ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"
ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทาน
เย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"
หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"
เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"
หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"
หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย
“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”
ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ
เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอาย
เธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาว
ผมถูกถักเป็นเปียสองข้าง ทั้งร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเยาว์วัย
หญิงวัยกลางคนเยาะเย้ยและดูถูก "แหม ยัยเด็กคนนี้นี่เอง ขนาดขอทานก็ยังไม่เว้น ถ้าพ่อเธอที่อยู่โรงพยาบาลรู้เรื่องนี้เข้า ไม่รู้ว่าจะโกรธจนตายไปเลยรึเปล่า?”
ร้านทั้งสองตั้งอยู่ติดกัน แต่ธุรกิจของพวกเธอนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ร้านที่เปิดโดยหญิงสาว มักจะมีคนมาซื้อหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนอยู่เสมอ
แต่ฝั่งเธอกลับเงียบเหงา
เมื่อวันเวลาผ่านไป หญิงวัยกลางคนย่อมเกิดความริษยาและไม่พอใจ
หญิงสาวหน้าแดงก่ำ “คุณป้า ...อย่าพูดอะไร… หยาบคายแบบนี้ได้ไหมคะ?”
ทันใดนั้นเสียงของหญิงวัยกลางคนก็แหลมปรี๊ด "ตาแกบอดหรือไงหา? แกสิป้า ดูไม่ออกเหรอว่าฉันอายุแค่สามสิบปีเท่านั้น!"
“ผมคิดว่าคุณอย่างน้อยน่าจะอายุสักห้าสิบแล้วเสียอีกนะ ป้า” เย่ซิวแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาแล้วเดินไปที่ร้านของหญิงสาว
หญิงวัยกลางคนโกรธมาก เธอพูดอย่างอาฆาตมาดร้าย "หญิงร้ายชายเลว!"
หลังจากถ่มน้ำลายลงบนพื้น เธอก็หันหลังกลับเข้าไปในร้านไป
ประกายแสงเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาของเย่ซิว เขาลอบดีดนิ้วออกไป
พลังงานสายหนึ่งจึงถูกยิงออกไปและแทรกซึมเข้าไปในจุดชีพจรจุดหนึ่งของหญิงวัยกลางคน
แต่เธอไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย
เขาเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้าน
ร้านนี้ไม่ใหญ่นัก แต่ประเภทเสื้อผ้ากลับมีครบครัน
“พี่ชาย คุณอยากได้แบบไหนเหรอคะ?”
หญิงสาวอ่อนโยนมาก ดวงตาของเธอกระจ่างใสมากเช่นกัน
เธอไม่ได้รู้สึกดูถูกหรือรังเกียจที่เย่ซิวสวมเสื้อผ้าซอมซ่อเลย
เย่ซิวมองไปรอบ ๆ
สำหรับเรื่องเสื้อผ้า เขาไม่ค่อยใส่ใจมากนัก ตราบใดที่สวมใส่สบายและเหมาะกับตัว แค่นั้นก็พอแล้ว
เขาชี้ไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าราวหนึ่ง "ชุดกีฬาสีขาวตัวนั้น และก็ชุดสีดำนั่น"
หญิงสาวพยักหน้า "พี่ชายสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรสินะ ถ้าอย่างนี้ก็ต้องใส่ไซซ์เอ็กซ์เอ็กซ์แอล รอสักครู่นะคะ..."
เย่ซิวถูกใจเสื้อผ้าสองชุดที่แขวนอยู่ด้านบน
เธอหยิบไม้สอยผ้ามา แต่ยังขาดความยาวไปอีกนิดเดียว จึงยกเก้าอี้มาปีน
แต่ไม่รู้ว่าตัวเองยืนไม่มั่นคง พริบตา ร่างเล็กก็เอนไปข้างหลัง
“กรี๊ด!!!”
หญิงสาวกรีดร้องออกมา โลกหมุนวน ความหวาดกลัวอย่างหนักหน่วงเข้าครอบงำหัวใจของเธอ
จบสิ้นแล้ว เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
แต่เพียงชั่วครู่ต่อมา เธอก็ตกมาอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่น
เย่ซิวอุ้มหญิงสาวไว้ "เธอโอเคใช่ไหม?"
“อ๋า?!” หญิงสาวคิดว่าคราวนี้เธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะได้รับการช่วยเหลือจากเย่ซิว
บนตัวของเย่ซิวมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยส่งมา บวกกับพลังความเป็นชายที่แข็งแกร่ง
ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว เธอเขินอายมาก ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ได้ยินเพียงเสียงหวานพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย "ขอบคุณค่ะพี่ชาย คุณปล่อยฉันลงได้ไหมคะ"
เย่ซิววางเธอลงเบา ๆ "ในอนาคตก็ระวังให้มากหน่อยนะครับ"
“ไม่ได้หรอก ฉันจะให้เธอเสียเปรียบไม่ได้” เย่ซิวส่ายหน้า
ทันทีที่เขาเข้ามาในร้าย ก็พบว่าเสื้อผ้าที่หญิงสาวสวมใส่ มีอายุนานหลายปีแล้ว
นอกจากนี้มือเธอยังมีริ้วรอยมากมาย ไม่เนียนละเอียดเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่ว ๆ ไป เห็นได้ชัดว่ามีชีวิตที่ยากลำบากเคี่ยวกรำ
ดูเหมือนสถานการณ์ของหญิงสาวจะไม่ได้ดีนัก
ตอนที่เธออยู่ที่หน้าประตู เหมือนกับจะได้ยินว่าพ่อของเธอป่วยเข้าโรงพยาบาลรึเปล่านะ?
แบบนี้ เย่ซิวยิ่งไม่อาจเอาเปรียบหญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ
แต่หญิงสาวกลับยืนกรานว่า "เมื่อครู่ พี่ชายช่วยฉันไว้ ดังนั้นฉันเลยขอให้ส่วนลดคุณก็แล้วกัน"
นี่เป็นเด็กสาวที่มีหลักการของตัวเองคนหนึ่ง ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมรับเงินจากเย่ซิวมากไปกว่านี้
“อืม…เอาแบบนี้แล้วกัน” เย่ซิวคิดวิธีที่จะประนีประนอม
“ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย ฉันให้เธอห้าร้อยห้าสิบหยวน ให้เธอเลี้ยงข้าวฉันดีไหม?”
หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า "เอาสิคะ ก็แค่อาหารง่าย ๆ มื้อเดียวเอง"
หลังจากพูดจบ เธอก็มองไปที่เย่ซิวอย่างประหม่า กลัวว่าเขาจะปฏิเสธ
หลายปีที่ผ่านมา มีชายหนุ่มหลายคนตามจีบเธอ
ในหมู่พวกเขา มีแม้กระทั่งเศรษฐีฐานะสูงส่งด้วย
แต่หญิงสาวก็ไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเธอมองไปที่เย่ซิว มันกลับทำให้เธอรู้สึกแตกต่างออกไป
เย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ฉันเพิ่งลงมาจากภูเขา กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น"
“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย” หญิงสาวยิ้มจนตาหยี ดวงตาของเธอโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
ทันใดนั้นเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์รุ่นเก่าก็ดังขึ้น
หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาและกดรับ หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าของเธอก็ถอดสี โทรศัพท์ร่วงลงพื้นพร้อม ๆ กับที่เธอหมดเรี่ยวแรงและทรุดตัวตามลงไป
เย่ซิวมือไวตาไว คว้าหญิงสาวเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว "เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โคตรคนยอดปรมาจารย์