บทที่ 158 สามอสูรทมิฬสงคราม
บทที่ 158 สามอสูรทมิฬสงคราม
เมื่อมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาจำนวนมาก แม้แต่มี่ตั้วตั้วเองยังรู้สึกหวั่นใจ ตอนนี้เขาอยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราเท่านั้น แค่เพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาเพียงคนเดียวก็สามารถบี้เขาได้เหมือนบี้มดบี้แมลง นับประสาอะไรกับการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภามากมายแบบนี้
แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินหลิงตู้ฉิงพูดมานานแล้วว่า ตระกูลมี่จะเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ แต่หายนะครั้งนี้ก็ใหญ่เกินไป
ตอนนี้มี่ตั้วตั้วเองเริ่มนึกถึงข้อจำกัดของอสูรทมิฬที่สามารถเรียกออกมาได้เพียง 15 นาที แถมระดับของทุกตนนั้นล้วนอยู่เพียงแค่ขอบเขตรวมแสงดาราและจำนวนที่เรียกออกมาได้นั้นมีเพียงแค่ 3 ตนเท่านั้น ด้วยจำนวนรวมไปถึงความแข็งแกร่งและเวลาที่ถูกจำกัด อสูรทมิฬที่เรียกออกมาจะสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญกลุ่มใหญ่เหล่านี้ได้ยังไง? คิดไปคิดมาเขาก็ยิ่งกลุ้มใจ สุดท้ายเขาจึงมองไปที่โม่หยูถังอย่างกังวลและสงสัยว่าโม่หยูถังจะสามารถจัดการทุกคนได้หรือเปล่า?
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เป็นตายที่รุนแรงเช่นนี้ เขาจึงถอนหายใจและทำได้เพียงแค่ก้าวไปข้างหน้าและพูดขึ้น “เฮ้อ…เอาล่ะ หากพวกท่านคนไหนที่ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลมี่ของข้าก็โปรดถอยออกไป มิฉะนั้นข้าจะมองว่าพวกท่านทุกคนเป็นศัตรูของตระกูลมี่ เมื่อการโจมตีเริ่มขึ้น ข้าจะตอบโต้โดยแยกไม่ได้ว่าพวกท่านเป็นมิตรหรือศัตรู” มี่ตั้วตั้วพูดอย่างเย็นชา “แต่ถ้าหากมีใครในวันนี้ยินดียื่นมือช่วยเหลือตระกูลมี่ของข้าในการสกัดกั้นศัตรู หากตระกูลมี่ของข้าวันนี้รอดไปได้ ข้าจะตอบแทนพระคุณให้กับทุกท่านที่ช่วยเหลือกลับคืนไปเป็น 10 เท่า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอบแทนการช่วยเหลืองั้นเหรอ? เจ้าประเมินตระกูลมี่ของเจ้าสูงเกินไปแล้ว น้ำหน้าของตระกูลเล็กจ้อยอย่างตระกูลเจ้าจะเอาอะไรมาตอบแทนพวกข้ากัน!?” หม่าตงเฉิงแห่งสำนักดาราพเนจรหัวเราะเยาะ
“ไม่มีใครในที่นี่เขาสนใจตระกูลเล็ก ๆ ของเจ้ากันหรอก เอาล่ะพวกเรา ข้าคิดว่าถึงเวลาที่เราจะกำจัดตระกูลนี่ออกไปให้พ้นทางแล้ว แล้วพวกเราค่อยมาแบ่งโอสถกับตราคำสั่งอสูรทมิฬกันอีกที!” เจียงเต๋อชิงกล่าวกระตุ้นขึ้น
หากเทียบกันบรรดาสำนักใหญ่ที่รวมหัวกันอยู่ในขณะนี้ ตระกูลมี่เป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 2 เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะมี่ตั้วตั้วที่ครอบครองตราคำสั่งอสูรทมิฬ ซึ่งที่จริงคือเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ ป่านนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ล้อมรอบเขาอยู่คงโจมตีเขาไปนานแล้ว
ขณะนี้ไม่เพียงแต่ไม่มีใครถอยหนีตามคำขู่ของมี่ตั้วตั้ว แต่ตอนนี้ยังมีแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาอีก 2 คนเข้าร่วมการต่อสู้อีกด้วย
ส่วนทางด้านของคนจากสำนักบุปผาจันทรา พวกเขาในเวลานี้ล้วนยืนมองดูอยู่อย่างนิ่งเฉย ซึ่งส่งผลให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญจากสำนักต่าง ๆ เองยังมีความกังวลใจอยู่บ้าง เนื่องจากพวกเขาดูไม่ออกว่าสำนักบุปผาจันทราเองจะเอายังไงกันแน่
ทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ล้วนเห็นฉากนี้ที่เกิดขึ้นในหอประมูลของตระกูลมี่เช่นกัน เสี่ยวเยว่เฟิง นางขมวดคิ้วและพูดว่า “นายท่าน ตอนนี้ในหอประมูลตระกูลมี่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาถึง 10 คน ถึงแม้ว่าข้าจะไปช่วยพวกเขา หรือต่อให้ข้าร่วมมือกับพ่อบ้านโม่ที่อยู่ที่นั่น ข้าเกรงว่าข้าและพ่อบ้านเองก็คงไม่สามารถทำอะไรได้มากเช่นกัน ข้าคิดว่าตอนนี้คงมีแต่นายท่านเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและหัวเราะ “เจ้าประเมินพ่อบ้านโม่ต่ำเกินไปและก็ประเมินเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ต่ำไปด้วย”
เด็ก ๆ มองไปที่หลิงตู้ฉิงโดยไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
ในเวลานี้ในอาคารหอประมูลตระกูลมี่
มี่ตั้วตั้วมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา 10 คนที่กำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธผสมโลภ เขาหยิบเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ออกมาและพูดว่า “ข้าขออัญเชิญผู้อาวุโสเผ่าอสูรทมิฬทั้งหลาย โปรดส่งคนมาช่วยข้าด้วย!”
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่มีทางออกเช่นนี้ มี่ตั้วตั้วเลือกที่จะสู้ตายแน่นอน
มี่ตั้วตั้วนั้นรู้ตัวดีว่าเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ไม่ใช่สมบัติวิเศษที่สร้างโดยเผ่าอสูรทมิฬสงคราม แต่มันเป็นสมบัติวิเศษที่เป็นเหมือนอวัยวะภายในกายของเขาเองส่วนหนึ่งและยังเป็นสมบัติที่ผูกชะตาชีวิตของคนในตระกูลของเขาไว้ทุกคน
หากเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ของเขาถูกยึดไป นั่นก็เท่ากับเหมือนเป็นการเอาชีวิตของเขาและคนในตระกูลไปเช่นกัน
เนื่องจากเป็นเช่นนี้ เขาจึงต้องต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย
ในขณะที่มี่ตั้วตั้วพูดจบ ประตูของเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ก็เปิดออกและอสูรทมิฬสงครามสามตนที่มีรังสีฆ่าฟันรุนแรง ได้เดินออกมาจากภายในเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์
เมื่อเห็นมี่ตั้วตั้วเรียกอสูรทมิฬสงครามออกมาจากเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์เช่นนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาต่างรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“เจ้าคิดว่าการหลอมรวมตราคำสั่งของอสูรทมิฬเข้ากับสมบัติวิเศษที่ผูกไว้กับชะตาชีวิตของเจ้าเพื่ออำพลางแบบนี้ เจ้าคิดจริง ๆ งั้นเหรอว่าเจ้าจะสามารถปกปิดมันไว้ได้ตลอดไป? เจ้านี่มันโง่ยิ่งกว่าโง่จริง ๆ ในเมื่อเจ้าทำเช่นนี้ไปแล้วมันก็เท่ากับว่าเจ้าได้ทิ้งโอกาสรอดสุดท้ายของเจ้าไปเรียบร้อย!” ไล้กวนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาคนอื่น ๆ ต่างก็มองไปที่มี่ตั้วตั้วอย่างเย็นชา พวกเขาไม่สามารถมองเห็นความลับของเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ได้และต่างคนต่างคิดแค่ว่าเจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ได้ถูกหลอมรวมกับตราคำสั่งของอสูรทมิฬโดยความตั้งใจของมี่ตั้วตั้วเพื่อปกปิดมัน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้พวกเขาสงสัยคือ ทำไมตราคำสั่งของอสูรทมิฬจึงสามารถหลอมรวมกับสมบัติวิเศษชนิดอื่นได้กัน?
นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
หม่าตงเฉิงยิ้มเยาะและพูดขึ้น “ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราจะต้องกำจัดเขาทิ้งก่อน มิฉะนั้นถ้าเขายังอยู่ พวกเราจะไม่สามารถใช้ตราคำสั่งของอสูรทมิฬได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)