บทที่580 ศึกครั้งใหญ่ – ตอนที่ต้องอ่านของ NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
ตอนนี้ของ NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดย เฉียงเกอ9527 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่580 ศึกครั้งใหญ่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“ใช่ พี่หมิง หนีกันเถอะ คนพวกนี้ท่าทางร้ายกาจ และต่างก็มีอาวุธอยู่ในมือ ถ้าหนีช้าไป พวกเราต้องจบเห่แน่”
“ไอ้อ้วนแซ่หวางนั่นเป็นสัตว์เดรัจฉาน เที่ยวต้มตุ๋นไปทั่ว ยังไงซะพวกเราก็ได้เงินมามากพอแล้ว แยกย้ายเถอะ ไอ้อ้วนแซ่หวางนั่นเป็นคนกวางตุ้ง มันต้มตุ๋นหลอกลวงเสร็จ ก็ปัดก้นหนีแล้ว ใครก็หามันไม่เจอ พูดตรง ๆ คนที่รับเคราะห์ก็ไม่ใช่พวกเราหรอกเหรอ? สิ่งที่ไอ้อ้วนแซ่หวางทำลาย ก็ไม่ใช่ชื่อเสียงของพวกเราหรอกเหรอ?”
ชายผมแสกกลางกล่าวอย่างไม่ละอายใจ คนที่อยู่ในวงการนี้ มีใครบ้างที่ยังเป็นห่วงชื่อเสียง? ชายผมแสกกลางเพียงแค่ต้องการหาเหตุผลให้ตัวเอง เพื่อให้ตัวเองหนีงานได้เท่านั้นเอง
แต่ก็ยังมีคนที่ใจนักเลงพอยืนออกมาพูด: “รับเงินเขามาแล้วก็ต้องจัดการปัญหาให้ ถ้าพวกเราหนีไปแบบนี้ มันจะไม่ไร้คุณธรรมไปหน่อยเหรอ? ถ้าเกิดให้คนอื่นรู้เข้า แพร่งพรายออกไป ยังจะมีใครมาจ้างพวกเราทำงานอีกล่ะ”
“แกแม่งปัญญาอ่อนหรือไง? พวกเราทำงานให้คุณชายมู่ ยังต้องกลัวไม่มีข้าวจะกินอีกหรือยังไง?”
ในตอนนี้เองจางกงหมิงก็เอ่ยขึ้น: “เรื่องนี้พวกเราจะปอดแหกไม่ได้ ต้องสู้ ทุกคนลงมือด้วยกันกับฉัน”
พูดตามตรง จางกงหมิงถึงเป็นแกนนำคนสำคัญ เขาบอกให้ลงมือ ทุกคนก็จะต้องลงมือ ถ้าเขาบอกให้หนี เกรงว่าชายร่างอ้วนที่ทำแชร์ลูกโซ่นั่นจะต้องถูกเล่นงานจนตายแย่
“พี่หมิง แบบนี้เท่ากับว่าพวกเราเอาชีวิตไปทิ้งนะ” พวกลูกน้องเกิดท่าทีหวั่นเกรงขึ้นมาทันที
“เอาชีวิตไปทิ้งก็ต้องสู้ โทรศัพท์หาคุณชายมู่ ให้เขารีบส่งกองหนุนมาช่วย แม่งเอ๋ย พวกมันเห็นพวกเราแล้ว” จางกงหมิงหดคอเล็กน้อย จากนั้นอาวุธที่อยู่ในมือ ก็พุ่งเข้าไปก่อนทันที
“พี่หมิง บาดแผลของพี่ยังไม่หายดีเลยนะ” ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังเอ่ยเตือน แต่ทว่าได้สายไปแล้ว
จางกงหมิงวิ่งลอยเข้าไปอย่างรวดเร็ว และได้มาถึงด้านหน้าของหวางเสี่ยวหยวนอย่างรวดเร็ว: “เชรด พวกนายบ้าไปแล้วหรือไง พาคนมาเยอะขนาดนี้”
หวางเสี่ยวหยวนไม่ได้ตอบอะไรเลยแม้แต่น้อย เขายกท่อนเหล็กในมือขึ้น แล้วฟาดลงไปบริเวณหัวของจางกงหมิง จางกงหมิงรับขยับตัวหลบทันที เหลือไว้เพียงหยดเหงื่อที่เย็นยะเยือก: “แม่งเอ๊ย ตกลงแล้วแกใช่คนของเสี่ยวฝางหรือเปล่า ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเสี่ยวฝางใช่ไหม?”
บนใบหน้าของจางกงหมิงเต็มไปด้วยความหวาดผวาและโมโห ท่อนเหล็กเมื่อกี้นั้น ถ้าหากเขาหลบไม่ทันล่ะก็ เช่นนั้น เกินกว่าครึ่งคงต้องลงไปกองกับพื้นแล้ว
“จางกงหมิง ฉันรู้ความสัมพันธ์ระหว่างแกกับเจ้านายแต่นั่นเป็นเพียงเมื่อก่อน วันนี้แกได้แบกหน้าไปพึ่งพาอาศัยมู่เสี่ยวไป๋ และได้กลายเป็นศัตรูกับเจ้านายของพวกเรา”
“มาพูดถึงมิตรภาพในตอนนี้ แกไม่คิดว่ามันตลกไปหน่อยเหรอ?”
หวางเสี่ยวหยวนหัวเราะแหะ ๆ จากนั้นก็ชูกระบองขึ้น แล้วฟาดลงไปอีกครั้ง
ดวงตาทั้งสองข้างของจางกงหมิง หรี่ลงเล็กน้อย เขาจ้องมองหวางเสี่ยวหยวน กล่าว: “หวางเสี่ยวหยวนใช่ไหม? อดีตพี่ใหญ่ในยุทธภพนี่ เหอะ ๆ วันนี้ฉันจะต้องขอคำแนะนำซะแล้ว ดูสิว่าแกจะร้ายกาจแค่ไหน”
การต่อสู้ของทั้งสองคน ไม่นานก็ได้เข้าขั้นดุเดือดที่สุด
ห่างออกมาไม่ไกลนัก รถเบนซ์G-Classคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง และกำลังใช้กล้องส่องทางไกลจับตาดูสถานการณ์ทุกอย่างอยู่
“จางกงหมิงถูกกำหนดให้พ่ายแพ้” หลี่ฟางกำหมัดแน่น เป็นกังวลแทนจางกงหมิง
ถึงแม้หวางเสี่ยวหยวนถึงเป็นคนของตัวเอง แต่ที่ภายในใจของหลี่ฝางเป็นห่วง และปรารถนาให้ชนะ กลับเป็นจางกงหมิง
แต่ทว่า อาการบาดเจ็บของจางกงหมิงยังไม่หายดี และสามารถใช้กำลังฝีมือทั้งหมดออกมาได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเอง แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของหวางเสี่ยวหยวนได้ยังไง?
ถึงแม้หวางเสี่ยวหยวนจะปลดเกษียณไปนาน แต่ร่างกายของเขา กลับไม่เคยถดถอยเลยแม้แต่นิดเดียว
จากนั้นไม่นาน ทางด้านจางกงหมิงก็ได้ถูกจัดการจนแตกกระจัดกระจาย ส่วนตัวของจางกงหมิงเองก็ได้ลงไปกองอยู่บนพื้น แม้แต่แรงที่จะลุกขึ้นมาก็ไม่มี มุมปากของเขา มีเลือดไหลหยดออกมา
หลี่ฝางเห็นด้วยตา แต่เจ็บที่ใจ
มีหลายครั้งที่หลี่ฝางอยากจะบุกเข้าไป บอกให้พวกเขาหยุดลงมือ แต่กลับถูกส้าวส้วยห้ามเอาไว้
“เจ้านาย คุณต้องเข้าใจ ว่าคุณกำลังช่วยเขาอยู่” ส้าวส้วยกล่าวตักเตือน พูดเกลี้ยกล่อมหลี่ฝางอยู่ไม่หยุด: “ในกลุ่มของจางกงหมิงในตอนนี้ ไม่ใช่มีเพียงแค่กลุ่มลูกน้องสายตรงของเขา ที่เยอะกว่า คือคนที่เข้ามาใหม่ และคนกลุ่มนี้ ล้วนเชื่อใจไม่ได้ ถ้าคุณบุกเข้าไป ช่วยจางกงหมิงเอาไว้ นี่มันนับเป็นเรื่องอะไรกัน? เรื่องนี้ เดิมที่จางกงหมิงก็ต้องเผชิญหน้ากับการถูกสงสัยมากที่สุด ถ้าหากให้มู่เสี่ยวไป๋รู้ว่าคุณช่วยเขาเอาไว้ นั้นพอดีกับเป็นการพิสูจน์ว่ามิตรภาพระหว่างพวกคุณสองคนยังอยู่ แบบนี้ มู่เสี่ยวไป๋ยังจะกล้าใช้จางกงหมิงอยู่อีกเหรอ?”
“ไม่เพียงไม่กล้า ยิ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะกำจัดเขาไปด้วยซ้ำ” ส้าวส้วยกล่าว
“ครอบครัวของผม อย่าไปฟังพวกมันพูดเหลวไหล ถ้าพวกคุณไม่เชื่อผม ผมก็จะรีบคืนเงินให้กับพวกคุณทันที”
“เพียงแต่ว่า ทุกคนต้องคิดให้ดี นี่เป็นโอกาสที่ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ ถ้าพลาดโอกาส พวกคุณอาจจะต้องรอไปอีกนานเป็นร้อยปีเลยก็ได้”
“ประธานหวาง คุณไม่ต้องพูดอีกแล้ว พวกเราเชื่อคุณ ดูแล้วคนพวกนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไร จะต้องมาขัดขวางเส้นทางรวยของพวกเราแน่นอน”
“ครอบครัวของผม ตัดเส้นทางรวย ก็เปรียบเสมือนฆ่าบิดามารดา ทุกคนลงมือด้วยกัน อย่าให้พวกลูกเดรัจฉานกลุ่มนี้ ทำลายเส้นทางรวยของพวกเราได้” “นั่นน่ะสิ ประธานหวางเป็นดั่งพระโพธิสัตว์ คนพวกนี้เหยียบพระโพธิสัตว์ของพวกเราไว้บนพื้น พวกเราจะปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้
สองสามคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นหน้าม้าที่ไอ้อ้วนหงวงหามา
ทุกครั้งที่เขาออกมาหลอกลวงต้มตุ๋น เขาก็จะหาหน้าม้ามืออาชีพมากลุ่มหนึ่ง เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศ ช่วยสร้างเครือข่าย ช่วยจูงใจคนที่อยู่โดยรอบ
สามารถพูดได้ว่า ความสำเร็จของไอ้อ้วนหงวง แปดสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนเกิดจากการช่วยเหลือของคนพวกนี้
ภายใต้การยั่วยุของคนพวกนี้ สวยตาของทุกคน ต่างก็เต็มไปด้วยความแค้นเคืองขึ้นมา
“จัดการพวกมัน”
หลังจากเสียงนี้ดังขึ้น กลุ่มคนพวกนี้ ก็วิ่งกรูเข้าไปหาพวกหวางเสี่ยวหยวน ถึงแม้พวกเขาส่วนมากจะมีอายุสี่ห้าสิบปีแล้ว แต่พอลงมือ ก็ไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย
เฉินเจียโล่เห็นเหตุการณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ก็รีบวิ่งเข้าไปหาหวางเสี่ยวหยวน แล้วเอ่ยถาม: “ทำยังไงดี ลูกพี่ จะต้องสู้กับคนพวกนี้จริง ๆ เหรอ?”
“สู้ห่าอะไร ชนะแล้ว ก็ไม่มีข้อดีอะไรต่อพวกเราเลย ถ้าหากลงมือจนทำให้ร่างกายของพวกเขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมา นายชดใช้หรือว่าฉันชดใช้?”
หวางเสี่ยวหยวนด่าอย่างโมโห กล่าว: “เรียกพรรคพวกของเราถอยก่อน อ้อใช่ เอาตัวไอ้อ้วนนั่นไปด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง