เสียงปั้งดังขึ้น ลูกกระสุนยิงผ่านร่างของโหจื่อไป
“เฮ้ย ช่วยเล็งให้มันแม่นๆหน่อยได้ป้ะวะ?” โหจื่อหันกลับไป เขาตำหนิด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
“ไม่เสียดายลูกกระสุนหรอวะ?”
โหจื่อจ้องไปยังมือปืน
มือปืนมองโหจื่อ สีหน้าเริ่มตื่นตระหนก “มึงเป็นใคร?”
“เช้ดเข้ นี่พวกเรายังต้องมานั่งแนะนำตัวกันด้วยหรอวะ? หรือตอนไปรายงานกับพญายมจะได้ชี้ตัวถูกว่าใครฆ่ามึงงั้นสิ?”
โหจื่อเกลือกตามองบน จังหวะที่อีกฝ่ายเตรียมจะลั่นไกใส่อีกนัด เขาเป็นฝ่ายยิงสวนไปก่อนจนมือปืนคนนั้นล้มลง
“ทำไม ที่เหลือจะยืนเป็นเต่าหัวหดในกระดองอีกนานไหม?”
“โตเป็นควายแล้วยังเล่นซ่อนแอบกันอีกหรอวะ?”
โหจื่อแค่นเสียงหัวเราะ ก่อนจะค่อยๆยกปืนขึ้นมา
ตอนนี้เอง มือปืนสี่คนก็เดินออกมาจากจากคนละทิศ ทันทีที่ปรากฏตัว พวกเขาก็เตรียมพร้อมหันปากกระบอกปืนเล็งมายังจุดที่โหจื่ออยู่ เตรียมลั่นไก
แต่โหจื่อไม่ปล่อยให้พวกเขาได้มีโอกาสนั้น
ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกมา โหจื่อได้ใส่ลูกกระสุนไว้แล้วสี่นัด
ปั้งปั้งปั้งปั้ง
ลูกกระสุนทั้งสี่ถูกยิงทะลุตรงเข้าไปในร่างของมือปืนทั้งหมด
แปะๆ
ชายผมยาวเดินออกมา เขามองหน้าโหจื่อด้วยสีหน้าชื่นชม “นายเป็นคนที่ยิงปืนเร็วที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ”
“สนใจจะเข้าร่วมทีมกับฉันไหม?”
ชายผมยามมองโหจื่อแล้วถามขึ้น
ผมยาวของเขาเป็นสีบรอนด์ทอง ร่างสูงใหญ่ที่มองคร่าวๆน่าจะเกือบสองร้อยเซนติเมตร
“คนต่างชาติที่พูดภาษาจีนได้คล่องปรื๋อขนาดนี้ ก็หาได้ยากเหมือนกัน” โหจื่อพูดเสียงเรียบ
“ทำไม หรือนายคือหัวหน้าของพวกมัน?”
โหจื่อมองหน้าชายผมยาวแล้วถามกลับ
ชายผมยาวส่ายหน้า “หัวหน้าของเราไม่ได้อยู่ที่นี่ ปกติฉันจะเป็นคนดูแล”
“นายเล่นฆ่าลูกน้องของฉันไปสี่คน ฉันไม่รู้จะแก้ตัวกับหัวหน้ายังไง ไม่อย่างนั้น นายกลับไปกับฉัน ไปพบหัวหน้า เพราะหัวหน้าเองก็กำลังต้องการคนที่มีฝีมือแบบนายอยู่พอดี” ชายผมยาวพูด
“แล้วฉันจะไม่ถือสาเอาความเรื่องที่นายฆ่าพวกมัน อีกทั้งฉันจะช่วยปกป้องชีวิตนายให้ด้วย”
“ฉันว่าในเมื่อนายมาถึงที่นี่แล้ว ก็คงจะรู้ดีว่าคนที่อยู่ที่นี่แต่ละคนเป็นยังไง พวกเขาทุกคนสามารถฆ่านายได้ง่ายๆ”
ชายผมยาวพูดยิ้มๆ “เป็นไง จะลองพิจารณาดูหน่อยไหม?”
“นายรู้ไหม ประเทศจีนมีสำนวนนึงบอกไว้ว่า คนโง่มักจะทำอะไรพูดอะไรโดยไม่รู้จักใช้สมองไตร่ตรอง นายเหมาะกับสำนวนนี้พอดี ถ้าฉันกลัวไอ้พวกเดรัจฉานนั่น ฉันจะโผล่หัวมาที่นี่ทำไม?”
“ไอคิวอย่างนายเนี่ยนะ ฉันว่าชีวิตนี้อย่าได้ออกไปจากหลุมนี่เลย ไม่งั้นเกิดไปเจอเด็กสามขวบหลอกเข้า มีหวังฉี่ราดกันพอดี” โหจื่อพูดเหยียด
โหจื่อไม่กลัวว่าจะเสียเวลา
เพราะหน้าที่ของเขา ก็คือช่วยถ่วงเวลาให้แม่มด
เพราะงั้น ถ้าชายผมยาวนี่อยากจะต่อปากต่อคำ โหจื่อก็พร้อมจะเล่นด้วยสามวันสามคืน
“นายเป็นคนที่มีพรสวรรค์นะ เสียดายที่ทะนงตัวเกินไปหน่อย”
ชายผมยาวขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งขรึม “แล้วนายจะต้องชดใช้ให้กับความทะนงตัวนี่”
“นายอย่าขู่ฉันสิ ฉันเป็นโรคหัวใจนะ ฟังดูก็รู้ว่านายกำลังข่มขู่ฉัน”
โหจื่อมองซ้ายมองขวา “โถ่เอ้ย มาตัวคนเดียวยังกล้าขู่ชาวบ้านอีกหรอ ไปเอาความมั่นนี่มาจากไหนวะ?”
“ใครว่าฉันมาคนเดียว?”
ชายผมยาวยิ้มตาหยี “พวกเขามาแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ เสียงลิฟต์ที่กลืนไปกับผนังซึ่งตั้งอยู่อีกฝากของชั้นใต้ดินก็ดังขึ้น
จากนั้น ชายเจ็ดแปดคนก็เดินออกมาจากลิฟต์
ในที่ตรงนี้ มีทั้งมือปืน มีทั้งจอมยุทธ์
“ไม่มีใครมาก่อกวนตั้งหลายปีแล้ว” ชายผมยามหัวเราะ “ฉันถูกส่งตัวมาที่นี่ได้สามปี เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายก่อเรื่อง ที่ผ่านมาก็เป็นพวกผู้หญิงที่สุดท้ายรับมือไม่ไหวจนกลายเป็นบ้า”
โหจื่อขมวดคิ้ว ที่แท้คนที่กำลังถ่วงเวลาอยู่ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว
“พวกเอ็งยังไม่ต้องเข้ามา”
ขณะที่คนกลุ่มนั้นกำลังจะเดินเข้ามา ชายผมยาวก็โบกมือห้าม
“ฉันอยากประลองกับเด็กนี่ก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง