เช้าตรู่ ของวันที่สอง หลี่ฝางกับหยางฉงก็ไปที่คฤหาสน์ของตระกูลหยาง
ตระกูลหยางทั้งตระกูล อันที่จริงมันเริ่มพัฒนามาจากปู่ของหยางฉงนั่นก็คือหยางเซี่ยวหู่
ตอนนั้นคุณท่านหยางได้รับชัยชนะในสงคราม เลยมีฐานะที่สูงส่ง ส่วนตระกูลหยาง ก็เพราะมีชื่อของคุณท่านหยาง เลยประสบความสำเร็จในวันนี้ได้
แต่น่าเสียดาย ที่คุณท่านอายุมากแล้ว เลยลงจากตำแหน่งไปเมื่อปีกลาย ชื่อเสียงของตระกูลหยางเองก็ลดลงเรื่อยๆ
รุ่นที่สองของตระกูลหยางยังค่อนข้างโดดเด่น คนหนึ่งอยู่ในระบบการปกครอง อีกคนอยู่วงการธุรกิจ มีเส้นสายไม่น้อย ถึงแม้จะเทียบกับคุณท่านหยางเซี่ยวหู่ในตอนนั้นไม่ได้ แต่ก็ยังพอจะค้ำตระกูลหยางเอาไว้ได้
แต่พอเป็นรุ่นต่อไป ส่วนมากก็เป็นลูกหลานไร้ราคา วันเอาแต่ผลาญเงินทองเที่ยวผู้หญิง จนสมบัติของบ้านหมดไป
อย่างหยางฉงนั้น ถือว่าเป็นคนในรุ่นที่สามที่โดดเด่นมากแล้ว
แต่สิ่งที่สำคัญกับตระกูลหยางมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ร่างกายของนายท่านหยางแย่ลงเรื่อยๆ ช่วงนี้นอนป่วยอยู่ในห้องตลอด ไม่รู้ว่าจะจากไปตอนไหน แต่เขากลับยังไม่ยอมปล่อยตำแหน่งเจ้าบ้านสักที
พี่น้องรุ่นที่สองนั้น ต่างอยากจะได้เป็นเจ้าของบ้านทั้งนั้น เลยรอคุณท่านเปิดปากพูดสักที
ในวันนี้บรรดาพี่น้องทั้งสี่ คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือพี่ใหญ่หยางจื้อเฉิง เป็นคนสร้างรากฐานเกี่ยวกับการปกครอง และก็เป็นคนที่มีแววจะได้เป็นเจ้าบ้าน
เมื่อหลี่ฝางกับหยางฉงทั้งสองมาถึงที่ตระกูลหยาง หยางเซี่ยวหู่ก็กำลังนอนอยู่บนเตียง ด้านข้างนั้นก็เป็นคนที่กำลังตรวจร่างกายให้เขาอยู่
ส่วนคนทั้งสี่ที่เป็นรุ่นที่สองของตระกูลหยาง ก็ยืนอยู่ข้างๆ เตียงของหยางเซี่ยวหู่ โดยมองคนที่นอนอยู่บนเตียง ลมหายใจรวยรินอย่างหยางเซี่ยวหู่
รบราฆ่าฟันมาครึ่งชีวิต ตอนอายุยังน้อยถือว่าโหดพอตัวอย่างหยางเซี่ยวหู่ ในตอนนี้กลับมีท่าทีอ่อนแรง ทำให้คนถอนหายใจไม่ไหว
ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียงเก็บอุปกรณ์ในมือ ก่อนจะบอกลากับคนทั้งสี่ที่อยู่ข้างเตียง พลางเดินออกไปด้านนอก
“หมอหู ร่างกายของพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”
พี่ใหญ่หยางจื้อเฉิงรีบตามเข้าไปถาม
หยางจื้อเฉิงอายุมากกว่าห้าสิบ ร่างกายมีความเป็นบัณฑิต ดูเข้าถึงง่ายเป็นอย่างมาก เมื่อได้รับการฝึกฝนจากในราชการจนมีความเข้มงวดรวมเข้ามาด้วย ทำให้คนรู้สึกเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินหยางจื้อเฉิงถามแบบนี้ หมอหูก็พูดขึ้นอย่างลำบากใจ “ตอนคุณท่านอายุยังน้อยบาดเจ็บฟกช้ำมามากเกินไป ถึงแม้จะได้รับการปรับเลือดลมมานานหลายปี แต่ถึงอย่างไรเลือดลมไม่ดีแล้ว แต่เกรงว่า……จะวางใจไม่ได้!”
เมื่อได้ยินคำนี้ สีหน้าของทั้งสามก็เปลี่ยนไป ปกติพี่สี่หยางเซิ่งก็อารมณ์ไม่ได้ดีอยู่แล้ว ในตอนนี้ยิ่งอดไม่ได้ที่จะด่าออกมาตรงๆ “คนไร้ประโยชน์อย่างคุณ ดูแลคนป่วยให้หายก็ไม่ได้ เราเสียเงินไปมากขนาดนี้เพื่อเชิญคุณมาเลยนะ!”
รุ่นที่สองในสี่คนนี้ ก็มีแต่หยางเซิ่งที่ยังเสเพลขนาดนี้ ตอนนี้อายุราวๆ สี่สิบกว่าแล้ว ยังทำตัวเหมือนตอนอายุน้อยๆ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
เมื่อได้ยินเสียงด่าของหยางเซิ่ง พี่ใหญ่หยางจื้อเฉิงก็โกรธขึ้นมา “ไอ้สารเลว!รีบขอโทษหมอหูเดี๋ยวนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง