หลังจากที่ลุงเฉียนออกมา ก็เดินมาถึงข้างในบ้านเล็กๆแห่งนึง แล้วเริ่มคิดทบทวนคนที่มีอำนาจในเมืองเอก
ตระกูลตงฟาง......
ตระกูลที่ลึกลับนี้ จะต้องซ่อนตัวอยู่ในตระกูลแห่งนึงในเมืองเอก
ตระกูลฉิน?
ตระกูลมู่?
ตระกูลหวาง? ตระกูลหลี่? ตระกูลเฝิง?
ตระกูลมากขนาดนี้ ในสายตาของลุงเฉียน มองเป็นเส้นเดียวกัน
ในเมื่อพวกเขาปรากฏออกมาแล้ว งั้นก็ตรวจสอบได้ไม่ยาก
……
สักพัก โหจื่อก็มาเคาะประตู เดินเข้ามาข้างในบ้านพร้อมกับหลี่ฝาง
ลุงเฉียนนวดหัวตัวเอง แล้วพูดว่า “เป็นไงบ้าง?”
“จัดการคน ข้างนอกยังไง?” ลุงเฉียนมองหน้าโหจื่อแล้วถามขึ้นมา
“ทำตามที่เสี่ยวฝางต้องการ ทำให้พิการทั้งหมด” โหจื่อหัวเราะฮ่าๆ นั่งอยู่ตรงหน้าของลุงเฉียน แล้วก็มองแผนผังตระกูลที่อยู่บนโต๊ะของลุงเฉียน จึงพูดถามไปว่า “ลุงเฉียน คุณกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่?”
“ฉันกำลังหาตระกูลตงฟาง”
ลุงเฉียนพูด
พอโหจื่อได้ยินก็หัวเราะเยาะ “หาเขาทำไม? สี่ตระกูลใหญ่ ก็เป็นแค่กองขยะ จะไปเสียเวลากับกองขยะทำไม”
“ฉันว่า พวกเขาจะต้องกลัวจนไม่กล้าโผล่หัวออกมาแล้ว” โหจื่อพูด
ลุงเฉียนส่ายหัว “ตอนที่พวกเขาได้ผลประโยชน์ ก็ไม่เคยเผยหน้าออกมาสักครั้ง”
“ตระกูลนี้มีตัวตนอยู่จริงใช่ไหม?” โหจื่อถามอีกครั้ง
“สี่ตระกูลใหญ่ มีผู้นำอยู่คนนึง แต่แกลองดูสามตระกูลที่เหลือสิ ตระกูลมู่หรง ตระกูลซือถู หรือแม้กระทั่งตระกูลจูเก่อ มีตระกูลไหน ที่เหมือนเป็นหัวหน้าบ้าง?”
ลุงเฉียนสันนิษฐานว่า “เพราะงั้น ตระกูลสุดท้ายอย่างตงฟาง ไม่เพียงแค่มีตัวตน ยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นหัวหน้าคนสุดท้ายที่ซ่อนตัวอยู่”
“ซุนจิ้นล่ะ? เรียกเขาเข้ามา”
ลุงเฉียนพูด
หลังจากที่โหจื่อโทรออกไป ใช้เวลาไม่นาน ซุนจิ้นก็เดินเข้ามาข้างใน
“ซุนจิ้น แกอยู่ที่ตระกูลจูเก่อมาระยะเวลานึงแล้ว เรื่องที่ฉันบอกแก แกได้ตรวจสอบแล้วรึยัง?” ลุงเฉียนถาม
“ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบอะไร ฉันสอบปากคำวพวกอาวุโสของตระกูลจูเก่อมาไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของตระกูลตงฟาง แม้กระทั่ง สิ่งที่เกี่ยวกับตระกูลนี้ ตระกูลจูเก่อ ก็ไม่เหลือการบันทึกใดๆ”
“รวมทั้ง สมุดบัญชีของตระกูลจูเก่อ ก็ไม่เคยปรากฏรายชื่อคนของตงฟาง”
“แต่ว่า ตระกูลจูเก่อและตระกูลซือถู และตระกูลมู่หรง มีการติดต่อด้านธุรกิจอยู่ตลอด” ซุนจิ้นพูด
“งั้นมีรายชื่อคนไหนที่ดูน่าสงสัยบ้างไหม?”
ลุงเฉียนถาม “ฉันเดาว่า ตระกูลสุดท้ายนี้ ตระกูลตงฟาง ตระกูลของพวกเขา มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ชื่อปลอม”
“ลุงเฉียน เอางี้ไหมอีกสักสองวันผมจะเอาก๊อปปี้รายชื่อสมุดบัญชี ส่งมอบให้กับคุณ คุณลองดูด้วยตัวเอง คุณเองก็รู้ ผมเป็นคนใช้กำลัง ต่อให้ดูสักกี่รอบ ก็คงดูไม่ออกว่ามีอะไร” ซุนจิ้นพูดเสนอ
ลุงเฉียนพยักหน้า “ได้”
“พวกแกก็กลับไปนอนเถอะ วันนี้ทุกคนก็เหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนให้เพียงพอ พรุ่งนี้ พวกเรายังต้องรับมือกับตระกูลลู่” ลุงเฉียนพูดด้วยที่ปวดหัวเล็กน้อย
“แม้ว่าลู่เฟยจะอายุไม่มาก แต่ก็เป็นคนที่จัดการยาก”
“ฉันได้ยินมาว่า......เขาเป็นยอดฝีมือ”
มองไปยังโหจื่อแวบนึง จากนั้นลุงเฉียนก็พูดขึ้นมาว่า “โหจื่อ ถึงเวลานั้น คนๆนี้ถ้าเกิดใช้กำลังบุกเข้ามา ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแก”
“ก็แค่เพลย์บอยคนนึง จะเก่งสักแค่ไหนเชียว?”
โหจื่อพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างไม่จริงจังว่า “วางใจได้ ลุงเฉียน ฉันขอรับประกันว่าจะทำให้เขาคุกเข่าเรียกหาปู่เลย”
“จะฆ่าคนๆนี้ไม่ได้ เพราะงั้น ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าใช้ปืน”
“แน่นอนว่า ถ้าเกิดสถานการณ์ที่สู้ไม่ไหว ค่อยว่ากันอีกที” ลังเลไปสักพัก ลุงเฉียนก็พูดเสริมขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค
ลุงเฉียนขยับปากเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียที่ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ “ฉันขอไปนอนก่อน”
หลังจากที่รอโหจื่อเดินออกไป หลี่ฝางก็ดึงซุนจิ้น เข้าไปไปข้างในบ้านพักของตัวเอง
และในข้างในบ้านพักของตัวเอง
ซุนจิ้นหันไปถามกับหลี่ฝาง “คุณชาย จู่ๆคุณก็ลากผมมาที่นี่ มีเรื่องอะไรที่ต้องการพูดกับผมรึเปล่า?”
“ความจริงก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากจะถามแกว่า แกเคยคิดที่จะ เป็นนักเลงไหม?”
พอมองหน้าซุนจิ้น หลี่ฝางก็พูดออกไปอย่างตรงๆว่า “จะขอพูดตรงๆนะ เหตุผลที่คืนนี้ฉันต้องการให้คนพวกนั้นอยู่ที่นี่ แล้วทำให้พวกเขาพิการ ความจริงยังมีอีกหนึ่งเหตุผล”
“พวกเขาล้วนเป็นคนที่มีชื่อเสียงในยุทธภพ บนตัวพวกเขาทุกคน ล้วนมีฝีมือในการดูแลสถานที่ หลังจากที่ทำให้พวกเขาพิการ สถานที่พวกนั้น ก็ไม่มีคนดูแล และในคืนนี้ ฉันก็ใช้โอกาสนี้แย่งพื้นที่มาไม่น้อย”
“มีทั้งร้านเหล้า ร้านอินเตอร์เน็ต และก็มีร้านKTVกับไนท์คลับ และยังมีพวกอาหารข้างถนนอะไรพวกนั้น สถานที่เหล่านี้ ล้วนต้องการคนกลุ่มนึงมาดูแล ไม่รู้ว่า แกสนใจรึเปล่า?” พอมองซุนจิ้น หลี่ฝางก็คิ้วกระตุ้น “ฉันขอบอกแกนะ อย่าดูถูกของข้างทางพวกนี้ สิ่งเหล่านี้ ทำกำไรเป็นอย่างมาก”
“ยกตัวอย่างเช่นอาหารข้างถนน ถ้าเกิดพวกเราคุมทั้งแถวอาหารข้างถนน หาคนมาคุม แค่ตามประตูทางเข้าเล็กๆ ก็สามารถทำกำไรได้หลายแสน” หลี่ฝางพูดอธิบาย
ใบหน้าของซุนจิ้น ไม่ได้แสดงความตื่นเต้นแต่อย่างใด
“ตระกูลจูเก่อมีธุรกิจเยอะมาก จนถึงตอนนี้ผมก็ยังปวดหัวอยู่เลย”
ซุนจิ้นพูดอย่างลำบากใจว่า “ผมคนนี้ เดิมทีก็เป็นคนที่ดีแต่ใช้กำลัง ไม่เข้าใจวิธีการบริหารธุรกิจแม้แต่น้อย
“ฮ่าๆ งั้นเอาแบบนี้ไหม ฉันจะแน่นำคนเก่งๆที่สามารถจัดการปัญหาในบริษัทให้ จากนั้น แกก็ต้องช่วยเหลือฉัน เอาคนที่แกพามาวันนี้ ยืนให้ฉันก่อนสักพักนึง แน่นอนว่า ฉันจะจ่ายค่าตอบแทนให้อย่างดี เงินที่หามาได้ พวกเราแบ่งเท่าๆกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง