“ไท่ซาง นายหาวันดีๆ ไปจดทะเบียนสมรสกับหยูหลิงฮุ่ยเถอะ เด็กก็คลอดแล้ว นายก็ควรจะให้สถานะกับเธอนะ”
ตอนนี้ในใจของหลี่ฝางที่จริงแล้วเอียงไปทางหยูหลิงฮุ่ยแล้ว เขายังหวังว่าไท่ซางจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกับหยูหลิงฮุ่ยได้อย่างดี
”ฉันรู้แล้ว” ก่อนหน้านี้ ที่จริงไท่ซางหลีกเลี่ยงหยูหลิงฮุ่ยมาตลอด ไม่ยินดีที่จะเผชิญหน้ากับเธอและเด็กในท้อง จนเมื่อครู่วินาทีที่ได้ยินนางพยาบาลบอกว่าหยูหลิงฮุ่ยเสียเลือดมาก จู่ๆ เขาก็คิดได้
เขาเป็นผู้ชายคนนึง ถ้าหากเด็กเป็นลูกของเขาจริงๆ งั้นเขาก็ควรจะรับผิดชอบ
“คลอดแล้ว แม่และลูกปลอดภัยค่ะ”
ผ่านไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็มีข่าวดีดังผ่านออกมาจากในห้องฉุกเฉิน หลังจากไท่ซางได้ยินว่าทั้งแม่และลูกปลอดภัยก็รู้สึกตื่นเต้นจนมือสั่น
ต่อมาหยูหลิงฮุ่ยกับลูกก็ถูกเข็นออกมา หยูหลิงฮุ่ยเพราะว่าเหนื่อยล้ามากเกินไปจึงหลับไปแล้ว มือซ้ายของเธอ ในผ้าห่มผืนเล็กห่อหุ้มคนตัวเล็กๆ อยู่หนึ่งคน
คนตัวเล็กนั้นหรี่ตาครึ่งนึง ใบหน้าที่สงบทำปากพะงาบๆ ไท่ซางมองเจ้าตัวเล็กอยู่ครึ่งค่อนวัน ในใจก็เกิดความรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
ก่อนที่เจ้าตัวน้อยนี้เกิด ไท่ซางยืนยันว่าจะทำการตรวจดีเอ็นเอ ก่อนที่จะสามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา เขาก็ไม่คิดที่จะยอมรับเด็กคนนี้เป็นลูก
แต่หลังจากที่เขาได้เห็นเจ้าตัวน้อย จู่ๆ เขาก็มีแรงผลักบางอย่างที่อยากจะเป็นพ่อของเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าเด็กคนนี้จะใช่ลูกของเขาหรือไม่ เขาก็ยังตัดสินใจที่จะเลี้ยงเขา
“ละ ลูกพี่ ฉันมีลูกสาวแล้ว ฉันมีลูกสาวแล้ว!”
ไท่ซางยื่นนิ้วออกไปแตะที่ใบหน้าของเจ้าตัวเล็กอย่างระมัดระวัง หลังจากได้สัมผัสถึงความนุ่มนิ่มของเจ้าลูกตัวน้อย ก็ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดโลดเต้น และดึงหลี่ฝางมาตะโกนร้องด้วยสีหน้ามีความสุข
เจ้าตัวน้อยถูกเสียงนี้ของเขาทำให้ตกใจ และร้องไห้อุแว้ออกมา ฉินวี่เฟยหยิกเข้าไปที่แขนของเขาอย่างแรง และจ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์
“แหกปากโวยวายทำไม ทำลูกตกใจร้องไห้เลย”
พอดุไท่ซางเสร็จ ฉินวี่เฟยก็รีบก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา และโอ๋เธออย่างคุ้นเคยสุดๆ
ไท่ซางมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องไห้โฮ ก็ทำหน้าช่วยไม่ได้ ยื่นมือออกไปอยากจะอุ้มเจ้าตัวเล็ก แต่กลับถูกฉินวี่เฟยจ้องเขม็งจนไม่กล้าทำอะไรมั่วซั่ว
“มือนายไม่มีรู้จักหนักเบา อย่าเพิ่งมาอุ้มเด็ก!เมื่อก่อนคอร์สเรียนการตั้งครรภ์นายก็ไม่เคยไปเรียนสักครั้ง นายรู้ว่าต้องอุ้มเด็กยังไงมั้ย? หลีกไปหลีกไป เห็นนายแล้วหงุดหงิด”
ฉินวี่เฟยหลีกเลี่ยงมือของไท่ซางอย่างไม่สบอารมณ์ พลางโอ๋เจ้าตัวเล็กพลางเดินเข้าห้องพักผู้ป่วยไป
คนอื่นๆ มองดูท่าทางตกต่ำของไท่ซาง อยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้าหัวเราะ กลั้นเอาไว้ลำบากสุดๆ หลี่ฝางทิ้งคำพูดเย็นชาไว้สองคำ “สมควร” จากนั้นก็รีบเดินตามฉินวี่เฟยไปอย่างเร็ว
ไท่ซางมองแผ่นหลังของพวกเขา และเกาหัวอย่างช่วยไม่ได้ เห็นทีเหมือนเขาจะทำตัวเองซะแล้ว รู้แบบนี้ตอนแรกดีกับหยูหลิงฮุ่ยแม่ลูกมากกว่านี้หน่อยก็ดี
ชีวิตใหม่กำเนิดแล้วในที่สุดก็ทำให้ตระกูลหลี่ที่กำลังเจ็บปวดได้มีเสียงหัวเราะมากขึ้น โดยเฉพาะเมี๋ยวชุ่ย ทุกๆ วันมีเด็กสองคนอยู่เป็นเพื่อน ก็คงรู้สึกร่าเริงขึ้นไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง