“หมายความว่าไง?”สีหน้าของหลี่ฝาง เย็นชาขึ้นมาทันที
“แกขู่ฉันงั้นเหรอ?” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาใส่ท่านลู่ พร้อมกับถามไปหนึ่งประโยค
น้ำเสียงของท่านลู่ไม่มีการหวั่นไหว “ฮ่าๆ เสี่ยวฝาง อย่าเพิ่งวู่วาม ถ้าเกิดแกวู่วาม ก็จะเป็นการบอกว่าแกใส่ใจพวกเขา”
“ตอนนี้ หลอซ่าไม่อยู่ สถานตากอากาศแห่งนี้ แกก็คงจะเป็นคนที่มีอำนาจสั่งการถูกไหม?”
ท่านลู่มองหน้าหลี่ฝาง แล้วถามไปหนึ่งประโยค
หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูดว่า “ท่านลู่ แกคิดว่าฉันที่เป็นแค่เด็กน้อย จะสามารถเป็นคนสั่งการได้งั้นเหรอ? พ่อของฉันไม่อยู่ สถานตากอากาศแห่งนี้ แน่นอนคนที่สั่งการต้องเป็นลุงเฉียนอยู่แล้ว”
“แกหมายถึงเจ้ารองเฉียนเหรอ? เขา......สุดท้ายก็เป็นแค่คนนอก เขาก็แค่ค่อยช่วยจัดการปัญหาของหลอซ่าก็เท่านั้นเอง”
ท่านลู่พูดจบด้วยเสียงหัวเราะ ทันใดนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อ “ฉันขอพูดอะไรที่มันไม่น่าฟังหน่อย แกอย่าโกรธล่ะ ถ้าเกิดครั้งนี้พ่อแกไม่สามารถกลับมาได้ งั้นสถานตากอากาศแห่งนี้ แกก็คงจะต้องเป็นคนดูแลต่อ”
“ลูกต้องรับธุรกิจต่อจากพ่อ แกว่างั้นไหม?”
“แกคงจะปล่อยให้คนนอกมารับช่วงสถานตากอากาศไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?” ท่านลู่ถามหลี่ฝาง พร้อมกับยักคิ้ว
ใบหน้าของหลี่ฝาง เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดูแย่ขึ้นมาทันที “พ่อของฉันจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน”
“มันก็ไม่แน่หรอกนะ ทางด้านเขตสามเหลี่ยม ไม่ใช่สถานที่ดีเท่าไหร่ ถ้าเกิดสามารถจัดการได้ง่ายขนาดนั้น ก็คงอยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ความจริง ความหวังที่พ่อแกจะกลับมาได้ มีไม่มาก”
ท่านลู่มองไปยังหลี่ฝาง แล้วพูดขึ้นมาว่า “อีกอย่างน่ะ ลองคิดตอนที่พ่อแกทิ้งแกไปอย่างไร้เยื่อใย ไม่ว่าแกจะเป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ไม่สนไม่ถาม แล้วแกจะสนใจทำไมว่าเขาจะอยู่หรือตาย?”
“เขาเป็นพ่อของฉัน” หลี่ฝางจ้องมองไปที่ท่านลู่ ท่าทางดูโมโหเป็นอย่างมาก
“ฉันรู้ว่าเขาเป็นพ่อของแก แต่พ่อของแก เป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก หรือว่า แกคิดว่าเขาจะรักและเอ็นดูแกจริงงั้นเหรอ? ความจริง เขารักเงินมากกว่า แกลองคิดดูดีๆ สามปีมานี้ ทำไมเขาถึงไม่กลับมาพาแกกลับไปล่ะ? ทำไมถึงต้องให้แกต้องทนทุกข์ยากอยู่คนเดียวตั้งสามปีล่ะ?”
“หรือว่า เขาไม่มีอำนาจที่จะพาแกกลับไปรึไง? ฮ่าๆ ลูกน้องของเขา มีแต่ยอดฝีมือ แถมความสามารถของเขา แกเองก็น่าจะรู้ดี ถ้าเกิดเขาอยากจะกลับมาพาแกไปด้วย มันเป็นเรื่องที่ง่ายราวกับพริบฝ่ามือ แถมสถานที่อย่างดูไบ ก็เป็นสถานที่ที่สะดวกสบาย มีราชาแห่งน้ำมันค่อยหนุนหลัง เขาจะต้องมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย และชีวิตความเป็นอยู่ของแกล่ะ ใช้ชีวิตกันยังไง กินไม่อิ่ม เสื้อที่ใส่ก็ไม่อุ่น ไม่เพียงแค่ถูกเพื่อนในโรงเรียนหัวเราะเยาะ ถูกรังแก แถม แกยังต้องเผชิญกับอันตรายขนาดนั้น แต่ว่า เรื่องพวกนี้ พ่อของแกหลอซ่ากลับทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็น”
“แกคิดจริงๆเหรอว่า เขาปฏิบัติการแกเหมือนเป็นลูกแท้ๆน่ะ?” ท่านลู่หันไปพูดกับหลี่ฝาง
สีหน้าของหลี่ฝางอึ้งไปพักนึง
แม้ว่าท่านลู่ต้องการจะให้แตกคอกันอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ท่านลู่พูดออกมา ก็ใช้ว่าจะไม่มีเหตุผล
ถ้าเกิดในตอนแรก พ่อแม่ของตัวเอง ใช้ชีวิตด้วยการหลบหนี พาตัวเองหนีไปด้วย ก็เป็นแค่ตัวถ่วง
แต่หลังจากที่พวกเขามั่นคงแล้วล่ะ?
พวกเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ละคนต่างก็กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่มีเพียงแค่ตัวเอง ที่ต้องอยู่ในสถานที่ไม่มีอะไรเลยอย่างตงไห่ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
เด็กคนนึงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ พอห่างจากพ่อแม่ จะไปเผชิญกับคนแปลกหน้ายังไง?
ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะหลี่ฝางยอมทิ้งศักดิ์ศรี กลายเป็นเบ้ให้กับเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง ค่อยล้างถุงเท้า ทำการบ้าน ทำงานกลางคืนเพื่อเก็บเงินส่งค่าเทอม ตัวเองคอยหาค่าเทอมของตัวเองแล้วล่ะก็
งั้นตัวเองก็คงจะเดินไปในอีกสายทางนึง นั้นก็คือกลายเป็นแรงงานเด็ก แล้วก้าวเท้าเข้าไปอยู่ในสังคม
ตัวเองบางทีอาจจะเดินไปยังเส้นทางที่ไม่ดี บางทีอาจจะไปเป็นนักเลง บางที อาจจะเป็นขโมยก็ได้ และอาจจะขายผงขาวก็ได้
เอาเป็นว่า ไม่ว่าแบบไหนก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
อีกอย่าง ในสังคม มีอันตรายอยู่รอบตัว ที่สามารถเจอได้ทุกเมื่อ
โชคดีที่หลี่ฝางเลือกที่จะเรียนต่อ แม้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็ไม่เคยเจอกับความอันตรายที่อยู่ในสังคม
“แกพูดถูกแล้ว สามปีมานี้ จริงอยู่ที่ว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อที่ดีอะไร” หลี่ฝางเงยหน้ามองท่านลู่แวบนึง แล้วพูดว่า “แต่ว่า เขาเป็นพ่อของฉัน นี่เป็นความจริง ที่แกมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟัง ก็เพื่อที่จะให้หัวใจของฉันเกิดความแค้นต่อพ่อของตัวเองถูกไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง