สาวหน้าพิมพ์นิยมที่อยู่ด้านข้างเมื่อได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าอย่างดีใจขึ้นมาทันที: “ดีสิ ดีสิ ขอบคุณจริง ๆ นะคุณชายหลี่!”
ณ ตอนนี้ สาวหน้าพิมพ์นิยมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า หยิ่นเหล่ยบ่อเงินบ่อทองของตัวเองนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ฝาง ไม่คู่ควแก่การพูดถึงเลยสักนิด
และยิ่งฟังไม่ออกว่า ที่หลี่ฝางพูดนั้นมีความหมายในทางกลับกัน
เธอยังคงคิดว่า หลี่ฝางได้เห็นแก่หน้าหยิ่นเหล่ยจริง ๆ จะเอาชุดที่เหยนเสี่ยวน่าสวมอยู่ มาให้เธอ
“เสี่ยวน่า ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าใส่ งั้นเธอก็ถอดออกมาให้หล่อนเถอะ” หลี่ฝางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก รอยยิ้มค่อย ๆ แข็งทื่อลงมา
“คุณชายหลี่คะ ขอบคุณที่เห็นแก่หน้าที่รักของฉันนะคะ เอาอย่างนี้ดีไหม เดี๋ยววันนี้พวกเราเป็นเจ้ามือ เชิญพวกคุณทานอาหารว่าง?” สาวหน้าพิมพ์นิยมทำท่าที่ต้องการคบค้าสมาคมด้วย จ้องมองหลี่ฝาง
ส่วนสีหน้าของหยิ่นเหล่ย ณ ตอนนี้ ยิ่งหม่นหมองขึ้นกว่าเดิม เขาหันหน้า มองไปที่สาวหน้าพิมพ์นิยม: “นังสารเลวนี่ ฉันไว้หน้าเธอมากไปใช่ไหม?”
เสี่ยงเพี๊ยะดังขึ้นหนึ่งครั้ง ฝ่ามือของหยิ่นเหล่ย ตบเข้าที่หน้าของสาวหน้าพิมพ์นิยมเต็ม ๆ
ชั่ววินาทีนั้นเอง สาวหน้าพิมพ์นิยมถูกตบจนถึงกับงง
จากนั้น ฝ่ามือของหยิ่นเหล่ยก็ตบลงไปบนหน้าของสาวหน้าพิมพ์นิยมอีกครั้ง: “เธอเป็นตัวอะไร กระโปรงที่เกรดสูงแบบนี้ อย่างเธอมีค่าพอที่จะใส่เหรอ?”
หลี่ฝางเห็นแกหน้าหยิ่นเหล่ย แล้วหยิ่นเหล่ยกล้ารับเอาไว้ไหม?
ชัดเจนว่าไม่กล้า
หยิ่นเหล่ยหันน้ากลับมา แล้วเอ่ยกับหลี่ฝาง: “คุณชายหลี่ ต้องขอโทษด้วยจริงนะครับ นังสารเลวนี่ไม่รู้ความ ผมจะต้องสั่งสอนเธอให้หนักอย่างแน่นอน”
“ของแบบนี้นายก็ยังกินลง หยิ่นเหล่ย รสนิยมของนาย มันช่างแย่จริง ๆ เลย”
หลี่ฝางส่ายหน้า: “นายว่านายเอาผู้หญิงแบบนี้มาไว้ข้างกาย ต่อไป พวกเราจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไง ตอนที่นายยังไม่เข้ามา หล่อนเหน็บแนมเยาะเย้ยฉันไปยกใหญ่เลยล่ะ”
“คุณชายหลี่ ผมตาบอดไป หลังจากนี้ถ้าผมจะหาผู้หญิงอีก จะต้องเช็ดดวงตาให้สว่างก่อนอย่างแน่นอน” ในขณะที่พูด หยิ่นเหล่ยก็ถลึงตาใส่สาวหน้าพิมพ์นิยมอย่างหนั้น
“ช่างเหอะ ฉันไม่สนใจกับนายแล้ว” หลี่ฝางกล่าวจบ ก็มองไปที่เสี่ยวถง: “เสื้อผ้าห่อเสร็จเรียบร้อยหรือยัง?”
“ใกล้แล้วค่ะ”
เสี่ยวถงจัดเสื้อผ้าใส่ถุงไป พลางเอ่ยถามหลี่ฝาง: “คุณชายหลี่คะ เสื้อผ้าเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวดิฉันหาคนมาช่วยยกลงไปให้คุณดีไหมคะ?”
“หรือไม่ก็บอกกับดิฉันว่าคุณพักอยู่ที่ไหน เดี๋ยวดิฉันให้คนเอาไปส่ง”
เสี่ยวถงกล่าวอย่างรู้ความ
หลี่ฝางส่ายหน้า กล่าว: “ไม่ต้องหรอก เสื้อผ้าไม่กี่ตัวเอง พวกเราถือลงไปเองก็ได้”
ในขณะที่เสี่ยวถงยื่นเสื้อผ้าให้คุณชายหลี่ หยิ่นเหล่ยก็รีบรับมาทันที: “คุณชายหลี่ครับ ตอนนี้ไม่มีธุระอะไรพอดี เดี๋ยวผมช่วยถือให้นะครับ และถือโอกาสพาคุณเดินดูสักหน่อย ถ้าต้องการซื้ออะไรอีก ผมจะไม่คิดเงินคุณสักบาทเลย”
“มีผมไปกับคุณ รับรองได้ว่าจะไม่มีใครกล้ามาทำให้คุณรู้สึกอึดอัดอีก” หยิ่นเหล่ยหัวเราะแหะๆ
เสี่ยวถงกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ คุณชายผู้สูงส่งอย่างหยิ่นเหล่ย เสนอตัวเป็นคนถือกระเป๋าให้คนอื่น?
ทั้งยังเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน
เสี่ยวถงอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา ที่มาของหลี่ฝาง แท้จริงแล้วยิ่งใหญ่เพียงใด?
สาวหน้าพิมพ์นิยมและหยู่ชิง ณ เวลานี้เสียใจและเสียดายสุดๆ
เพียงเพราะดูถูกเยาะเย้ยหลี่ฝางไม่กี่คำ ชาตินี้ของพวกเธอ นับว่าพังแล้ว
อย่างน้อยอยู่ที่อำเภอหลินแห่งนี้ พวกเธอได้เสียโอกาสเข้าประจบพวกมีอิทธิพลไปโดยสิ้นเชิง
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอยังเป็นกังวล ว่าหลังจากเรื่องนี้แล้ว หลี่ฝางจะแก้แค้นพวกเธอต่อไปหรือไม่?
เพราะว่าพวกคุณชายผู้ดีส่วนมาก ความต้องการในการแก้แค้นนั้นสูงมาก ก่อนหน้านี้ในแวดวงสังคมของพวกเธอ มีผู้หญิงคนหนึ่งทำให้คุณชายผู้ดีคนหนึ่งโกรธ ถูกคุณชายผู้ดีพาไปที่KTV และถูกซ้อมจนแทบไม่มีชีวิตรอด
ใบหน้าบวมปูด ถูกซ้อมจนฝันร่วงหมดปาก
จากสาวสวยหน้าตาดีคนหนึ่ง กลายเป็นหญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์ไปในชั่วพริบตา
หลังจากที่หลี่ฝางออกมาจากห้างสรรพสินค้า เขามองไปที่หยิ่นเหล่ย แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา: “เหอะ ๆ หยิ่นเหล่ย ฉันล่ะนับถือนายจริง ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ฉันซ้อมนายจนใช้งานไม่ได้ นายไม่เพียงปล่อยวางความแค้นระหว่างเราสองคนลงได้ แถมยังมาเอาอกเอาใจฉันอีก”
การควบคุมอารมณ์ของหยิ่นเหล่ย ณ เวลานี้ทำให้หลี่ฝางรู้สึกนับถือขึ้นมาเล็กน้อย
แน่นอน ในขณะที่นับถือ หลี่ฝางก็รู้สึกกลัวบ้างอยู่เหมือนกัน
เพราะว่าคนคนหนึ่งยิ่งมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์มากเท่าไหร่ ในอนาคตถ้ามีโอกาสแก้แค้นเมื่อไหร่ ก้จะยิ่งโหดเหี้ยมอำมหิต
หยิ่นเหล่ยยิ้ม แล้วกล่าว: “ถ้าหากตระกูลหยิ่นต้องการเจริญก้าวหน้า ต่อไปยังต้องพึ่งพาตระกูลหลี่อีกเยอะเลย”
“ผมยังหวังว่าในอนาคตถ้าคุณชายหลี่มีธุรกิจทำเงินอะไร อย่าลืมบอกผมด้วยสักคำ” หยิ่นเหล่ยหัวเราะแหะ ๆ
หลี่ฝางพยักหน้า กล่าว: “มีสิ เยอะเลยแหละ หรือว่าพวกเราจะร่วมมือกันตอนนี้เลยดีไหม?”
“ทั้งหมดล้วนเป็นโปรเจกมูลค่านับพันล้าน ทั้งยังทำง่ายอีกด้วย หรือไม่งั้น ฉันเอาพวกมันให้นายหมดเลย?” หลี่ฝางเลิกคิ้วถาม
หยิ่นเหล่ยแววตาเปล่งปประกายขึ้นมา จ้องมองหลี่ฝางแล้วถาม: “คุณชายหลี่ งั้นคุณรีบพูดมา ธุรกิจอะไรถึงได้หาเงินง่ายขนาดนั้น?”
“ผิดกฎหมายนิดหน่อยนะ” หลี่ฝางกล่าว
“เหอะ ๆ สมัยนี้ ขอเพียงแค่ได้เงินก็พอ คุณดุแมงป่องสิ หลายปีมานี้เขาหาเงินได้ไม่น้อยเลย ผมแค่อยากจะถามว่า ความเสี่ยงสูงไหม? ถ้าหากไม่สูง ผมจะลองดูก็ได้” หยิ่นเหล่ยกล่าว
ถึงแม้หยิ่นเหล่ยจะเป็นคุณชายใหญ่ของบริษัท แต่เงินในมือที่สามารถนำมาใช้ได้ กลับน้อยมาก
หลี่ฝางพยักหน้า กล่าว: “จริง ๆ แล้วความเสี่ยงก็ไม่นับว่าสูง นายไปหาคนมาทำก็ได้นี่ ใช่ไหม?”
“ถ้างั้นคุณชายหลี่ พวกเราหาสถานที่สักที่ คุยกันดี ๆ ดีไหมครับ?” บนใบหน้าของหยิ่นเหล่ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
หลี่ฝางส่ายหน้า กล่าว: “ไม่ต้องหรอก คุยอยู่ที่นี่ก็ได้แล้ว แต่คำพูดไม่กี่ประโยคเอง”
“ทั้งหมดเป็นงานมูลค่าสี่พันล้าน อย่างที่หนึ่ง แมงป่อง ขอเพียงแค่นายสามารถจัดการเขาได้ ฉันให้นายหนึ่งพันล้าน อีกสามอย่าง แบ่งเป็นมู่เสี่ยวไป๋ มู่หรงฉางเฟิง และยังมีซือถูเฟย ทั้งสามคนนี้ หัวของแต่ละคน มูลค่าหนึ่งพันล้าน นายลองดู ว่านายสามารถจัดการใครได้บ้าง แล้วนายบอกฉันสักคำ ฉันจะโอนเงินมัดจำให้นายก่อน” หลี่ฝางกล่าวพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง