรียนต่อสู้,ทำอะไรไม่เป็นก็หัดทำชะแม่งจะเอาแต่ลานเงินพ่อแม่กับเล่นกินเที่ยวกับสร้างปัญหาตลอดโง่ชิบหาย...
พวกมึงจะเขียนบทให้บักหลี่ฝางโง่ไปถึงไหนมีใครตอบกูได้บ้าง,อ่านนิยายไม่เคยมีความสุขเลยเพราะเขียนบทให้คนโง่จนงม...
โง่โง่ชิบหายมึงจะโง่ปัญญาออ่นไปถึงไหนเขียนบทก็นะเขียนให้บักหลี่ฝางโง่จนเกีนบรรยายอ่านแล้วรำคาญ...
จะเขียนบทให้หมามันโง่ตลอดไปเลยหรือไง...
เขียนบทให้บักหลี่ฝางโง่ได้ทุกตอนไม่รู้จะโง่ไปไหน...
บทเหี้ยอะไรใช้ส้นตีนแปลเหรอ,ดูจากเนื้อเรื่องแล้วตามแนวเฉินเกิดแน่ๆกอ็ปกันไปทั่ว...