เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ พวกอสูรยกทัพออกมาโจมตีกองกำลังที่อยู่ใกล้เคียงกับพวกมัน บรรดากองกำลังอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกโง่งมและตกตะลึง ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์นี้มันทำให้บรรดากองกำลังอื่น ๆ ต่างได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกอสูรนั้นแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาทั้งหลายคิดเอาไว้มาก แถมการรุกรานของอสูรในครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การฆ่าล้างอย่างเดียวอีกต่างหาก
ในตอนแรกของการรบเผ่าอื่น ๆ ต่างรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นว่าอสูรที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่มีร่างกายที่เป็นสีขาวเหมือนหยกกลับเป็นผู้นำของเผ่าอสูรทั้งมวล
อย่างไรก็ตาม หลังจากรบกันไปได้นานกว่าหมื่นปี เผ่าอื่น ๆ มากมายก็ถูกพวกอสูรจับมาเข้าพวกจนปัจจุบันเผ่าอสูรได้กลายเป็นเผ่าผสมที่แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง และเป้าหมายของพวกมันชัดเจนมากว่าไม่ได้ต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ใด ๆ แต่พวกมันต้องการปกครองเผ่าทั้งมวลต่างหาก
แต่ว่ามันจะมีสักกี่เผ่ากันที่ยอมศิโรราบต่อพวกอสูรง่าย ๆ?
เผ่าจำนวนมากมายต่างต่อต้านพวกอสูรอย่างสุดฤทธิ์ ซึ่งบางเผ่ามีความคิดที่ว่ายอมตายทั้งหมดดีกว่ายอมก้มหัวให้พวกอสูรก็มี
เมื่อเป็นเช่นนี้การฆ่าล้างจึงบังเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเมื่อมีการฆ่าล้างมันก็ต้องมีการเกิดใหม่
เมื่อจู่ ๆ จำนวนของสิ่งมีชีวิตที่ตายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หลิงตู้ฉิง ผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้เฝ้าประตูสังสารวัฏก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วในระหว่างที่มองไปยังเหล่าดวงวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนที่ค่อย ๆ ไปเกิดใหม่
“ดูเหมือนว่าจะมีใครบางเริ่มพิสูจน์เต๋าของตัวเองแล้วสินะ” หลิงตู้ฉิงพึมพำกับตัวเอง
เมื่อเห็นว่าจำนวนดวงวิญญาณที่ต้องการไปเกิดใหม่จำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล หลิงตู้ฉิงจึงโบกมือไปทางหลุมดำ ส่งผลให้หลุมดำขยายขนาดขึ้นใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า
อันที่จริงการขยายขนาดหลุมดำนี้มันยากกว่าที่เห็นเป็นอย่างมาก หลิงตู้ฉิงจำเป็นต้องใช้พลังของเขามากกว่า 6 ส่วนในการขยายขนาดของมัน แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น หากเขาไม่ขยายขนาดมัน ดวงวิญญาณก็จะกลับไปเกิดใหม่ไม่ทันและนั่นจะส่งผลให้สมดุลของโลกและสวรรค์เสียหาย
ในเวลานี้ หลิงตู้ฉิงเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูสังสารวัฏถึงไม่ชอบเขา
เมื่อในอดีตเขาเองก็ฆ่าคนไปมากมายเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่ามันคงจะส่งผลให้ หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูสังสารวัฏต้องลำบากขยายขนาดเส้นทางการไปเกิดใหม่แบบนี้แน่นอน ไอรีนโนเวล
ในขณะเดียวกันที่โลกเบื้องบนในตอนนี้เพื่อรับมือกับเผ่าอสูร บรรดาเผ่าทั้งหลายต่างก็ร่วมมือกันจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรขึ้นมา
ด้วยความแข็งแกร่งของอสูรขณะนี้ หากพวกเขาแยกกันสู้พวกเขาจะไม่มีวันที่จะเอาชนะเผ่าอสูรได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องร่วมมือกันเท่านั้น
เผ่ามนุษย์ เผ่าฟีนิกซ์ เผ่ามังกร เผ่าอีกาทองคำ อาณาจักรแสงสวรรค์และเผ่าอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ยินยอมจะตกเป็นเบี้ยล่างของเผ่าอสูรก็ได้มารวมตัวกันในที่สุด ซึ่งมันทำให้กองกำลังพันธมิตรนั้นมีกำลังรบหลักเป็นจักรพรรดิเทพเกิน 60 คน
เมื่อรวมกลุ่มกันได้ครบทั้งหมด กองกำลังพันธมิตรจึงยกทัพมายันกองทัพอสูรอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโลหิตเทพพระเจ้า
แต่แล้วเมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ทั้งสองฝ่ายกลับไม่มีฝั่งไหนที่ลงมือทำอะไรก่อน เพราะในขณะนี้จำนวนของจักรพรรดิเทพที่ทั้งสองฝ่ายมีรวมกันนั้นมีจำนวนถึงหลักร้อยคน ซึ่งถ้าหากรบกันขึ้นมาจริง ๆ โลกเบื้องบนคงพินาศย่อยยับและถ้ามันเป็นแบบนั้นสวรรค์จะต้องเข้ามาแทรกแซงแน่นอน
“พวกเจ้าเผ่าอสูรต้องการยึดครองโลกเบื้องบนทั้งหมดไปเพื่ออะไรกัน?” ราชันแห่งมวลมนุษย์ตะโกนถามขึ้น
ฟูหวงก้าวออกมาและตอบกลับในทันที “สาเหตุที่สงครามต่าง ๆ เกิดขึ้นไม่รู้จักจบจักสิ้นมันเป็นเพราะว่าเผ่าต่าง ๆ ในโลกเบื้องบนนั้นเอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน แต่ถ้ามีเผ่าสักเผ่าที่รวบรวมทุกเผ่าให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ปัญหานี้จะหมดไป ทุกคนจะกลายเป็นเหมือนดั่งพี่น้องกัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแบ่งปันกัน เมื่อเป็นแบบนั้นการต่อสู้ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นอีก!”
ในระหว่างที่ฟูหวงตอบกลับ เขาก็ปลดปล่อยแรงกดดันไปยังบรรดาจักรพรรดิเทพฝั่งตรงข้ามไปด้วย
ทางด้านของกองกำลังพันธมิตร จริง ๆ พวกเขาต่างก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าการรบครั้งนี้มันเกี่ยวพันกับการพิสูจน์เต๋าของพวกเผ่าอสูร แต่พวกเขาก็ยังจำเป็นต้องถามเพื่อหาคำตอบว่าการพิสูจน์เต๋าครั้งนี้มันเกี่ยวข้องกับอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)