คนจำนวนมากมายในเมืองมหาดารากำลังจ้องไปที่ดวงแสงบนท้องฟ้าอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งมันคือทางออกของแม่น้ำมหาดารา
ในช่วงพันปีที่ผ่านมาตั้งแต่แม่น้ำมหาดาราเปิด ออกแสงที่เปล่งประกายออกจากดวงแสงนี้ส่องประกายเป็นปกติมาโดยตลอด แต่ตอนนี้มันกลับค่อย ๆ หรี่ลงเรื่อย ๆ ตลอดเวลา
“มันใกล้จะถึงเวลาที่แม่น้ำมหาดาราปิดตัวลงแล้วสินะ”
ผู้คนมากมายต่างคิดแบบเดียวกัน เพราะแค่ดูจากดวงแสงที่ค่อย ๆ หรี่ลงมันก็เดาไม่ได้ยากอะไร
ในระหว่างที่แสงค่อย ๆ หรี่ลงเรื่อย ๆ ผู้คนที่เคยเข้าไปในแม่น้ำมหาดาราก็ทยอยพากันบินออกมา ซึ่งแม่น้ำมหาดารานั้นจะปล่อยกลุ่มคนออกมาเป็นชุด ๆ ตามลำดับความแข็งแกร่งไล่เลี่ยขึ้นไป ดังนั้นคนกลุ่มแรกที่บินออกมานั้นเป็นพวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดบางคนที่หมดหวังกับการสำเร็จเต๋า
บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายที่รอทายาทของตัวเองอยู่เมื่อเห็นว่าทายาทของตัวเองออกมาได้อย่างปลอดภัยพวกเขาต่างก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็หัวเราะขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน
หลังจากนั้นบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ก็ค่อย ๆ ทยอยออกมา
“ทำไมหลานของข้ายังไม่ออกมาอีก? หรือว่าจะเป็นไปได้ไหมที่เขาทะลวงขอบเขตไปอยู่ขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์แล้ว?”
ผู้อาวุโสหลายคนต่างรอลูกหลานของพวกเขาอย่างกระวนกระวายกลัวว่าลูกหลานของพวกเขาเป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนที่ตายลงในแม่น้ำมหาดารา
อย่างไรก็ตามเมื่อกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว สีหน้าของบรรดาผู้อาวุโสหลายคนต่างก็เปลี่ยนเป็นหม่นหมอง
ต่อให้ลูกหลานของพวกเขาจะแข็งแกร่งสักไหนหรือต่อให้พรสวรรค์ของลูกหลานพวกเขาจะเป็นหนึ่งในร้อยล้านมันก็คงไม่มีทางที่ลูกหลานของพวกเขาจะทะลวงระดับข้ามไปถึงขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จริงไหม?
ตี๋เมิ่ง เมื่อเห็นว่าตี๋ฮ่าวยังไม่ปรากฏตัวเขาก็ยิ้มอย่างพอใจและเอ่ยขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าหลานของข้าคงจะทะลวงระดับขึ้นไปถึงขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แล้วแน่นอน!”
ก่อนหน้าที่แม่น้ำมหาดาราจะเปิดออก เขาทุ่มทรัพยากรจำนวนมหาศาลให้กับตี๋ฮ่าวได้บ่มเพาะจนตี๋ฮ่าวมีรากฐานพร้อมที่จะทะลวงระดับไปยังขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอนหากมีอะไรไปกระตุ้น ยกตัวอย่างเช่นสมบัติต่าง ๆ ที่อยู่ในแม่น้ำมหาดารา
ดังนั้นเขาจึงมั่นใจเป็นอย่างมากว่าตี๋ฮ่าวน่าจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วแน่นอน
แต่แล้วเมื่อถึงเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทยอยกันออกมา และจากนั้นก็มีพวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาเดินตามออกมาและดวงแสงก็ดับวูบลง
สีหน้าของตี๋เมิ่งกลายเป็นแข็งค้าง
ความหวังของเผ่าอีกาทองคำดับสูญลงไปในแม่น้ำมหาดาราง่าย ๆ แบบนี้งั้นเหรอ?
อันที่จริงความรู้สึกเช่นนี้ไม่ใช่แค่ตี๋เมิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึก แต่คนอื่น ๆ หลายคนต่างก็รู้สึกแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะในท้ายที่สุดผู้ทีเป็นความหวังของเผ่าพวกเขาในอนาคตก็ไม่ออกมาเหมือนกัน
แม้แต่คนของยอดเขาเต๋าเทวะ ภูเขาฟีนิกซ์ เผ่ามนุษย์รวมไปถึงคนของต้นสังกัดลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าน่าเกลียดออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่าคนที่พวกเขาเฝ้ารอมากที่สุดไม่ออกมาเลยสักคน
เด็ก ๆ เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นลูก ๆ ของผู้นำสูงสุดของพวกเขา แล้วแบบนี้พวกเขาจะกลับไปให้คำอธิบายกับนายของตัวเองยังไง?
แม้แต่กิเลนในเวลานี้ก็เริ่มร้องห่มร้องไห้ “นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม? นายน้อยยู่ชาน นี่ท่านตายแล้วจริง ๆ เหรอ? แล้วทีนี้ข้าจะกลับไปให้คำอธิบายกับนายน้อยต้วนฉิงยังไง แล้วไหนจะนายท่านอีก ข้าจะกล้าสู้หน้าพวกเขาในอนาคตได้ยังไง!?”
ในตอนนี้กิเลนคิดว่าทั้งหลิงยู่ชานและหมิงจู้ล้วนตายไปหมดแล้วในแม่น้ำมหาดารา
ในตอนนี้มีแค่เพียงกุยไห่เหรินหวางเท่านั้นที่ไม่ได้แสดงสีหน้าทุกข์ร้อนอะไร เพราะเขารู้ดีว่าเด็ก ๆ เหล่านั้นไม่มีใครเป็นอะไรแน่นอนเพราะคนที่พาพวกเขาเข้าไปคือ หลิงตู้ฉิง!
ในระหว่างที่กิเลนกำลังร้องห่มร้องไห้ จู่ ๆ หลิงตู้ฉิงก็ปรากฏกายขึ้นตรงหน้ามันและถามว่า “เจ้าร้องไห้เรื่องอะไร?”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงเปิดโลกของเขาให้หลิงยู่ชานและคนอื่น ๆ เดินออกมา
“นี่มัน…” กิเลนผงะถอยหลังด้วยสีหน้าตกตะลึง
กิเลนสัมผัสได้ว่าชายตรงหน้าเหมือนกับเจ้านายของเขาไม่มีผิด แต่ทำไมกลิ่นอายมันถึงได้ดูแตกต่างเป็นคนละคนขนาดนี้?
ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้คนของยอดเขาเต๋าเทวะ ภูเขาฟีนิกซ์และฝ่ายต่าง ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามาหาลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงทันทีด้วยสีหน้าตื่นเต้น
นายน้อยของพวกเขาได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว พวกเขาจะไม่ดีใจได้ยังไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)