สรุปเนื้อหา บทที่ 122 เก็บค่าเข้าเรียน[รีไรท์] – พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet
บท บทที่ 122 เก็บค่าเข้าเรียน[รีไรท์] ของ พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 122 เก็บค่าเข้าเรียน[รีไรท์]
บทที่ 122 เก็บค่าเข้าเรียน[รีไรท์]
อาจารย์คนอื่น ๆ เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงเอ่ยคำว่า ‘ขยะ’ แล้วจากไป อารมณ์ของพวกเขาต่างพุ่งปรี๊ดจนแทบจะวิ่งตามไปอัดหลิงตู้ฉิง แต่จะติดก็แค่อย่างเดียวที่พวกเขาไม่กล้านั่นก็เพราะหลิงตู้ฉิงเป็นว่าที่หลานเขยของจ้าวปาเทียนที่กำลังนั่งหัวโด่รวมอยู่ด้วยในห้อง
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงจากไป กลุ่มคนที่กำลังโกรธทั้งหมดจึงทยอยกันออกไปจากห้องเพื่อเตรียมตัวสำหรับการประลองที่จะเริ่มขึ้นในอีก 7 วัน
เมื่อมองไปยังบรรดาอาจารย์ที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงทยอยเดินออกจากห้องไป จ้าวปาเทียนก็ส่ายหัวขณะที่มองไปที่พวกเขา
“อาจารย์ ข้าว่านี่เป็นเรื่องที่ดี” เฮ่อเจี้ยนปิงหัวเราะอยู่ด้านข้าง “ที่ผ่านมาสถาบันราชวงศ์ของเราเงียบสงบมานานเกินไปจนการพัฒนาเริ่มเชื่องช้า ข้าคิดว่าการมีหลิงตู้ฉิงเข้ามากระตุ้นตาเฒ่าพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน”
จ้าวปาเทียนถอนหายใจ “เฮ้อ…อันที่จริงทั้งหมดนี่อาจจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสถาบันเราที่ได้หลิงตู้ฉิงมากระตุ้นให้ทุกคนผลักดันตัวเองมากขึ้น แต่ข้าก็ยังกังวลอยู่ดี หากหลิงตู้ฉิงเล่นงานของพวกเขาหนักจนเกินไป ข้าเกรงว่าจะมีหลายคนที่ไม่อาจทำใจยอมรับได้และหมดไฟไปดื้อ ๆ”
“มาเถอะ เราไปหาเขากันก่อน เผื่อว่าเขาต้องการให้เราช่วยอะไรบางอย่างก็ได้” พูดจบจ้าวปาเทียนจึงพาเฮ่อเจี้ยนปิงเดินออกจากห้องประชุมไปยังคณะเปิดชั่วคราว
หลิงตู้ฉิ ที่กลับมาถึงคณะเปิดชั่วคราวแล้ว เขาเริ่มคิดหาวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้โม่หยูถังสามารถใช้พลังวิญญาณได้ภายใน 7 วัน โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องทะลวงขอบเขตประสานทะเลปราณเพื่อรักษาพ่อบ้านของเขา เขาต้องการทำให้รากฐานการบ่มเพาะของเขาแข็งแกร่งที่สุดก่อนจากนั้นถึงค่อยทะลวงขอบเขตต่อไป
ในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก จ้าวปาเทียนและเฮ่อเจี้ยนปิงก็เข้ามา
จ้าวปาเทียนมองไปที่หลิงตู้ฉิงซึ่งยังคงครุ่นคิดอยู่และถามว่า “เดิมพันของเจ้าสูงเกินไป ไหนบอกข้ามาสิว่าเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรจากข้าหรือไม่?”
หลิงตู้ฉิงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่พวกเขาสองคน
หลิงตู้ฉิงจ้องไปยังจ้าวปาเทียนได้สักพักและพูดว่า “อืม ข้าอยากดูของสะสมของท่านสักหน่อยเผื่อจะมีอะไรที่ข้าพอใช้พวกมันได้บ้าง”
จ้าวปาเทียนขมวดคิ้ว “เหมิงเอ๋อยังไม่ทันได้แต่งงานกับเจ้าด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เจ้ากลับขอสมบัติข้าแล้วงั้นเหรอ แล้วคนแก่ ๆ อย่างข้าจะไปมีของอะไรที่ต้องตาต้องใจคนแปลก ๆ อย่างเจ้าได้กัน”
“มีหรือไม่มี ท่านก็ให้ข้าดูก่อนข้าถึงจะรู้ อ๋อแล้วข้าฝากท่านไปบอกพวกตาแก่ที่มาฟังชั้นเรียนของคณะข้าบ่อย ๆ ให้หน่อย ว่าจากนี้หากพวกเขาต้องการเข้ามาที่ชั้นเรียนของคณะข้า พวกเขาต้องจ่ายค่าเล่าเรียนโดยการให้ข้าเลือกสมบัติของพวกเขา 1 ชิ้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ได้เข้าฟังชั้นเรียนของคณะข้าอีกต่อไป”
หลิงตู้ฉิงกล่าวโดยไม่มีร่องรอยของความสุภาพ ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ว่าเขาจะมีหลายวิธีในการแก้ปัญหาของโม่หยูถัง แต่เขาก็ไม่มีสมบัติหรือสมุนไพรหรือของวิเศษใด ๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับวิธีต่าง ๆ ที่อยู่ในหัวเขาได้
ตอนนี้เขาจึงคิดได้แค่วิธีเดียวคือการหวังปล้นบรรดาตาแก่ในสถาบันแห่งนี้ที่มีชีวิตอยู่มานานเป็นร้อยปี เพื่อวัดดวงว่าตาแก่พวกนี้จะมีของที่เขาต้องการบ้างหรือไม่
จ้าวปาเทียนแสดงสีหน้าบูดเบี้ยวทันที
ว่าที่หลานเขยของเขาต้องการคิดเงินค่าฟังชั้นเรียน?
ในตอนแรกเขาคิดก่นด่าในใจสำหรับความขี้งกของหลิงตู้ฉิงไม่หยุด แต่เมื่อผ่านไปสักพักเขาก็คิดออก
ขนาดเด็ก ๆ ยังต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเมื่อพวกเขาเข้าเรียนที่สถาบันราชวงศ์ แล้วพวกเขาจะไม่จ่ายค่าเล่าเรียนได้อย่างไร? หากพวกเขาต้องการเรียนที่คณะเปิดชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทเรียนที่พวกเขาเข้าเรียนไม่ใช่บทเรียนธรรมดา ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับพวกเขาที่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน
เมื่อคิดได้ดังนั้นจ้าวปาเทียนก็พยักหน้า “ได้ ข้าจะไปบอกพวกเขาเองสำหรับเรื่องนี้”
“ท่านอย่าลืม ท่านเองก็ต้องจ่าย!” หลิงตู้ฉิงมองไปที่จ้าวปาเทียน
“ข้าอุตส่าห์ยกหลานสาวของข้าให้เจ้าไปแล้ว เจ้ายังต้องการขูดเลือดขูดเนื้อข้าอีกงั้นเหรอไอ้หนุ่ม!?” พูดจบจ้าวปาเทียนมองไปที่หลิงตู้ฉิงที่กำลังแสดงสีหน้าจริงจัง
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่เล่นด้วยจ้าวปาเทียนถอนหายใจและบอกว่า “ก็ได้ ๆๆ ข้าจะให้เจ้าเลือกของ ๆ ข้า 1 ชิ้น ถ้าข้าไม่ให้เจ้า ตาแก่คนอื่น ๆ ก็คงอาจจะประท้วงไม่ให้ของเจ้าตามข้าอีก เฮ้อ…งั้นข้าไปบอกพวกเขาก่อนล่ะ…”
ในเวลาไม่นาน จ้าวปาเทียนได้กลับมาหาหลิงตู้ฉิงอีกครั้งพร้อมกับบรรดาผู้อาวุโสของสถาบันที่เดินตามกันมาเป็นพรวนด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“อาจารย์หลิง…ตาเฒ่าจ้าวบอกว่าพวกเราต้องจ่ายค่าเข้าฟังการบรรยาย ข้าสงสัยว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่?” ชายชราผมขาวพูดด้วยสีหน้ากังวล
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ข้าไม่ต้องการเงินของพวกท่าน ข้าต้องการแค่วัสดุและสมุนไพรบางอย่าง ตราบใดที่ท่านนำสมบัติของพวกท่านมากองให้ข้าเลือกสัก 1 อย่าง เมื่อนั้นท่านจะได้รับอนุญาตให้มาที่คณะเปิดชั่วคราวของข้าเพื่อฟังชั้นเรียนได้ตลอด”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิงบรรดาผู้อาวุโสที่ยืนฟังต่างมีสีหน้าบูดบึ้งขึ้นมากันทันที
สมบัติของพวกเขาที่พวกเขาสะสมมาเป็นเวลานาน ล้วนต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งเป็นเรื่องปกติ และของบางอย่างอาจเกี่ยวข้องกับการบรรลุระดับการบ่มเพาะของพวกเขา
มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะกังวลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากหลิงตู้ฉิงเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดออกมาพวกเขาคงไม่รู้จะร้องไห้ยังไง
“นี่…” ทุกคนต่างพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่รู้จะพูดอย่างไร
เมื่อหลิงตู้ฉิงชี้ไปที่รากพฤกษาสวรรค์ ในเวลานั้นจ้าวปาเทียนเจ็บปวดราวกับถูกมีดเฉือนใจ เนื่องจากตามตำนานที่เขาได้สืบทราบมารากพฤกษาสวรรค์เป็นวัตถุดิบที่สำคัญมากในการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตนภา ส่วนอีกสองอย่างที่หลิงตู้ฉิงชี้นั้นในสายตาของจ้าวปาเทียน คุณค่าของพวกมันรวมกันยังมีค่าไม่เท่ากับรากพฤกษาสวรรค์
หลิงตู้ฉิงยักไหล่และพูดว่า “ข้าอยากจะบอกท่านไว้ อันที่จริงของเหล่านี้ท่านแทบไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพามันสักเท่าไหร่หากท่านได้คำชี้แนะจากข้าไป แต่ก็แล้วแต่ท่านหากท่านต้องการเวลาคิดก็เชิญตามสบาย ท่านออกไปได้แล้ว ข้าจะได้เรียกคนต่อไปให้เข้ามา”
เมื่อจ้าวปาเทียนออกจากห้องไปด้วยสีหน้าครุ่นคิดอยากหนัก ชายชราที่มีผมสีขาวเต็มศีรษะถูกเรียกเข้ามาและนำสมบัติทุกอย่างออกมากองไว้เช่นเดียวกับจ้าวปาเทียน
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่บรรดาของมีค่าที่อยู่บนพื้นและถามโดยไม่ละสายตา “ท่านชื่ออะไร?”
“ข้าชื่อ ตู้กู่หยางเจียน!” ชายชราประสานมือคำนับและพูด
“อาจารย์ตู้กู่ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 8 ท่านมีโอกาสสูงมากที่จะบรรลุระดับต่อไปได้ แต่น่าเสียดายที่อายุขัยของท่านเหลือไม่มากแล้ว” หลิงตู้ฉิงพูด “จากที่ข้าเห็นท่านถูกพิษ มันเป็นพิษเยือกแข็งของตัวต่ออเวจี และท่านจะมีอายุขัยต่อไปอีกเพียง 10 ปี”
ตู้กู่หยางเจียนถามด้วยความตกใจ “อาจารย์หลิง ท่านมองออกได้อย่างไรว่าข้าติดพิษตัวต่อเวจี?”
“เพราะข้าสังเกตเห็นได้ว่าในเส้นลมปราณของท่านมีรัศมีสีเขียวเย็นยะเยือกเปล่งออกมาอย่างเลือนราง นี่คือสัญลักษณ์ของพิษตัวต่ออเวจี” หลิงตู้ฉิงอธิบาย
ตู้กู่หยางเจียนเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยความเศร้าโศก “เฮ้อ…ต้องขอบคุณอาจารย์หลิงจริง ๆ ที่บอกสาเหตุที่ข้าต้องทนหนาวเหน็บอยู่ทุกคืน ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องตายไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้นเหตุของมันคืออะไร ว่าแต่อาจารย์หลิง ในเมื่อท่านรู้จักชื่อของมัน ท่านพอจะทราบไหมว่ามีวิธีใดที่จะสามารถถอนพิษนี้ออกได้”
“แน่นอนว่าข้ามีวิธี แต่ท่านต้องจ่ายด้วยสมบัติบางชิ้นของท่าน” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ
ตู้กู่หยางเจียนยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “ถ้าข้าตายไปแล้วสิ่งเหล่านี้จะใช้ประโยชน์อะไรกับข้าได้ ถ้าอาจารย์หลิงสามารถรักษาพิษของข้าได้ ข้าจะมอบพวกมันทั้งหมดให้กับท่าน”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว เขาหยิบลูกปัดเม็ดหนึ่งออกมาจากกองสมบัติของตู้กู่หยางเจียน และพูดว่า “ลูกปัดนี้จะเป็นราคาสำหรับการฟังบทเรียนของคณะเปิดชั่วคราวและก้านของ หญ้าเพลิงเมฆารวมถึงผลมรกตจากต้นพฤกษามรกตเป็นราคาสำหรับการรักษาท่านจากพิษตัวต่ออเวจี”
ตู้กู่หยางเจียนมองตามทิศทางของนิ้วหลิงตู้ฉิงและยิ้มอย่างขมขื่น “อันที่จริงต้นเหตุที่ข้าต้องถูกพิษก็เพราะไอ้เจ้าผลมรกตลูกนี้นี่ล่ะ ย้อนกลับไปตอนนั้นมันเป็นเพราะด้วยความโลภของข้าที่พยายามเข้าไปขโมยผลมรกตนี้ในป่าลึกลับทางตอนเหนือ ทำให้ข้าต้องเจอกับตัวต่ออเวจีในเวลานั้น ข้าได้สังหารมันลงได้แต่ข้านั้นไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าตัวเองจะพลาดถูกพิษของมันเข้าโดยที่ข้าเองก็ไม่รู้ตัวมาจนถึงวันนี้”
พูดจบ ตู้กู่หยางเจียนหยิบก้านของหญ้าเพลิงเมฆารวมถึงผลมรกตจากต้นพฤกษามรกตส่งให้หลิงตู้ฉิงและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ได้โปรดช่วยข้ากำจัดพิษด้วย!”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ตู้กู่หยางเจียน จากนั้นมองไปที่กองสมบัติและพูดว่า “ถ้าท่านให้ข้าเลือกอีก 3 รายการ ข้ารับรองได้ว่าท่านสามารถเข้าสู่ขอบเขตนภาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)