NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง นิยาย บท 643

สรุปบท บทที่643 เข้าไปยังชั้นใต้ดิน: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

สรุปตอน บทที่643 เข้าไปยังชั้นใต้ดิน – จากเรื่อง NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดย เฉียงเกอ9527

ตอน บทที่643 เข้าไปยังชั้นใต้ดิน ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง โดยนักเขียน เฉียงเกอ9527 เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ถ้าเธอบีบกระดูกตรงคอให้หัก มู่หรงฉางเฟิงก็ตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“เธอเป็นใคร?” มู่หรงฉางเฟิงมองแม่มด เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่

“ลูกน้องของหลอซ่า แต่ไม่ได้โด่งดังเท่านายหรอก”

มู่หรงฉางเฟิงเคยสืบประวัติคร่าวๆของลูกน้องทั้งหลายของหลอซ่ามาอยู่บ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเจอหน้าแม่มดกู่หย่งฉี

“หึๆ ฉันเพิ่งมาได้ไม่นาน ต่อไปเราก็ค่อยๆทำความรู้จักกันเถอะ จะบอกชื่อให้ก่อน ฉันชื่อแม่มด”

แม่มดมองมู่หรงฉางเฟิงแล้วแสยะยิ้ม “ถ้านายรู้สึกสนใจฉัน อีกหน่อยเราก็ยังมีโอกาสได้ประลองกันอีก แต่ถ้านายไม่สน งั้นนี่ก็จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน”ขู่!

แม่มดขู่มู่หรงฉางเฟยอย่างคนพองขนได้ใจ

“เธอกล้าฆ่าฉันหรอ? ไม่รู้หรือไงว่าที่คือที่ไหน?” มู่หรงฉางเฟิงพูดเสียงเย็น

ไม่ว่ายังไงที่นี่ก็คือเมืองเอก ถิ่นของเขา

มู่หรงฉางเฟิงคือทายาทของตระกูลหมู่หรง ถ้าหากเขาตาย ยัยแม่มดนี่ก็จะถูกคนของตระกูลมู่หรงทั้งตระกูลตามล่า

“รู้สิ ถิ่นของนายไง ก็แค่ที่รกร้างเหมือนป่าช้า”

แม่มดพูดอย่างไม่แยแส “อย่ามาถามว่าฉันกล้าฆ่านายหรือเปล่า เพราะแต่ละคนที่ฉันเคยฆ่ามาน่ะ เป็นคนเส้นใหญ่กว่านายตั้งเยอะ เชื่อไหมล่ะ?”

“ฉันจะให้เวลาสามนาที รีบบอกมา…”

แม่มดเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งสงบ “ทางเข้าอยู่ไหน?”

มู่หรงฉางเฟิงรู้ดีว่าตัวเองขู่อะไรแม่มดไม่ได้ จึงต้องจำใจพูด “ปล่อยฉันก่อน แล้วฉันจะบอก”

“ได้”

แม่มดเอ่ยเสียงเรียบ

แต่วินาทีนี่แม่มดคลายมือออก มู่หรงฉางเฟิงก็ใช้มือคว้ามีดสั้นออกมา แล้วเตรียมจะปักคมมีดลงบนหน้าอกของแม่มด

แม่มดแสยะยิ้มมุมปากนิดๆ เธอเดาเอาไว้อยู่แล้ว จึงหมุนไหล่ของตัวหลบ แล้วหันไปโจมตีแขนใหญ่ของมู่หรงฉางเฟิงอย่างรวดเร็ว

ในเสี้ยวพริบตาเดียว แม่มดสับกระดูกข้อต่อช่วงไหล่ของร่างใหญ่จนหลุด

“ในเมื่อฉันกล้าปล่อยมือออกจากนาย ก็ย่อมไม่กลัวจะโดนลอบโจมตีอยู่แล้ว”

แม่มดมองมู่หรงฉางเฟิงด้วยความเฉยชา “เรามันคนละชั้น”

“รีบบอกมาซะ ทางเข้าอยู่ที่ไหน? อย่าทำให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่านี้ ฉันรับปากลุงเฉียนไว้แล้วว่าจะไม่ฆ่านาย แต่ถ้านายเอาแต่เล่นแง่อยู่แบบนี้ ฉันคงจะ…”

ไม่รอให้มู่หรงฉางเฟิงได้เอ่ยปาก ซือถูเฟยลุกขึ้นยืนแล้วเอื้อมมือไปหมุนตรงภาพวาดบนผนัง

“ซือถูเฟย…”

มู่หรงฉางเฟยขมวดคิ้ว “นายเสียสติหรือไง?”

“ชีวิตของนายสำคัญกว่าผู้หญิงคนนั้น” ซือถูเฟยถูก

หลี่ฝางขมวดคิ้วมองดูบทสนทนาชวนอ้วกระหว่างมู่หรงฉางเฟิงกับซือถูเฟย

ไอ้สองคนนี่เล่นละครได้ทุกสถานการณ์จริงๆสินะ

เป้าหมายของมู่หรงฉางเฟิงกับซือถูเฟยคืออะไร?

เพื่อใส่ร้ายตระกูลหลี่ไม่ใช่หรือไง?

แล้วตอนนี้คนของตระกูลหลี่ก็มาถึงนี่แล้ว จะห้ามไว้ทำไม ทำไมไม่ให้คนของตระกูลหลี่เข้าไปข้างในชั้นใต้ดิน?

ถ้าไม่ได้เข้าไปในชั้นใต้ดิน ตระกูลหลี่จะบาดหมางกับลูกค้าพวกนั้นได้ยังไง

“พี่ฉีฉี รู้ไหมว่าฉินหยีหรันหน้าตาเป็นยังไง?” แม่มดกำลังจะก้าวขาเข้าไปข้างใน แต่หลี่ฝางถามขึ้นก่อน

แม่มดพยักหน้าเป็นคำตอบ

ซือถูเฟยมองแม่มดแล้วพูดขึ้นบ้าง “นี่อาจจะเป็นกับดักก็ได้ เธอไม่กลัวหรอ?”

“นายไม่กล้าหรอก”

แม่มดดึงปรายตามองซือถูเฟยนิดหน่อย แล้วกระโดดลงไป

“ผู้หญิงตัวคนเดียว แต่อยากบุกเข้าไปในรังลับของพวกเรา ตลกจริง” ซือถูเฟยหัวเราะหึ

“ถ้าที่นั่นเข้าไปง่ายขนาดนั้น ตอนนั้นหลอซ่าคงไม่บาดเจ็บแล้วสิ” ซือถูเฟยพูด

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ตอนที่พ่อของตัวเองมาช่วยคน ได้รับบาดเจ็บกลับไปด้วยหรอ?

ฝีมือของหลอซ่าอยู่ระดับไหน หลี่ฝางเคยสัมผัสมาด้วยตัวเอง ถ้าขนาดเขายังได้รับบาดเจ็บ งั้นแม่มดกู่หย่งฉีคงต้องสาหัสไม่ใช่น้อย?

หลี่ฝางวิ่งออกจากห้อง แล้วพูดกับลุงเฉียน “ลุงเฉียน พี่ฉีฉีเข้าไปแล้วครับ เราเรียกกำลังเสริมดีไหม?”

“ผมกลัวพี่ฉีฉีจะมีอันตราย”

หลี่ฝางพูดด้วยความกังวล

ลุงเฉียนพูดเรียบๆ “ข้างในมีมือปืนอยู่มาก การส่งคนเข้าไปเยอะๆ ก็มีแต่จะส่งไปตาย แต่นอกจากลูกพี่แล้ว ก็มีแม่มดที่สามารถหลบลูกกระสุนได้”

ลุงเฉียนพูด ขณะที่ล้วงไปหยิบโทรศัพท์แล้วกดโทรออก “โหจื่อ ถึงไหนแล้ว?”

ทันทีที่พูดจบ โหจื่อก็ปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้าของลุงเฉียน

“มัวทำบ้าอะไรอยู่ที่ไหน?” ลุงเฉียนถลึงตาใส่ “รีบเข้าไป หาทางเข้าเจอแล้ว อีกอย่างแม่มดก็เข้าไปข้างในแล้วด้วย”

“นายไปช่วยเธอหน่อย” ลุงเฉียนพูด

โหจื่อรับคำสั้นๆ แล้วเดินเข้าไปในห้อง เขามองหน้าซือถูเฟยกับมู่หรงฉางเฟิงเล็กน้อย แล้วเม้มปากยิ้ม “นายสองคน ใครจะไปกับฉัน?”

เมื่อโหจื่อพูดจบ สีหน้าของซือถูเฟยกับมู่หรงฉางเฟิงก็เผยความหวาดหวั่น

“แม่งเอ้ย ลืมใส่ชุดเกราะมาซะได้ เกิดโชคไม่ดีโดนยิงขึ้นมา ชีวิตฉันได้จบเห่พอดี ต้องหาใครซักคนมาช่วยกำบังหน่อย”

โหจื่อสบถเสร็จ ก็จับไหล่ซือถูเฟยไว้มั่น “นายแล้วกัน ท่าทางจะอ่อนแอกว่าหน่อย”

โหจื่อลากซือถูเฟยกระโดดลงไปในหลุมดำมืด

มู่หรงฉางเฟิงเห็นภาพนั้น ก็โล่งอกไปเปราะนึง

แต่นี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ของมู่หรงฉางเฟิงก็ดังขึ้น หลี่ฝางฉวยมือมาล้วงโทรศัพท์ไปจากมู่หรงฉางเฟิง แล้วกดรับสาย “ถึงแล้วหรอ?”

“หลี่ฝาง?” ฉินวี่เฟยพูดด้วยความแปลกใจ “ทำไมนายเป็นคนรับสายล่ะ?”

ทันที่พูดจบ โหจื่อก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น

“แม่มึง นี่พวกมันรู้ตัวแล้วหรือไง?” สีหน้าของโหจื่อเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันใด

โหจื่อเหลือบไปหาซือถูเฟย “มองหน้าฉัน”

ซือถูเฟยหันไปมองโหจื่อโดยสัญชาติญาณ จากนั้น โหจื่อก็ฉีกยิ้มเย็นยะเยือกที่มุมปาก แล้วมือใหญ่ก็ตรงเข้าไปตะปบที่แผงอกของซือถูเฟย ซือถูเฟยอ้าปากค้างด้วยความเจ็บปวด

โหจื่อใช้พลังภายในยัดยาเม็ดสีดำเข้าในร่างท้องของซือถูเฟย

หลังจากที่เสียงเอื๊อกดังขึ้นเป็นการบ่งบอกว่าซือถูเฟยได้กลืนมันลงไปแล้ว โหจื่อก็พูดขขึ้น “เมื่อกี๊ที่นายกินมันลงไป เป็นยาพิษ ถ้าภายในสามชั่วโมงนายไม่ได้ยาถอนพิษจากฉัน ยาพิษในท้องของนายก็จะเริ่มออกฤทธิ์ กลายเป็นปรสิตนับหมื่นตัวเดินยั้วเยี้ยอยู่ในท้องของนาย แล้วเมื่อถึงเวลา นายก็จะตาย เข้าใจ?”

ใบหน้าของซือถูเฟยซีดเผือดในทันที

“นายโกหกใช่ไหม?” ซือถูเฟยไม่อยากเชื่อ

“ไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่ฉันได้ยานี่มาจากคนเผ่าโบราณ” โหจื่อพูดเสียงเรียบ “แน่นอนว่าถ้านายไม่เชื่อ ฉันก็พูดอะไรไม่ได้”

“ที่นี่เป็นถิ่นของนาย ยังไงนายก็ต้องรู้จักมันดีกว่าฉัน”

“ฉินหยีหรันอยู่ที่ไหน ฉันเชื่อว่านายจะหาตัวเธอเจอเร็วกว่าฉันหลายเท่า”

“เอาล่ะ ไม่พูดเยอะแล้วกัน ฉันยังต้องไปช่วยสามงามอีกคน ส่วนฉินหยีหรันก็ฝากนายด้วยล่ะ คุณชายซือถู” โห่จื่อพูดจบก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

ใบหน้าของซือถูเฟยอยู่ในความนิ่งอึ้ง เขากำลังคิดว่า สิ่งที่โหจื่อพูดเมื่อกี๊ เป็นแค่นิทานไร้สาระหลอกเด็ก ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาตร์อะไรมาพิสูจน์ได้ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจริง งั้นเขาก็ต้องตายน่ะสิ?

ซือถูเฟยพยายามล้วงคออ้วก แต่ยาสีดำที่ว่าไม่ออกมาสักที

ซือถูเฟยนั่งอยู่ที่เดิมนานสิบนาที ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวและเริ่มออกตามหาฉินหยีหรัน

ขณะเดียวกัน ใบหน้าของซือถูเฟยก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขามาถึงชั้นใต้ดินแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาคน

ว่ากันตามหลักที่แบบนี้ควรจะต้องมีบอร์ดี้การ์ดอย่างน้อยๆก็ห้าหกคนถึงจะถูก อีกทั้งบอร์ดี้การ์ดพวกนั้นยังเป็นมือปืนว่าจ้างที่ฝีมือไม่ธรรมดา

แต่นี่เขาเดินไปทั่วซะขนาดนี้แล้ว กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของคนพวกนั้น ซึ่งสามารถสรุปได้อย่างนึงว่า พวกนั้นคงเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดฝัน

ปั้งปั้งปั้ง

เสียงปืนดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ในหัวของซือถูเฟยเหมือนกำลังจะระเบิด

ลูกค้าแต่ละคนของที่นี่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต หากฆ่าใครสักคนตายไป ทั้งตัวเขาและตระกูลซือถูจะต้องเจอกับภัยร้ายขนาดหนัก

ซือถูเฟยเริ่มตั้งข้อสงสัย แผนการของตัวเองที่เดิมทีตั้งใจจะเล่นงานตระกูลหลี่เหมือนจะมีอะไรผิดพลาดไป?

เมื่อโหจื่อเจอตัวแม่มด ก็พบว่าที่แขนของเธอมีเลือดไหล เป็นร่องรอยที่ถูกกระสุนเฉียด

“มาสักที ขืนยังไม่มาอีก ฉันคงได้เรียบร้อยโรงเรียนจีนอยู่ในนี้แน่”

แม่มดมองบนใส่โหจื่อ “นายรับมือกับไอ้พวกนี้ให้ที ฉันจะไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน”

แม่มดพูด พร้อมกับบุกเข้าไปในห้องของแขก ในขณะที่โหจื่อสบถอย่างไม่พอใจ “แม่งเอ้ย ความเท่าเทียมอยู่ตรงไหน งานยากงานเสี่ยงตายยกให้ผู้ชายทำตลอด”

“เฮ้อ…”

โหจื่อถอนหายใจ แล้วหยิบปืนมาถือไว้ทั้งสองมือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง