บทที่ 183 ขอทานตัวเหม็น
บทที่ 183 ขอทานตัวเหม็น
เดิมทีอาจารย์หลายคนไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาเผชิญในศาลาศักดิ์สิทธิ์
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขากลับไปสอนที่คณะเดิมและเริ่มชั้นเรียน พวกเขาค้นพบปัญหาใหญ่หลวง ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาพวกเขาเข้าชั้นเรียนที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์บ่อยครั้ง หลังจากฟังบทเรียนแล้วพวกเขาก็จะมาถ่ายทอดความเข้าใจและความรู้ให้กับนักศึกษาในคณะตน ดังนั้นความรู้ของนักศึกษาก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ดี แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกปิดผนึกการรู้แจ้งเต๋าของตนเอง รวมไปถึงลืมสิ่งที่ได้เรียนรู้และนำมาสอนทั้งหมดไปแล้ว เมื่อเผชิญคำถามของนักศึกษาเหล่านี้ พวกเขาจึงไม่สามารถตอบอะไรได้เลย
“อะไรนะ!? ขอบเขตประสานทะเลปราณมีระดับ 12 ด้วยเหรอ แล้วต้องฝึกยังไงถึงจะไปถึงระดับ 12 ได้??”
“นี่มันวิธีการหลอมโอสถอะไรกัน ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน!?”
“เกิดบ้าอะไรกันขึ้น นี่มันมีวิธีการสร้างสมบัติแบบไหนกัน ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินแต่แล้วทำไมพวกเจ้าถึงรู้จักมันกันหมดเลย!?”
“……”
บรรดานักศึกษาต่างมองไปยังอาจารย์ของตัวเองราวกับว่ามองไปยังตาแก่ที่สติฟั่นเฟือนไปหมดแล้ว
พวกเขาต่างคิดในใจกับตัวเองคล้ายคลึงกัน ก็นี่ไม่ใช่บทเรียนที่ท่านพึ่งสอนไปเมื่อวานไม่ใช่เหรอไง? แล้วท่านจะมาลืมพวกมันเอาดื้อ ๆ วันนี้ได้ไงกัน?
เมื่อการสอนยิ่งดำเนินไปเหล่านักศึกษาก็เริ่มบ่นอาจารย์ของพวกเขาทีละคน
ส่วนกลุ่มอาจารย์ที่โดนคาถาซุ่มเสียงแห่งเทพอสูรไปนั้น ตอนนี้พวกเขาเดือดร้อนอย่างมาก เพราะพวกเขา ‘ไม่รู้’ จริง ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นกว่าเดิมก็เกิดขึ้น เมื่อเหล่าผู้อาวุโสของสถาบันที่หายหน้าหายตาไปจากสถาบันราชวงศ์มานานแล้ว จู่ ๆ ก็เดินเข้ามาในแต่ละคณะ และพวกเขาเริ่มสั่ง ‘งานแปลก ๆ’ ให้พวกเขาทำ
อันที่จริงบรรดาอาจารย์และคณบดีของแต่ละคณะนั้นก็ไม่ชอบใจเช่นกันที่จู่ ๆ พวกเขาก็ต้องมาโดนผู้อาวุโสเหล่านี้ชี้ไม้ชี้มือสั่งตามใจชอบ แต่เมื่อพวกเขาคิดถึงว่าบรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ล้วนเป็นตัวตนระดับสูงในขอบเขตรวมแสงดาราและพวกเขายังมีความรู้เหนือกว่า ดังนั้นบรรดาอาจารย์เล็ก ๆ อย่างพวกเขาจะทำอะไรได้?
ตัวอย่างเช่น หลูเทียนหมิง คณบดีของคณะโอสถศาสตร์ เขาได้รับการชี้แนะเส้นทางเต๋าโอสถของตัวเองมาจากตันเหริน และตอนนี้ตันเหรินกำลังจะมาเป็นคณบดีคณะโอสถศาสตร์แทน เขาจะกล้าบ่นได้อย่างไร? เขาจึงทำได้เพียงแค่สละตำแหน่งให้เท่านั้น
ไม่ต้องพูดถึงหลูเทียนหมิง แม้แต่จิ๋นห้าวหมิงยังต้องสละตำแหน่ง อย่างไรก็ตามจิ๋นห้าวหมิงได้เปรียบกว่าหลูเทียนหมิงก็ตรงที่เขามีระดับการบ่มเพาะที่สูงถึงขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 5 และเขายังเป็นหนึ่งในบรรดาอาจารย์ 25 คนที่ไม่ได้ลุกขึ้นยืน เขาจึงยังคงได้รับตำแหน่งรองคณบดีคณะศาสตร์ยุทธ ส่วนหลูเทียนหมิงถูกลดตำแหน่งลงมาให้กลายเป็นอาจารย์ธรรมดาคนนึง
ในตอนนี้สถานการณ์ในคณะอื่น ๆ ของสถาบันราชวงศ์เปลี่ยนไปทุกวัน มีเพียงคณะเดียวที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยก็คือคณะเตรียมทหาร
หลายคนที่ได้รับผลกระทบ และสังเกตเห็นข้อยกเว้นนี้ พวกเขาจึงหันไปจับตาดูความเคลื่อนไหวขององค์จักรพรรดิ เพื่อรอดูว่าจะปฏิกิริยาใด ๆ ตอบโต้ออกมาบ้างไหมเพื่อที่พวกเขาจะสามารถหวังพึ่งได้บ้าง
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีการตอบรับใด ๆ
ในความเป็นจริงไม่ใช่ทางราชวงศ์ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จักรพรรดิเหลียงซานนั้นบอกให้คนของเขาจับตาดูความเคลื่อนไหวและเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้อยู่แล้ว แต่ในตอนนี้เขาเลือกที่จะยังไม่ทำอะไรก่อน เนื่องจากเขายังไม่แน่ใจในสถานะของหลิงตู้ฉิง
“ฝ่าบาท…” ผู้อาวุโสในชุดคลุมสีเทามองไปที่เหลียงซาน
เหลียงซานโบกมือปัดด้วยความรำคาญและพูดว่า “ลืมไปซะ อย่าไปใส่ใจไอ้พวกไร้ค่าพวกนั้น กับอีแค่ข้าสั่งงานง่าย ๆ อย่างหาข้อมูลของหลิงตู้ฉิงมาเพิ่ม พวกมันยังทำไม่ได้ แถมยังพลาดท่าถูกฆ่าตายอีกต่างหาก พวกไร้ความสามารถแบบนี้ตาย ๆ ไปบ้างได้ก็ดี ยิ่งมีพวกมันเยอะก็ยิ่งเลี้ยงเสียข้าวสุก! ส่วนความวุ่นวายในสถาบันราชวงศ์ เรายังไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมัน ตราบใดที่คณะเตรียมทหารยังคงไม่ถูกแทรกแซง ยังไงซะพวกนักศึกษาที่จบออกมาก็ต้องกลายมาเป็นหมากให้ข้าอยู่ดี”
ชายชราชุดเทายิ้มอย่างขมขื่น แต่ไม่พูดอะไร
“มีข่าวจาก จางหมิงบ้างไหม?” เหลียงซานหยุดชั่วขณะก่อนที่จะถามอีกครั้ง
ชายชราส่ายหัวและพูดว่า “จางหมิง เพียงแค่แจ้งกลับมาว่าเขาพบร่องรอยบางอย่าง แต่เขายังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกพักถึงจะได้เรื่องขอรับ”
เหลียงซานพยักหน้าช้า ๆ พลางคิดอะไรบางอย่างเขาถามอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันไปก่อน แล้วเรื่องของสวนร้อยพฤกษาล่ะ?”
ผู้อาวุโสในชุดคลุมสีเทาส่ายหัว “ข้ายังหานางไม่เจอเลยฝ่าบาท! ศิษย์ของพวกเขาซ่อนตัวได้ดีจริง ๆ จนป่านนี้นางยังไม่พลาดทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย ในตอนแรกข้าคิดว่านางถูกซ่อนอยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ แต่เมื่อข้าส่งคนไปตรวจสอบแล้ว ในท้ายที่สุดคน ๆ กลับกลายเป็นยามยืนอยู่ที่ทางเข้าของคฤหาสน์สราญรมย์นั่นแหละ”
เหลียงซานพูดอย่างเหยียดหยาม “ข้าบอกเจ้าไปตั้งนานแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์นั่น ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อข้า! ถ้านางอยู่ในนั้นจริง ๆ ด้วยความคุ้มครองของหลิงตู้ฉิง นางจะจำเป็นต้องซ่อนตัวไปทำไม? เฮ้อ…เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนด้านโอสถของสวนร้อยพฤกษา ข้าคงจะต้องใช้วิธีพิเศษเพื่อช่วยพวกเขาค้นหาสักหน่อยแล้ว”
“ฝ่าบาท ข้าคิดว่าเรื่องราวของศิษย์หญิงคนนี้มันออกจะดูแปลก ๆ ไปหน่อย ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมสวนร้อยพฤกษาถึงได้ร้อนรนขนาดนี้?” ชายชราถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)