บทที่ 137 เตรียมแผนเปิดการประมูล[รีไรท์]
เจียงซิงเฉิงนั้นรู้ดีว่าไม่มีใครจะอยากฟังเรื่องราวธรรมดา ๆ เหล่านี้ สิ่งที่พวกเขาอยากฟังคือเรื่องเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ ต่อให้มันจะเป็นคำพูดหรือเคล็ดลับเพียงไม่กี่คำก็ยังดี แต่เจียงซิงเฉิงนั้นเลือกที่จะไม่พูดถึงสิ่งที่เขาบรรลุมาจากศาลาศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากพูดไปยังไงบรรดาสหายของเขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีและที่สำคัญมันเกี่ยวข้องกับความลับของเส้นทางเต๋าของตัวเขาเองอีกด้วย
บรรดาสหายที่รอฟังเจียงซิงเฉิงพูดเกี่ยวกับบทเรียน เมื่อได้ยินเช่นนี้พวกเขาต่างแสดงสีหน้าผิดหวังออกมา หลายคนคิดว่าเขาหวงความรู้และรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับสาปแช่งเจียงซิงเฉิงในใจ
แต่พวกเขาต่างเลือกที่จะเก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ภายใน พวกเขาเลือกที่จะใส่หน้ากากเข้าหาเจียงซิงเฉิง
ไม่นานต่อมามีเสียงฝีเท้าดังขึ้นใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว พ่อบ้านของตระกูลเจียงที่รีบวิ่งเข้ามา เขาพูดกับเจียงซิงเฉิง “นายน้อย นายท่านบอกให้ข้าแจ้งข่าวกับท่านว่าสถาบันศักดิ์สิทธิ์กำลังเริ่มเปิดชั้นเรียนในตอนนี้แล้ว!”
“หะ! ตอนนี้งั้นเหรอ?!” เจียงซิงเฉิงรีบลุกขึ้นยืนทันทีและพูดกับคนอื่น ๆ “ขอโทษนะทุกคน ข้าขอตัวก่อนล่ะ ไว้ค่อยพบกันใหม่!”
หลังจากพูดจบโดยไม่รอคำตอบเขาก็รีบวิ่งตรงไปที่สถาบันทันที
เมื่อเจียงซิงเฉิงจากไปบรรดากลุ่มสหายของเขาที่ถูกทิ้งไว้ก็เริ่มเผยธาตุแท้ในใจออกมา พวกเขาแสดงสีหน้าเหยียดหยามไปทางที่เจียงซิงเฉิงจากไปและพูดว่า “ข้ามองเขาผิดไป นึกว่าเขาจะเป็นคนที่คบได้ หลังจากนี้ถ้าข้ามีอะไรข้าจะไม่แบ่งให้เขาแน่!”
“ใช่ ไอ้คนขี้งกเอ้ย!”
เจียงซิงเฉิงรีบวิ่งไปที่ทางเข้าสถาบันราชวงศ์และพบกับเหวินเต๋าที่กำลังวิ่งมาเช่นกัน ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม
“ข้าคิดว่าเจ้าจะมาสายซะอีก!” เหวินเต๋าหัวเราะ
เจียงซิงเฉิงยิ้มและพูดว่า “ข้ามาที่นี่ทันทีที่ได้รับข่าวจากพ่อข้า หวังว่าพวกเราจะมาทันชั้นเรียนกันนะ”
ทั้งสองคุยกันขณะที่พวกเขารีบวิ่งไปที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์
ทั้งสองคนที่ยังไปได้ไม่ไกล ก็มีอีกคนที่ไล่ตามพวกเขาทันจากด้านหลัง
โกวเจี้ยน ในเวลานี้ก็มาแล้ว
จากนั้นบรรดานักศึกษาก็ตามกันมามากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อทุกคนมาถึงชั้นเรียน ถังชี่หยุนได้สอนบทเรียนของวันนี้จบไปแล้ว
เมื่อบรรดานักศึกษาเห็นเช่นนั้น พวกเขาจึงเลือกที่จะจับกลุ่มนั่งคุยกันเพื่อรอชั้นเรียนของโม่หยูถังที่จะเริ่มสอนในภาคบ่าย พวกเขาต่างก็นั่งคุยเรื่องของตัวเองให้เพื่อน ๆ ฟัง แต่ก็มีบางคนที่มีไหวพริบฉวยโอกาสหยิบของขวัญที่พวกเขาซื้อเตรียมไว้จากในช่วงวันหยุด และนำไปมอบให้ลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิง
พวกเขารู้ดีว่า หากพวกเขาต้องการได้รับประโยชน์จากหลิงตู้ฉิง พวกเขาจะต้องชนะใจบรรดาลูก ๆ ของเขาให้ได้ก่อน
“น้องว่านถิง จี้หยกนี้เหมาะสำหรับเจ้ามากนัก”
“น้องยู่ชาน นี่คือแหวนหยกเจ็ดสี กว่าข้าจะได้มันมานั้นยากลำบากยิ่งนัก มันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับการให้คนรัก ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับน้องหมิงจู้หมั้นกันแล้ว ดังนั้นข้าจึงเตรียมมาไว้ให้เจ้า เพื่อที่เจ้าจะนำมันไปเป็นของขวัญให้กับน้องหมิงจู้”
“น้องยี่เทียน ข้าเองก็เป็นคนชอบเล่นหมากรุกเช่นกัน บังเอิญว่าข้ากลับไปยังตระกูลและเจอกับชุดกระดานหมากรุกอันงดงามชุดนี้เข้า ข้าขอมอบมันให้เจ้า เพื่อต่อไปเจ้าจะได้ใช้กระดานนี้เล่นกับทุกคนแทน”
เมื่อเห็นบรรดาสหายที่เจ้าเล่ห์เหล่านี้เริ่มผูกสัมพันธ์กับลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิง คนอื่น ๆ ที่คิดไม่ทัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เตรียมของขวัญมา แต่พวกเขาเองก็ไม่ต้องการน้อยหน้า พวกเขาต่างหยิบของล้ำค่าของตัวเองที่อยู่ในแหวนมิติขึ้นมาและมอบพวกมันให้กับลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงบ้างเช่นกัน
ลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงที่ไม่เคยได้รับของขวัญมากมายขนาดนี้จากคนอื่นมาก่อน ทุกคนมีความสุขมาก
และในเวลาเดียวกับที่พวกเขาได้รับของล้ำค่าเหล่านั้นมา พวกเขาก็นึกได้ถึงคำสอนของถังชี่หยุนที่สอนกับพวกเขาว่าควรปฏิบัติตัวเช่นไรเมื่อมีผู้อื่นทำดีด้วย
เมื่อนึกได้เช่นนั้น สิ่งที่พวกเขาทำคือเมื่อพวกเขาได้รับของขวัญมาพวกเขาจะนำสิ่งของจากในแหวนมิติของพวกเขาตอบแทนกลับคืนไปทันที
และในแหวนมิติของลูก ๆ หลิงตู้ฉิงที่สวมอยู่นั้น เจ้าของเก่าของพวกมันคือบรรดานักฆ่ากลุ่มเสื้อคลุมโลหิตที่เก็บสมบัติส่วนตัวของพวกเขาทั้งหมดลงไปอยู่ในนั้น ส่งผลให้ในแหวนมีสมบัติล้ำค่าอยู่มากมาย
เด็ก ๆ ที่ไม่รู้มูลค่าของสิ่งของที่อยู่ในแหวน พวกเขาแค่เพียงเลือกของเหล่านั้นที่ดูต้องตาต้องใจขึ้นมาอย่างสุ่ม ๆ และยื่นกลับคืนไปยังบรรดาพี่ ๆ นักศึกษาที่มอบของขวัญให้กับพวกเขา
ด้วยความบังเอิญนี้กลับกลายเป็นว่ามูลค่าของสิ่งของที่เหล่าเด็ก ๆ ยื่นคืนไปให้ บางชิ้นนั้นมีมูลค่าสูงกว่าของขวัญที่พวกเขาได้รับเสียอีก ส่งผลให้นักศึกษาบางคนถึงกับยิ้มกว้างที่จู่ ๆ ตนเองกลับได้กำไรจากเหล่าลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงครั้งนี้
มี่ไลที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้าง เริ่มทนกับภาพที่เห็นไม่ได้ นางกระซิบที่ข้างหูหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน ข้าคิดว่านับจากนี้เราควรให้เด็ก ๆ ได้ศึกษาถึงมูลค่าสิ่งของต่าง ๆ ที่พวกเขามีอยู่ว่ามันมีมูลค่าแค่ไหน ของที่พวกเขามอบกลับคืนให้ไป พวกมันแทบทั้งหมดล้วนแต่เป็นของที่มีมูลค่ามากกว่าของที่พวกเขาได้รับ!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “อย่าไปสนใจกับของนอกกายที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้เลย ตราบใดที่พวกเขาทำแล้วมีความสุข ต่อให้มูลค่าของมันจะเท่าไหร่ก็ตามมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)