ในห้องใต้ดิน นอกจากทองคำแล้ว ยังมีเหล้าดีอีกลายขวด มีบางขวดที่ไม่สามารถนำออกที่โล่งได้
“ของพวกนี้ ทำลายทิ้งเถอะ” หลังจากหลี่ฝางเห็น ก็พูดขึ้น: “ถ้าหากมันตกไปอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี ต้องทำให้ครอบครัวแตกแยกแน่”
โหจื่อพยักหน้า ต่อหน้าหลี่ฝาง ก็ฉี่รดไปที่สิ่งของพวกนั้น
“ฮี่ฮี่”
บนหน้าของโหจื่อยังคงซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่มิด: “ทองคำพวกนี้ น่าจะขายได้ประมาณสี่ห้าพันล้าน”
หลี่ฝางช็อก: “มากขนาดนั้นเลย?”
ถึงแม้ภายใต้ชื่อของหลี่ฝาง จะมีทรัพย์สินอยู่สี่ห้าพันล้าน แต่นั่นก็มีแต่อุตสาหกรรม
ส่วนทองคำนี้ก็ไม่เหมือนกันแล้ว นี่มันเท่ากับเงินสดชัดๆ เลย
หลังจากทองคำถูกขนออกไป โหจื่อก็เปิดไวน์แดงสองขวด ยื่นให้หลี่ฝางคนละขวด แล้วฉลองกัน
ไฟไหม้ลุกโชนอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดก็ดับลง
หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ที่จริงแล้ว เงินที่ลูกพี่หลินหามาได้ ทั้งชีวิตนี้ก็ใช้ไม่หมดแล้ว ทำไมเขายังไม่ยอมปล่อยมือนะ?”
“คุณชาย เรื่องนี้นายไม่เข้าใจแล้วสินะ? ทรัพย์สินของนาย มันมีมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นจึงไม่ค่อยเห็นค่ามัน แต่ลูกพี่หลินไม่ใช่แบบนั้น ทั้งหมดของเขา หามาทีละก้าวๆ ช่วงนี้ ไม่รู้ว่าเขาเจอประสบการณ์เฉียดตายมากี่ครั้ง ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ง่ายเลย เพื่อที่จะทำให้เป้าหมายของตัวเองสำเร็จ จึงทำให้ตนกลายเป็นคนพิการไป”
“เขาเป็นคนใจเด็ด เขาตั้งเป้าหมายของตนเองไว้ใหญ่มาก เขาไม่รู้จักพอหรอก ความฝันของเขา คงจะเหมือนกับองค์กรที่อยู่เบื้องหลังป๋ายหม่า จัดตั้งองค์กรข้ามชาติ คนแบบนี้ เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์มีชะตากรรมเดียวเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ นั่นก็คือการถูกยิงเป้าประหาร”
โหจื่อพูด: “พูดอย่างง่ายๆ ความโลภมักจะเป็นภัยต่อตัวเอง”
หลี่ฝางมองโหจื่อ แล้วถาม: “งั้นพ่อของฉันเป็นคนแบบนี้มั้ย?”
“ลูกพี่ใหญ่แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น ลูกพี่ใหญ่ไม่สนใจเงิน มากกว่าเงินตรา ลูกพี่ใหญ่สนใจความสัมพันธ์มากกว่า”
“พวกแมงป่อง มู่เสี่ยวไป๋ ท่านจวน ลูกพี่หลินคนพวกนี้ คนใต้บัญชาของพวกเขา ในบัตรมีเงินอยู่เท่าไหร่? ส่วนคนพวกนั้นในบัตร มีเงินอยู่เท่าไหร่? พวกเข้าล้วนใจดำ ในบัตรพวกเขามีเงินอยู่เป็นร้อยล้าน ลูกน้องข้างกายของเขา อาจจะมีอยู่แค่ไม่กี่ล้าน แต่ว่าพวกเราไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฉัน แล้วก็ลุงเฉียน ล้วนมีเงินกันหมด ทุกครั้งที่หาเงินได้ ลูกพี่ใหญ่ก็จะแบ่งให้ตามงานที่ทำ ไม่เคยหุบไว้เองมากกว่าเลย”
“ส่วนเงินที่กลับประเทศมาลงทุน ก็เป็นเงินที่ตาเฒ่าที่ต่างประเทศมอบให้ลูกพี่ใหญ่ แบบนี้ลูกพี่ใหญ่ยังไม่เอาเลย แต่ตาเฒ่าพูดแล้ว ถือว่าเขาลงทุนแล้วกัน” โหจื่อยิ้มนิ่งๆ : “ลูกพี่ใหญ่ ก็เซ่ออยู่นะ”
“เซ่อ? เพราะว่าไม่เห็นเงินสำคัญเหรอ?” หลี่ฝางถามกลับอย่างไม่แฮปปี้
ในตอนนั้น หลี่ฝางได้ยินโหจื่อบอกว่าพ่อของตนเซ่อ ก็รู้สึกไม่แฮปปี้มาก
โหจื่อส่ายหน้า แล้วพูด: “ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ยังมีเรื่องท่านจวนคนนั้น ที่จริง นายคิดดูดีๆ ท่านจวนคนนั้น มีค่าพอที่จะต้องไปสานสัมพันธ์ด้วยจริงๆ เหรอ?”
“ตอนแรก ท่านจวนเป็นคนนำ ลูกพี่ใหญ่เป็นแค่คนลงมือ ถึงแม้ชื่อเสียงจะค่อยๆ นำหน้าท่านจวนขึ้นไป แต่ว่า ลูกพี่ใหญ่ก็ยังเรียกท่านจวนว่าลูกพี่มาตลอด ไม่เคยคิดที่จะข้ามหัวเลย ลูกพี่ใหญ่เป็นคนซื่อสัตย์คนนึง แต่ว่า เมื่อเกิดเรื่อง ท่านจวนก็ปัดเรื่องไปที่ลูกพี่ใหญ่ ไม่ถามไถ่ ตัวเองก็ขึ้นไปหลบพักผ่อนเข้ากลีบเมฆไป ราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาทั้งสิ้น”
“ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเขาถอยหนี พวกเราจะแพ้หมดรูปแบบนั้นได้ยังไง”
โหจื่อพูดอย่างโมโหเล็กน้อย: “การจากไปของท่านจวน ทำเราอย่างกับเป็นเด็กไร้บ้าน เปรียบแบบนี้ ไม่ได้มากไปเลยจริงๆ”
“ในวันนี้ หลังจากที่เห็นลูกพี่ใหญ่กลับประเทศมาลงทุนหลายหมื่นล้าน ท่านจวนนั่นก็รีบเสนอหน้ามาทันที มาคุยเรื่องความร่วมมือกับพวกเรา นายว่า ไอ้สารเลวนี่ คู่ควรมั้ย? แต่ลูกพี่ใหญ่ก็ยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ยอมตกลงไป”
“ครั้งที่แล้วศึกด่านนอกบ้านพักตากอากาศ ท่านจวนก็ลงแรงน้อยนิดแต่ได้ไปมาก เอาที่ของเมืองเอกครึ่งนึง แย่งไปทั้งหมดเลย เหอะๆ เอาเปรียบพวกเราก็ช่างเถอะ แต่ว่า ยังหาเรื่องในที่ของเรา ไม่ใช่แค่ดูอยู่นิ่งๆ แถมยังซ้ำกันอีก”
โหจื่อพูดอย่างโมโหเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง