โคมไฟประดับส่องแสงสว่างกลางเมืองในยามค่ำคืน
เย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ริมถนนเส้นใหญ่ บุรุษรูปงามและสตรีผู้มีลักษณะโดดเด่น สำหรับคนภายนอกที่มองมา พวกเขาดูเหมือนคู่กิ่งทองใบหยก
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลูบผมบนหน้าผากของเธอให้เรียบ มองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เปียกชื้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “เพื่อนนักศึกษา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายเลย”
“ผมชื่อเย่ซิว”
แสงในดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สว่างวาบขึ้นอีกเล็กน้อย “ขอบใจสำหรับเรื่องวันนี้มากนะเพื่อนนักศึกษาเย่ ถ้าไม่มีนาย ทั้งชีวิตของฉันคงพังไปแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก จริง ๆ แล้วผมเองก็มีจุดประสงค์ที่ช่วยคุณ” เย่ซิวบอกความจริง
“หา?”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อุทาน ความคิดของเธอแตกกระจายออกไป
นึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เย่ซิวชวนเธอไปกินข้าว หรือว่าเพราะเขาชอบเธอ เลยทำตัวเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้วจากนั้นก็จะขอเธอเป็นแฟน?
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แอบมองเย่ซิว แล้วจึงรีบเบือนหน้าหนี
ใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อย
หัวใจของเธอสับสน ‘ทำยังไงดี? เขาเพิ่งช่วยฉันไว้ ดูเหมือนจะค่อยไม่ดีนักถ้าฉันไม่ตกลงเป็นแฟนของเขา อีกทั้งเพื่อนนักศึกษาเย่ก็ดูหล่อและนิสัยดีมาก…’
ขณะที่เธอกำลังสับสนเป็นอย่างมาก เย่ซิวก็พูดขึ้น
“ผมขอดูร่างกายของคุณหน่อยได้ไหม?”
ทันใดนั้น ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็หน้าแดงพลางพูดตะกุกตะกัก “เพื่อนนักศึกษาเย่...พวกเราก็เพิ่งจะได้รู้จักกัน... แม้ว่า...นายจะช่วยฉันไว้ แต่ว่า...มันคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่…”
เย่ซิวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คิดได้ว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์คงเข้าใจเขาผิด เขาจึงรีบอธิบาย “คุณเข้าใจผิดแล้ว ตอนที่ผมตรวจชีพจรให้คุณ รู้สึกว่าชีพจรของคุณแปลก ๆ ผมเลยอยากจะใช้พลังสัมผัสกระดูกดูสักหน่อย”
ในตอนท้ายเขาอธิบายอีกว่า “สำหรับพวกเราที่กำลังเรียนแพทย์นั้น โรคทุกชนิดที่ยากต่อการรักษาและมีความซับซ้อนคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุด”
อันที่จริงเขาเพียงแค่อยากรู้ว่าไข่มุกราชาแห่งยาอยู่ที่ใดก็เท่านั้น
ก่อนหน้านี้เขาก็ใกล้ชิดกับลู่เสวี่ยเอ๋อร์เหมือนอย่างตอนนี้ แต่เขากลับไม่สังเกตเห็นไข่มุกราชาแห่งยาด้วยซ้ำ
ด้วยทักษะที่เขาฝึกฝน แม้จะอยู่ห่างจากไข่มุกราชาแห่งยาแค่เพียงเอื้อมมือ ก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนอง
แต่ตอนนี้กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย เช่นนั้นก็มีโอกาสสูงที่ไข่มุกราชาแห่งยาจะอยู่ในร่างกายของลู่เสวี่ยเอ๋อร์
มีเพียงการสัมผัสเข้าไปถึงในเลือดเนื้อเท่านั้นที่จะทำให้รู้สึกถึงมันได้
หลังจากฟังคำอธิบายของเย่ซิวแล้ว ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ไม่ช้าใจเธอก็เต้นแรงอีกครั้ง
“เพื่อนนักศึกษาเย่ นายหมายความว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของฉันเหรอ?”
เย่ซิว “ผมยังไม่แน่ใจ ไปเปิดห้องพักให้ผมตรวจดูหน่อยเถอะ”
เขาเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่ม
เขา๗ธทำการตรวจสอบร่างกายของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งคงจะใช้เวลาไม่นาน
จากนั้นก็ค่อยควักเงินนั่งแท็กซี่ไปตระกูลจ้าวก้น่าจะทันเวลา
สีแดงบนใบหน้าของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่เพิ่งหายไปกลับมาปรากฏอีกครั้ง
เปิดห้องพักกับผู้ชาย ไม่ว่าฟังอย่างไรก็แปลก
แต่เย่ซิวเพิ่งช่วยเธอเเอาไว้ และเขาก็พูดเหมือนอากาารที่เธอเป็นนั้นร้ายแรงมาก ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นเย่ซิวจึงพาเธอไปเปิดห้องพักในโรงแรมที่ใกล้ที่สุด
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์นั่งอยู่ตรงขอบเตียงในห้อง พลางประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน ฝ่ามือของเธอมีเหงื่อออกท่วม
แต่เย่ซิวกลับไม่ได้คิดอะไรมาก
เขาพูดกับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ “เพื่อนนักศึกษาลู่ โปรดนอนลงและทำตัวให้สบาย”
“อื้ม”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์นอนลงตามคำแนะนำ แต่ก็ยากที่จะผ่อนคลาย
ขนตายาวสั่นไหวเล็กน้อย เผยให้เห็นความตึงเครียดภายในตัวเธอ
“มันอาจจะเจ็บนิดหน่อย คุณทนหน่อยนะ”
“ได้”
เย่ซิวจับมือขาวเล็ก ๆ ของเธอ และส่งกำลังภายในของเขาเข้าไปทีละน้อย
โดยปกติแล้ว เมื่อกำลังภายในเข้าสู่ร่างกายของบุคคลอื่น จะทำให้เกิดความเจ็บปวดในระดับหนึ่งเนื่องจากความพิเศษของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โคตรคนยอดปรมาจารย์