NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 623

“เจ้านายของผมมาไม่ทัน ดังนั้นจึงให้ผมมาก่อน” ชางสู่เดินเข้ามาทางร้านกาแฟอย่างช้า ๆ พายุฝนพัดกระหน่ำ ทำให้ซางสู่เปียกปอนไปทั้งตัว แต่ดวงตาของเขา กลับจ้องมองหลี่ฝางอย่างไม่กะพริบ

“นี่ไม่ใช่การพบกันครั้งแรกของเรา

หลี่ฝางจ้องมองชางสู่ แล้วกล่าวอย่างเรียบ ๆ : “เมื่อคืนในป่าเล็ก ๆ ของโรงเรียนมัธยมโบตั๋น พวกเราเคยพบกันครั้งหนึ่ง”

“เหอะ ๆ คุณชายหลี่พูดอะไรกัน ทำไมผมฟังไม่รู้เรื่องเลย เมื่อคืนผมนอนอยู่ที่บ้านตลอดทั้งคืน ไม่ได้ออกไปไหนเลย คุณชายหลี่ตาลายจำผิดคนหรือเปล่า?” ชางสู่แสยะยิ้มพลางกล่าว

“ฉันยังไม่แกถึงขนาดสายตาพร่ามัว ทุกคนต่างก็เป็นหมาป่า ทำไมต้องแกล้งเป็นแพะด้วยล่ะ?” หลี่ฝางจ้องมองชางสู่ แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยัน

ชางสู่เดินมาข้างหน้าอีกหลายก้าว จนมาถึงด้านหน้าของหลี่ฝาง และมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง: “นายก็คอยอดฝีมือคนนั้น?”

“อ่อนหัด อ่อนหัด” ส้าวส้วยกล่าวอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว

“หวางเห้าพูดถึงนายกับฉันตั้งหลายครั้งแน่ะ เขาบอกว่านายเป็นคนที่ฝีมือดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา” ชางสู่มองส้าวส้วยอย่างระมัดระวังเล็กน้อย พลางกล่าว: “หวางเห้าไม่ใช่คนที่ชอบคุยโวโอ้อวด”

“เข้าบอกกับฉันว่าไม่ว่าจะยังไง จะต้องระวังนายให้ดี” ชางสู่พูดกับส้าวส้วย

ส้าวส้วยยิ้มเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไร

ชางสู่มาถึงข้างในของร้านกาแฟ แล้วนั่งลง: “ที่ร้านค่อนข้างเงียบ หรือว่าคุณชายหลี่ได้จองไว้ก่อนแล้ว?”

หลี่ฝางหันหลังกลับ แล้วมองชางสู่แวบหนึ่ง : “แกไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเจรจากับฉัน”

ชางสู่ไม่ได้โมโหแต่กลับยิ้ม: “คุณชายหลี่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มาเจรจากับคุณ”

“ผมมาเพื่อมอบคนให้คุณต่างหาก”

ชางสู่กล่าวไป ก็หันไปทางด้านนอกแล้วผิวปาก บริเวณหน้าต่างของรถยนต์เชิงพาณิชย์คันนั้น มีหัวของคนคนหนึ่งถูกผลักออกมา

เป็นหัวของเด็กหญิงคนหนึ่ง

หลี่ฝางรู้ ว่านี่คือน้องสาวของจูเฟิ่งปิน

“ยังไงก็ขอให้คุณชายหลี่อย่าพึ่งรีบร้อนไป รอเจ้านายของพวกเราก่อนสักครู่ ข้างนอกฝนตกหนักเอาซะอย่างนั้น ถ้าขับรถเร็วเกินไป จะเกิดอุบัติเหตุเอาง่าย ๆ ได้ คุณว่าไหม?”

ชางสู่กล่าว หลี่ฝางเห็นหัวของน้องสาวของจูเฟิ่งปิน ถูกคนเอาปืนจ่ออยู่

ถ้าหลี่ฝางจากไปแบบนี้ล่ะก็ อีกฝ่ายคงระเบิดสะมองของน้องสาวของจูเฟิ่งปินอย่างแน่นอน

“งั้นฉันดื่มกาแฟอีกสักแก้วแล้วกัน”

หลี่ฝางดีดนิ้วมืออีกครั้ง แล้วสั่งกาแฟกับหลิงหลง

ในขณะที่หลิงหลงกำลังทำกาแฟนั้น ฝนที่ตกอยู่ข้างนอก ก็ตกหนักขึ้นกว่าเดิม

ในตอนที่หลิงหลงยกกาแฟเข้ามานั้น ชางสู่ก็หัวเราะเอิ๊กอาก: “ผมนึกว่า นี่เป็นเพียงร้านกาแฟธรรมดา คิดไม่ถึงว่า เถ้าแก่เนี้ยของที่นี่ จะมีเสน่ห์ยั่วยวนขนาดนี้”

ชางสู่มองหลิงหลงอย่างครุ่นคิด แล้วเอ่ยถาม: “เถ้าแก่เนี้ย คุณเปิดร้านเพียงคนเดียว ตอนกลางคืนกลัวหรือเปล่า?”

“กลัวอะไร?”

หลิงหลงถามกลับ

“ก็กลัวว่าจะมีคนมาโจรกรรมกระทำชำเราคุณไงล่ะ” ชางสู่หัวเราะเอิ๊กอ๊าก: “ถ้ากลัวล่ะก็ ผมสามารถเป็นบอดี้การ์ดให้คุณฟรี ๆ ได้นะ”

ชางสู่ดูออกว่าร้านกาแฟแห่งนี้ไม่ปกติตั้งแต่แรกแล้ว

โดยเฉพาะหลิงหลง แสดงออกได้สงบนิ่งแบบนี้ ยิ่งทำให้ชางสู่สงสัยมากขึ้น

“เหอะ ๆ คุณดูแลตัวเองให้ดูก่อนเถอะ”

หลิงหลงยิ้มกล่าว: “ตอนเด็ก ๆ ฉันได้เรียนทำนายโชคชะตาจากใบหน้ามาบ้าง แต่ไหนแต่ไรมาคนที่มีลักษณะใบหน้าแบบคุณ ล้วนอายุสั้นกันทั้งนั้น”

“มันก็ไม่แน่หรอก ผมก็เคยไปดูดวงมาเหมือนกัน หมอดูบอกว่าผมเป็นภัยพิบัติ ดังคำกล่าวที่ว่าคนดีอยู่ไม่นานคนพาลอยู่พันปี เกรงว่า ผมคงต้องอายุยืนแน่”

ชางสู่ยิ้มอ่อน ตีฝีปากกล่าว: “เถ้าแก่เนี้ย ชงกาแฟให้ผมสักแก้วด้วยสิครับ ใส่น้ำตาลเยอะ ๆ นะ”

หลิงหลงไม่ได้ปฏิเสธ และเดินหันหลังกลับไปชงกาแฟ

รอจนหลิงหลงชงกาแฟเสร็จ และยกออกมา ชางสู่ก็ยิ้มพลางเอ่ยถาม: “ในกาแฟนี่ คงไม่ถูกคุณใส่ยาพิษลงไปด้วยหรอกนะครับ?”

หลิงหลงยิ้มประชด: “ถ้ากลัว งั้นก็ไม่ต้องดื่ม”

“ตายใต้ดอกโบตั๋นต่อให้ไปเป็นผีก็คุ้มค่า สามารถตายในเงื้อมมือของเถ้าแก่เนี้ยได้ นับเป็นเกียรติของผม” ชางสู่ยิ้มกล่าว

หลี่ฝางทนดูต่อไปไม่ค่อยจะได้แล้ว จึงกล่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด: “ดื่มกาแฟแก้วนี้หมด ฉันก็จะออกไป”

“ถ้าหากพอถึงเวลานั้นแล้วมู่เสี่ยวไป๋ยังไม่มาล่ะก็ ข้อตกลงเป็นอันยกเลิก สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในรถ พูดตามตรง หล่อนไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับฉันแล้ว ถ้าพวกแกอยากจะฆ่า ก็ฆ่าไปซะก็จบ” หลี่ฝางแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วกล่าว

และชางสู่ก็ยิ้มตาม: “ผมได้ยินมาจากหวางเห้า ว่าคุณชายหลี่เป็นที่มีความเมตตากรุณาที่หาได้ยาก ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะไม่ใส่ใจไยดีเด็กผู้หญิงคนนั้น”

“อ้อใช่ เมื่อคืนเด็กผู้หญิงคนนั้น เกือบอดมาไม่ได้แน่ะ” ชางสู่ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ภาพเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักผ่านเข้ามาในหัวของเขา

ถึงยังไง ในตอนที่ชางสู่ส่งวิดีโอมานั้น บนร่างกายของน้องสาวของจูเฟิ่งปิน ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดเลย

สีหน้าของหลี่ฝางเยือกเย็นขึ้นหลายเท่า เมื่อส้าวส้วยเห็นหลี่ฝางเสียหน้า เขาก็จ้องมองชางสู่พลางกล่าวขึ้นมาทันที: “ถ้าเกิดว่าเด็กหญิงคนนั้นตายไป ฉันจะต้องให้คนที่ฆ่าเธอต้องชดใช้อย่างแน่นอน”

“สายตาฉันไม่ค่อยจะดีนัก แยกไม่ได้ว่าคนในรถเป็นใครที่ลงมือ แต่คนทั้งสี่ที่อยู่ในรถ ฉันจะฆ่าให้หมด”

ส้าวส้วยกล่าว

อยู่ไกลขนาดนั้น อีกอย่างฝนก็ตกหนักขนาดนี้ ส้าวส้วยกลับสามารถบอกจำนวนคนที่อยู่ในรถออกมาได้อย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน อย่าว่าแต่หลี่ฝางเลย แม้แต่สีหน้าของชางสู่ ก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ

ชางสู่กำลังคิดว่า ส้าวส้วยคนนี้รู้ได้ยังไงกัน?

เวลาผ่านไปอีกประมาณสิบกว่านาที ทางด้านนอกของร้านกาแฟ ในที่สุดก็มีเสียงรถยนต์สองสามคันดังเข้ามา

มู่เสี่ยวไป๋เดินลงมาจากรถ มีคนกางร่มให้เขา แต่ก็ได้ถูกเขาผลักออกไป

มู่เสี่ยวไป๋ในเวลานี้ ทุลักทุเลเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาสวมชุดขาวไปทั้งตัว แต่ ณ เวลานี้ ไม่เพียงเปียกโชกไปหมด ทั้งยังสกปรกอีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง