“ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลลู่นี้ ถ้าอยู่ในสมัยโบราณ ก็นับว่าเป็นเจ้าผู้ครองนครรัฐแล้ว” เหอสงพูดว่า “ฉันรู้สึกพอใจมากแล้ว”
“ยศถาบรรดาศักดิ์ ต้องการเมื่อไรก็ได้ ชั่วชีวิตฉัน ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสี่ยงภัยด้วย” เหอสงพูด
โหจื่อส่ายหน้าแล้วพูดว่า “งั้นก็ไม่เสมอไปหรอก ต่อให้แกเก่งกาจแค่ไหน ก็ล้วนเป็นการขายชีวิตตัวเองให้กับคนอื่นทั้งนั้น ส่วนลูกพี่พวกเราไม่เหมือนกัน ลูกพี่พวกเราตั้งตัวได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง ไม่ต้องดูสีหน้าของใครทั้งนั้น”
“อย่างแกนี่ ท่านลู่ไปถึงไหน แกก็ต้องคอยติดตามเขาไปทุกที่” โหจื่อพูดว่า “แกเป็นคนที่ไม่มีความใฝ่ฝันของตัวเองเสียเลย”
เหอสงส่ายหน้า ไม่มีคำอธิบายและคำแก้ตัวใดๆมากไปกว่านี้
“หลังจากที่พวกเราไปแล้ว พวกแกอาจจะสงบได้ไม่กี่วัน แต่ว่าก็ไม่นานนักหรอก” เหอสงพูดว่า “ถึงเวลานั้น สิ่งที่พวกแกชักนำเข้ามานั้น ก็จะเป็นพายุฝนฟ้าคะนองที่แท้จริง
“ตาแก่พวกนั้น ก็จะรู้เป้าหมายของพวกแกได้อย่างรวดเร็ว ถึงเวลานั้นละก็.....”
“แกเป็นห่วงพวกฉัน หรือว่าเป็นห่วงตระกูลลู่กันแน่?” เหอสงยังไม่ทันพูดจบ โหจื่อก็ย้อนถามขึ้นมาทันที
“แน่นอนต้องเป็นห่วงตระกูลลู่อยู่แล้ว” เหอสงพูด
โหจื่อพูดว่า “ท่านลู่นั้น พวกเราจะปกป้องคุ้มครองอย่างดี ส่วนตระกูลลู่นั้น ก็มอบให้แกกับลู่เฟยดูแล จะสามารถยืนหยัดผ่านไปได้หรือไม่ ก็ต้องดูความสามารถของพวกแกแล้ว ตระกูลลู่ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่เพราะเหยียบข้ามศพผู้คนมามากมายทั้งนั้นเหรอ?”
“ถึงแม้สักวันหนึ่งเขาต้องดับสูญไป ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมตามสนองเขาแล้ว”
“พวกเสนาอำมาตย์ใหญ่โต ชีวิตพวกเขามีค่ามากกว่าพวกเราหรืออย่างไร ไม่มีตระกูลไหน สามารถยืนหยัดอยู่ได้ตลอดกาลโดยไม่ล่มสลายไป” โหจื่อพูด
เหอสงกำลังจะพูดอะไรต่อ แต่ว่าประตูห้องลับนั้นก็ถูกเปิดออก ลุงเฉียนมองไปยังเหอสงพยักหน้าแล้วพูดว่า “แกกลับไปได้แล้ว”
หลังจากลู่เฟยและเหอจากไปแล้ว หลี่ฝางมองไปยังลุงเฉียนและโหจื่อ แล้วถามอย่าง ระแวดระวังว่า “ฉันเป็นคนทำให้เกิดปัญหาใหญ่แล้วใช่ไหม?”
“ทำไมฉันรู้สึกว่า ฉันเป็นคนทำลายแผนการของพวกคุณ ทำให้ทั้งหมดวุ่นวายไปหมดเลยล่ะ?” หลี่ฝางพูด
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันให้พวกคุณไปช่วยฉินหยีหรัน พวกคุณก็คงไม่ต้องจับท่านลู่มาไว้ที่สถานตากอากาศ แล้วลู่เฟยกับเหอสงก็คงไม่มาวุ่นวายที่นี่ อีกอย่างเมื่อกี้ฉันได้ยินเหอสงพูดว่า ท่านลู่จะอยู่กับพวกเราที่นี่ไม่นาน แล้วก็จะเกิดปัญหาที่ยุ่งยากกว่าตามมาอีกด้วย”
หลี่ฝางถอนหายใจ “ถ้าเป็นเช่นนี้จริง เรื่องนี้ก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้น ถือว่าฉันเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมาหรือเปล่า?”
“ฟ้าลิขิตแล้วให้พวกเราต้องเจอวิบากกรรมครั้งนี้ โทษคุณไม่ได้หรอก” ลุงเฉียนพูดปลอบใจหลี่ฝาง
จากนั้น ลุงเฉียนก็พูดกับโหจื่อว่า “ส่งเสี่ยวฝางกลับไปด้วย”
“ให้เสี่ยวฝางไปจากสถานตากอากาศเหรอ?” โหจื่อขมวดแล้วพูดว่า “ถ้าเกิดพวกนั้นลงมือกับคุณชายน้อยล่ะแล้วจะทำยังไง?”
“ฮ่าๆๆ ถ้าพวกเขาอยากจะลงมือกับเสี่ยวฝางละก็ ภายใน3ปีนี้ มีโอกาสมากถมไป” ลุงเฉียนพูดว่า “ให้เสี่ยวฝางไปอยู่ข้างนอก สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจชั่วคราวได้”
“คนรอบข้างของเสี่ยวฝาง ก็มีคนคอยจดจ้องอยู่ตลอดเวลา ถ้าเขายังไม่ปรากฏตัวออกมาสู่สายตาฝ่ายตรงข้ามแล้ว ก็ยิ่งจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามสงสัยมากขึ้น” ลุงเฉียนพูด
โหจื่อพยักหน้าแล้วพูดว่า “งั้นฉันเข้าใจล่ะ”
“ใช่ล่ะ ช่วงเวลานี้ ก็อย่าไปยุ่งกับฟีนิกซ์ก็แล้วกัน” ลุงเฉียนพูดกำชับโหจื่อว่า “เรื่องกวาดล้างทำความสะอาดบ้านแบบนี้ ไม่ต้องรอให้แกลงมือหรอก”
โหจื่อทำเบ้ปาก ไม่รู้เหมือนกันว่าฟังเข้าหูหรือไม่
ผ่านไปไม่นานนัก หลี่ฝางก็ถูกส่งตัวออกไปจากสถานตากอากาศ
หลี่ฝางไม่ได้กลับมหาวิทยาลัย แต่ไปโรงพยาบาล
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง
ที่นี่เป็นห้องผู้ป่วยส่วนตัว มีชายหนุ่มคนหนึ่งพักอยู่ข้างใน
หลี่ฝางเดินเข้าไป นั่งอยู่ตรงหน้าของเขา หยิบบุหรี่มา 1 มวน แล้วส่งให้เขา “สูบสักมวนไหมล่ะ?”
หลี่ฝางหยิบบุหรี่มวนหนึ่งเข้าไปยังปากของชายหนุ่มคนนี้ และจุดไฟให้ด้วย “ฉันจำได้ตอนนั้นไปโรงเรียน ฉันมักจะให้บุหรี่ไฟฟ้าแกบ่อยเลย”
“ครั้งละห้าสิบเซนต์เอง” จางเสี่ยวเฟิงหัวเราะขึ้นมา
“ทำไมถึงไว้ชีวิตฉันล่ะ?”
หลังจากที่จางเสี่ยวเฟิงสูบบุหรี่เข้าไปอย่างแรงแล้ว จากนั้นก็พูดกับหลี่ฝางว่า “ถ้าฉันเป็นแก จะไม่ปล่อยให้คนที่คิดจะฆ่าตัวเองรอดไปได้หรอก”
“ในความทรงจำของฉัน แกก็เป็นคนช่างเจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกัน” จางเสี่ยวเฟิงพูดพลางมองหน้าหลี่ฝาง
หลี่ฝางส่งเสียงหัวเราะแล้วพูดว่า “ฆ่าแกเหรอ? มีประโยชน์อะไรล่ะ แกก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือของคนอื่นเท่านั้นเอง ต่อให้ฆ่าแกแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? จะเอาตัวบงการสำคัญออกมาได้ไหม?”
“งั้นที่แกมาหาฉัน จะมาทำอะไรล่ะ?” จางเสี่ยวเฟิงถามยังไม่เข้าใจ “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นจริงๆ”
“ใช่สิ แกไม่รู้แน่นอนว่า ฝ่ายนั้นจะตื้นลึกหนาบางยิ่งใหญ่ขนาดไหน”
หลี่ฝางพูดว่า “แกไม่รู้อะไรสักอย่างเลย แต่กลับขายชีวิตให้เขา จางเสี่ยวเฟิง แกไม่รู้สึกว่าตัวเองน่าขำไปหน่อยเหรอ?”
“ตั้งหลายร้อยล้านเลยนะ มีอะไรน่าขำล่ะ ต่อให้มีหลุมหรางใหญ่โตอยู่ตรงหน้าแก แต่ถ้าหากหลุมพรางตรงหน้านั้นเต็มไปด้วยเงินหลายร้อยล้านอยู่ภายใน ในสายตาของแก ก็ต้องจ้องไปยังเงินหลายร้อยล้านนั่น และมองข้ามหลุมพรางนั้นไป” จางเสี่ยวเฟิงพูด
“เป็นใครก็ต้องกระโจนเข้าไปทั้งนั้นแหละ”
“แกลืมไปแล้วเหรอว่า ตัวฉันเองก็เป็นเศรษฐีร้อยล้านเหมือนกัน”
หลี่ฝางส่ายหน้าแล้วยิ้ม “ไนต์คลับของฉัน ก็มีราคาถึงสองพันกว่าล้านแล้ว นอกจากไนต์คลับแล้ว ฉันก็ยังมีทรัพย์สินอีกมากมายมหาศาล”
จางเสี่ยวเฟิงสะอึกจนพูดอะไรไม่ออก
หลี่ฝางก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “อย่างน้อยก็เคยเป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกัน คราวนี้ฉันก็จะปล่อยแกไป”
“แกจะปล่อยฉันไปจริงเหรอ?” จางเสี่ยวเฟิงมองหน้าหลี่ฝางอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างน้อยที่สุด เขาก็เกือบฆ่าหลี่ฝางตายไปแล้ว
หลี่ฝางยิ้มแล้วพูดว่า “แท้จริงแล้ว ชะตาชีวิตแกกับตู้เฟย ก็คล้ายคลึงกันมาก เพียงแต่ว่า โชคชะตาของตู้เฟยตอนแรกดีกว่าแกหน่อย ส่วนแกนั้นเหรอ จุดสุดท้ายของชีวิต กลับดีกว่าเขาหน่อย อย่างน้อยที่สุด ฉันก็ปล่อยแกไป แต่กลับไม่ได้ปล่อยเขาไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง