“ฟีนิกซ์?”
ผู้หญิงที่ชื่อฟีนิกซ์ยิ้มยั่วยวนออกมา หัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันคิดว่านายจะเหมือนเมื่อก่อน เรียกฉันว่าศิษย์พี่เสียอีก”
“อาจารย์ไม่ได้นับเธอเป็นลูกศิษย์แล้ว”
สายตาของโหจื่อ มีความแค้นเคืองแล่นเข้ามา: “ถ้าจะพูด เธอมันช่างไม่มีจิตใต้สำนึกเลย วิชาที่เธอมีติดตัว ล้วนเป็นวิชาที่อาจารย์สอนออกมาทั้งนั้น แต่สุดท้ายแล้ว กลับเอาวิชานี้มาทำร้ายอาจารย์”
“ทำเรื่องที่น่าอับอายแบบนี้ออกมา ยังใจให้ฉันเรียกเธอว่าศิษย์พี่อีกเหรอ?”
โหจื่อส่ายหัว แล้วพูดขึ้นว่า: “เธอไม่รู้สึกว่าความคิดของเธอมันช่างตลกสิ้นดีเลยเหรอ?”
ฟีนิกซ์ไม่พูดอะไร แต่เดินไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว
“เช็คเงินสด”
ฟีนิกซ์มาถึงตรงหน้าของมู่หรงฉางเฟิง ยื่นเช็คเงินสดออกไป: “ฉันยิงไปหนึ่งนัดก็จริง แต่กระสูนนัดนั้น ยิงไม่ถูกใครเลย”
“ดังนั้น เงินนี้ ฉันควรคืนให้คุณ”
มู่หรงฉางเฟิงหันไปมองฟีนิกซ์ หัวเราะเคอๆ ออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “ช่างมันเหอะ ฉันไม่ขาดเงินหนึ่งล้านเหรียญนั่นหรอก เพราะยังไงนัดนั้นของเธอ ก็มีประสิทธิผลที่ดีมากเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ยิงถูกคน แต่ก็มีคนตกใจไม่ใช่เหรอ?ทำให้พวกเขาสองคนตกใจจนไม่กล้าโผล่หัวออกมา”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันก็ไม่สามารถช่วยคนออกมาได้ ดังนั้น เงินนี้ เธอเก็บไว้เถอะ”
ฟีนิกซ์ส่ายหัว: “ยิงไม่ถูกก็คือยิงไม่ถูก คุณมาขาดเงินหนึ่งล้านเหรียญนี้ ฉันก็ไม่ขาด เช่นเดียวกัน”
“ฉันยิงไม่ถูกคน ยังจะให้เงินฉันอีก ทำทานให้ฉันเหรอ?”
น้ำเสียงของฟีนิกซ์ ไม่พอใจขึ้นมาทันที
มู่หรงฉางเฟิงจึงรีบรับเช็คมา หัวเราะเคอๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “ใครจะไปกล้า ใครจะกล้าดูถูกคุณฟีนิกซ์?เท่ากับรนหาที่ตายไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ว่ายังไง คืนนี้ เป็นเพราะคุณช่วยแท้ๆ” มู่หรงฉางเฟิงพูดขอบคุณออกมา
นอกจากคำขอบคุณแล้ว หลี่ฝางฟังจากน้ำเสียงที่มู่หรงฉางเฟิงพูดออกมานั้น มีความเคารพอยู่ไม่น้อย
ฟีนิกซ์ถึงแม้จะเป็นมือปืนรับจ้าง แต่ฐานะของเธอ เหมือนจากสูงกว่าของมู่หรงฉางเฟิงหนึ่งขั้น
ในวินาทีนั้น หลี่ฝางเริ่มสงสัยขึ้นมา
ฟีนิกซ์เข้าไปพึ่งพาสี่ตระกูลใหญ่ กลายเป็นคนของพวกเขาแล้ว
ดูจากสถานการณ์แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างฟีนิกซ์กับสี่ตระกูลใหญ่ ต้องไม่ง่ายดายอย่างนั้นแน่นอน
ฟีนิกซ์มองไปที่โหจื่อ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “ได้ยินมาว่าฝีมือการยิงปืนของนาย ได้ถึงจุดสุดยอด”
“ใช่”
โหจื่อยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า: “เอาไหมล่ะ พวกเราหาโอกาสมาประลองฝีมือกัน?”
“ได้สิ”
ฟีนิกซ์พยักหน้า: “แต่ว่าถ้าถึงเวลานั้น นายอย่าเหมือนเต่าหดหัวในกระดองก็แล้วกัน”
โหจื่อเหมือนถูกบีบบังคับให้ยอมรับความพ่ายแพ้ พูดอะไรไม่ออก
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฝางเห็นโหจื่อถูกบีบบังคับให้ยอมรับกับความพ่ายแพ้
ฝีมือการยิงปืนของฟีนิกซ์ ถือว่าแม่นยำมาก
หลี่ฝางถึงกับสงสัย ความจริงแล้วเธอไม่ได้ต้องการจะฆ่าเขาหรือโหจื่อ
ถ้าไม่เช่นนั้น เธอคงไม่ยิงแค่นัดเดียวหรอก
“นายเป็นลูกชายของอาจารย์เหรอ?” มองไปที่หลี่ฝาง ฟีนิกซ์มองด้วยสายตาเยอะเย้ยเล็กน้อย
หลี่ฝางรู้ ว่าอาจารย์ในปากของฟีนิกซ์ หมายถึงแม่ของเขานั่นเอง
หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูดขึ้นว่า: “ถูกต้อง”
“แต่ว่า เธอไม่มีสิทธิ์เรียกแม่ฉันว่าอาจารย์อีกต่อไป” หยุดชะงักไปสักครู่ หลี่ฝางพูดเสริมออกมา
“เคอๆ ใช่แล้ว แม่ของนายได้ไล่ฉันออกไปแล้ว เห้อ น่าเสียดาย พ่อแม่ของนายล้วนเป็นคนที่มีความสามารถ แต่นาย กลับดูธรรมดาไม่มีความสามารถอะไรเลย”
“ฉันยังเคยคิดมาก่อน เกิดเป็นลูกชายที่พ่อแม่เป็นคนเก่ง นายอาจจะเป็นลูกศิษย์ที่พวกเขาภาคภูมิใจที่สุด”
ฟีนิกซ์พูดจบ ส่ายหัวเล็กน้อย: “คิดไม่ถึง นายเป็นเหมือนของเสียที่ไม่มีคุณประโยชน์อะไรเลย”
คำพูดของฟีนิกซ์ โหด้ร้ายมาก โหจื่อพูดกับฟีนิกซ์ว่า: “นางบ้า เธออย่าทำตัวให้มันหน้าด้านหน่อยเลย เธอลืมไปแล้วเหรอ ชีวิตของเธอ พ่อแม่ของเสี่ยวฝางเป็นคนให้มา”
“ฉันรู้ ดังนั้น เมื่อกี้ฉันจึงไว้ชีวิตเขา”
“โหจื่อ นายคงจะไม่มีความคิดว่า ถ้าคนที่ฉันจะฆ่า เเล้วนายแค่ลงมือทำอะไร ก็สามารถช่วยชีวิตเขาได้หรอกนะ?”
ฟีนิกซ์หรี่ตาเล็กลงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เมื่อกี้ฉันได้ตอบแทนบุญคุณของอาจารย์กับอาจารย์หญิงแล้ว”
โหจื่อหัวเราะเคอๆ : “ฉันขอแนะนำทางที่ดูที่สุดอย่าคิดทำอะไรเสี่ยวฝาง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะปีกกล้าขาแข็งแล้ว แต่เธอก็น่าจะรู้ดี ระหว่างเธอกับพี่ใหญ่และอาจารย์ มีความแตกต่างกันค่อนข้างเยอะอยู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง