พอได้ยินเสียงที่พร้อมเพรียงของพวกเขา ตอนนี้จางกงหมิงก็ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด
ยังไงซะ จางกงหมิงก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว เพื่อที่จะช่วยหลี่ฝางเขาไม่มีทาง เอาชีวิตของเพื่อนพ้องตัวเองไปเสี่ยงด้วย ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็ไม่คงไม่เหมาะสม
และหลี่ฝางในตอนนี้ ก็ซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจ
หลี่ฝางมองพวกเขาด้วยใบหน้าที่ซาบซึ้ง แล้วพูดว่า “ขอบคุณเหล่าพี่ๆ แต่ว่าไม่เป็นไร ขอแกพวกคุณช่วยเหลือโหจื่อก็พอแล้ว”
พอหลี่ฝางพูดจบ ก็มองมู่เสี่ยวไป๋ด้วยความดูถูก แล้วพูดว่า “ฉันไม่เชื่อว่า พวกแกจะกล้าฆ่าฉัน”
“ได้ยินรึยัง? อย่าคิดที่จะยุ่งเรื่องของคนอื่นเลย คนเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกแกด้วยซ้ำ” มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะด้วยเสียงที่เย็นชา
ส่วนจางกงหมิงก็ไม่ได้คิดจะพูดให้มากความ สไลด์ไกปืนทันที ชี้ไปยังมู่เสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “ฉันถามแกแค่คำเดียว แกจะปล่อยคน หรือไม่ปล่อย?”
“จางกงหมิง แกอยากจะหาที่ตายจริงๆใช่ไหม?” สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋เต็มไปด้วยความเย็นชา “อาของแกตายไปแล้ว ถ้าเกิดตอนนี้แกมีเรื่องกับสี่ตระกูลใหญ่ ไม่มีใครสามารถปกป้องแกได้ด้วยซ้ำ”
“ให้เวลาสามวิ ถ้าเกิดแกไม่ยอมตอบคำถามของฉัน ฉันจะยิงปู่ของแกในทันที” จางกงหมิงพูดด้วยความเยือกเย็น
หลังจากที่จางกงหมิงพูดจบ ก็หันไปพูดกับนายท่านมู่ว่า “เห็นรึยัง? นายท่านมู่ นี่ก็คือหลานของคุณ คุณเอ็นดูหลานคนนี้มาหลายสิบปี ตอนนี้ชีวิตของคุณตกอยู่ในอันตราย แต่เขากลับไม่สนความเป็นความตายของคุณแม้แต่น้อย”
อย่างที่คิดไว้ หลังจากที่จางกงหมิงพูดจบ ใบหน้าของนายท่านมู่ ก็เผยความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน
แต่ว่า เวลานี้นายท่านมู่ กลับไม่ยอมเผยความไม่พอใจของตัวเองออกมา ยังไงซะ ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย มันก็คืออยู่กับการตัดสินใจของมู่เสี่ยวไป๋
มู่เสี่ยวไป๋เม้มปาก มองไปยังจางกงหมิง “แกกล้าเหรอ!”
“หรือแกไม่กลัวว่าฉันจะยิงยิงจื่อทิ้ง?” มู่เสี่ยวไป๋พูดด้วยเสียงที่เย็นชา “ฉันรู้ดี ยิงจื่อเป็นผู้หญิงที่แกรักที่สุด เพื่อเธอแกเกือบจะ ร้องตะโกนจนคอแทบแตก”
มู่เสี่ยวเพิ่งพูดจบประโยค จางกงหมิงก็ยิงไปที่แขนของนายท่านมู่ ทำให้แขนของเขา มีรูเพิ่มขึ้นมา
ปากของนายท่านมู่ ได้ร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด สีหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ร้อนรนขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
หลังจากที่สิ้นเสียงร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวดของนายท่านมู่ ก็จ้องมองมู่เสี่ยวไป๋ด้วยความดุร้าย “ไอ้เด็กอกตัญญู รึแกอยากให้ฉันตายไปจริงๆ แกจะได้ยึดทรัพย์สมบัติของตระกูลมู่ใช่ไหม?”
“คุณปู่!”
มู่เสี่ยวไป๋สับสนเป็นอย่างมาก แถมยังกลัวอีกด้วย
ความเป็นจริง มู่เสี่ยวไป๋เป็นคนที่ใส่ใจครอบครัวของตัวเองเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาจะเป็นคนโลภ แต่ว่า เขาก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายครอบครัวของตัวเอง
เขาไม่ใช่คนที่ทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ก็เหมือนตอนนั้นที่มู่เหวินตงได้รับตำแหน่งให้สืบทอดเป็นเจ้าบ้านคนต่อไป ส่วนมู่เสี่ยวไป๋กลับไม่คิดที่จะเคียดแค้นแม้แต่น้อย
เพราะงั้นมู่เสี่ยวไป๋ในตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนี้เพื่อให้ได้อำนาจของตระกูลอยู่บนมือตัวเอง แล้วให้จางกงหมิงยิงปู่ของตัวเองทิ้ง และยังมีพ่อแม่ของตัวเองอีก
เพียงแต่ว่า มู่เสี่ยวไป๋ไม่คิดว่าจางกงหมิงจะกล้าเหนี่ยวไกหรอก ยังไงซะไพ่ที่อยู่บนมือของเขา ก็ไม่ใช่น้อยๆ
และดูเหมือนว่า มู่เสี่ยวไป๋จะคิดผิดไปสักแล้ว จางกงหมิงกล้าเหนี่ยวไกปืนจริงๆด้วย
จางกงหมิงพูดต่อ “ทำไม ยังตัดสินใจไม่ได้อีกเหรอ? อยากให้ฉันเหนี่ยวไกต่อใช่ไหม?”
พอจางกงหมิงพูดจบ มู่เสี่ยวไป๋ก็รีบยกมือขึ้นมาห้าม แล้วพูดว่า “ฉันตกลง ฉันตกลงแกก็พอแล้วใช่ไหม”
“ฉันไม่เพียงแค่ปล่อยยิงจื่อ และยังจะปล่อยหลี่ฝาง แล้วก็โหจื่ออีกด้วย แต่แกต้องสัญญามาก่อน ว่าอย่าทำร้ายคนในครอบครัวฉันอีก”
หลังจากที่มู่เสี่ยวไป๋พูดจบ ก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรออกไป “พาผู้หญิงคนนั้นมาที่ถนนหมิงจู รีบหน่อย ถ้าเกิดภายในสิบนาทีฉันยังไม่เห็นพวกแก พวกแกก็เตรียมตัวตายได้เลย”
เวาลานี้ ดูเหมือนว่ามู่เสี่ยวไป๋จะถูกกำจุดอ่อนได้สักหน่อย
หลี่ฝางพอเห็นท่าทางที่ร้อนรนของมู่เสี่ยวไป๋ ทำให้รู้จุดอ่อนของมู่เสี่ยวไป๋
บางทีถ้าเกิดเป็นพวกมู่หรงฉางเฟิง เวลานี้คงจะเลือกที่จะใช้กำลังกับจางกงหมิง แต่มู่เสี่ยวไป๋นั่นไม่เหมือนกัน
มู่เสี่ยวไป๋ให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว มากยิ่งกว่า
นั่นสินะ ตอนนั้นเพื่อหลินชิงชิง มู่เสี่ยวไป๋ก็ทำเรื่องโง่ๆไปไม่น้อย คนแบบนี้ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญของคนในครอบครัว
เวลาค่อยๆผ่านไป และในเวลานี้ ชายชุดดำสี่คน ตอนนี้ก็ปรากฏตัวออกมาอยู่ตรงหน้าของหลี่ฝางแล้ว
มู่เสี่ยวไปไป๋ทำหน้าตึงเครียด เขาเคยได้ยินความน่ากลัวของชายชุดดำมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะงั้นจึงไม่กล้าทำอะไรวู่วาบ หลังจากที่รอการมาถึงของยิงจื่อ มู๋เสี่ยวไป๋ก็หันไปพูดกับจางกงหมิงว่า “ตอนนี้คงได้เวลาที่แกจะปล่อยคนแล้วมั้ง”
จางกงหมิงพยักหน้า แล้วพูดว่า “ได้ ฉันจะปล่อยปู่แกไปก่อน จากนั้น แกก็ปล่อยตัวยิงจื่อมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง