“เขาเป็นแค่คนธรรมดา จะทำได้เหรอ?”
ลุงเฉียนหัวเราะ เลียนแบบคำพูดของท่านลู่
“ถ้าเกิดเขาเป็นแค่คนธรรมดา จะสามารถหลบหนีการตามไล่ล่าของสี่ตระกูลใหญ่ได้ไหม? ถ้าเกิดเขาเป็นแค่คนธรรมดา จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ใหม่ไหม? ถ้าเกิดเขาเป็นแค่คนธรรมดา แกคิดว่าฉันเฉียนกวงกวง จะติดตามเขามานานหลายปีขนาดนี้ไหม?”
ลุงเฉียนพูดไป พร้อมกับถอดหายใจ “พวกแกอ่า สักวันจะต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเขา”
“สิ่งที่พวกแกมี เป็นสิ่งที่รุ่นก่อนๆเหลือเอาไว้ ล้วนได้รับมาจากการสืบทอด จากรุ่นสู่รุ่น ส่วนเขา ใช้สองมือของตัวเองไต่เต้าขึ้นมา สิงโตที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี จะไปเทียบกับสิงโตที่โตในป่าได้ยังไงกัน?”
ลุงเฉียนพูด พร้อมมองท่านลู่ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
ท่านลู่มองหน้าลุงเฉียน แล้วอึ้งไปสักพัก
จากนั้น ท่านลู่ก็ถอดหายใจยาว “โบราณว่าไว้ พวกที่เรียกเจ้าชายตั้งแต่เกิดมาก็สูงกว่าเราหรือเปล่า?”
“ฉันจะรอดูยาวๆ”
จนสุดท้ายท่านลู่ก็ไม่ยอมเชื่อว่า หลอซ่า จะสามารถโค่นล้มไอ้แก่พวกนั้นได้
“พรุ่งนี้เมื่อฟ้าสว่าง คนของบ้านตระกูลลู่ ก็คงจะค่อยๆเดินทางมาถึงเมืองเอกใช่ไหม?”
ท่านลู่มองหน้าลุงเฉียน แล้วเปิดปากถามขึ้นมา “ไม่รู้ว่าหลอซ่า จะกลับมาเมื่อไหร่?”
ลุงเฉียนไม่ได้พูดอะไร
“ฉันรู้แล้วว่าหลอซ่าไปทำอะไร ทางด้านเขตสามเหลี่ยม มีคนกลุ่มนึง ที่ค่อยทำร้ายโลกทั้งใบอยู่ ส่วนพวกเขา ก็อยู่ใกล้กับประเทศของพวกเรา ความอันตรายต่อประเทศของพวกเรา อยู่ในระดับสูง ประเทศนี้อยากจะกำจัดคนพวกนี้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่า ประเทศนี้กลับหาสถานที่ที่แน่ชัดของพวกเขาไม่ได้ จึงไม่กล้าขยับสุ่มสี่สุ่มห้า”
“เวลานั้น ประเทศนี้เคยส่งคนกลุ่มนึง เข้าไปเป็นสายในเขตสามเหลี่ยม แต่สายลับที่ส่งเข้าไป ต่างก็ถูกจับได้หมด หลังจากที่แผนส่งสายลับเข้าไปล้มเหลว แผนที่จะจัดการกลุ่มคนพวกนี้ ก็ถูกระงับเอาไว้ก่อน”
“ฉันจำได้ว่า ตอนนั้นคนของพวกแก ถูกไอ้แก่พวกนั้น ไล่ต้อนจนหนีไปอยู่ที่เขตสามเหลี่ยม ซ่อนตัวอยู่ที่นั่นกว่าครึ่งปี เพราะงั้น พวกแกน่าจะคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่นั่นเป็นอย่างดี”
ลุงเฉียนไม่คิดจะปิดบัง บอกไปตรงๆว่า “เวลาครึ่งปีที่อยู่ที่นั่น พวกเราเคยเจอกับกลุ่มคนพวกนั้น แถมยังมีพี่น้องชายหญิงหลายคน ถึงจับไปเป็นทหาร แถมยังเสียชีวิตไปหลายคน”
ลุงเฉียนมองไปยังท่านลู่ พูดด้วยสีหน้าที่มืดมน “แกค่อยจับตาดูการเคลื่อนไหวของพวกเราอยู่ตลอด?”
“ช่างบังเอิญสักจริง”
ลุงเฉียนพูดอย่างสบายๆ “ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้”
“พวกไอ้แก่ที่อยู่ในชั้นใต้ดินที่สามและชั้นใต้ดินที่สี่ จิตใจของพวกเขา ไม่ได้อยู่ในตัวพวกแก ถ้าจะพูดตรงๆก็คือ พวกเขาไม่เคยเห็นพวกแกอยู่ในสายตา” ท่านลู่พูด
“ไอ้พวกตาต่ำที่ชอบดูถูกคน ล้วนต้องตายอย่างน่าทุเรศ” ลุงเฉียนพูด
“หลายปีนี้พวกเขา ไม่ค่อยจะใส่ใจเรื่องภายนอกแล้ว รวมถึงข่าวที่พวกแกกลับมา ก็ไม่มีใครไปบอกพวกเขา บางที พวกเขาอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอให้พวกเขารู้ตัว บางที เรื่องที่เกิดขึ้นกับบ้านตระกูลจูเก่อ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในนั้น แต่บ้านตระกูลจูเก่อก็มีเจ้าบ้านคนใหม่อย่างรวดเร็ว และจัดการปัญหาของตระกูลจูเก่อได้อย่างราบรื่น เพราะงั้น พวกเขาจึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ในสายตาของพวกเขา อาจจะเห็นแค่เป็นเรื่องการชิงตำแหน่งภายในบ้าน”
“พวกแกน่าจะเป็นคนปิดข่าวเอาไว้ถูกไหม?” ท่านลู่ทำหน้าเครียด แล้วมองไปยังลุงเฉียน
“ข่าวของบ้านตระกูลจูเก่อ เป็นความจริงที่พวกเราเป็นคนปิดข่าวเอาไว้” ลุงเฉียนพูด
“ตระกูลซือถู ตระกูลมู่หรง ตระกูลตงฟาง ถ้าเกิดมีปัญหาเกิดขึ้นกับสามตระกูลนี้อีก คิดว่าไอ้แก่พวกนั้น จะต้องสังเกตเห็นอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น พวกเขาจะต้องลงมืออย่างแน่นอน”
“สุดท้าย พวกแกก็ยังกลัวอยู่ดี กลัวว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นพวกแก เพราะงั้น พวกแกจึงไม่ได้ลงมือกับตระกูลซือถูและตระกูลมู่หรง ถูกไหม?”
ท่านลู่หลับตาแล้วยิ้มออกมา
“พวกเราก็แค่ ยังเตรียมตัวตั้งรับไม่เสร็จก็เท่านั้นเอง มันไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะกลัวพวกแก” ลุงเฉียนพูดอธิบาย
“ตอนนี้เตรียมกันเรียบร้อยแล้วเหรอ?” ท่านลู่สอบถาม
“ใกล้แล้ว” ลุงเฉียนพูดตอบ
“ใกล้แล้ว? งั้นก็แปลว่ายังเตรียมการไม่เสร็จ นี้ยังเตรียมกันไม่เสร็จ พวกแกก็กล้าฉันมาไว้ที่นี่แล้ว ฮ่าๆ การเคลื่อนไหวของพวกแก ช่างบ้าระห่ำสักจริง” ท่านลู่ทำเสียงเฮิงไปหนึ่งที ที่แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย
ลุงเฉียนพูด “เจอการสถานการณ์พิเศษ ไม่งั้น การเคลื่อนไหวในวันนี้ อีกหลายวันถึงจะเกิดขึ้น”
“ท่านลู่ อย่าคิดว่าจะปิดบังได้ตลอด ไม่มีใครทำแบบนั้นได้ สิ่งที่พวกแกทำทั้งหมด สักวันจะต้องถูกเปิดเผย คิดจริงๆเหรอว่าจะไม่มีใครกล้าแตะต้องพวกแกน่ะ?” ลุงเฉียนมองท่านลู่ด้วยหางตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง