พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 198

บทที่ 198 แผนการรับสมัครคนของสำนักต่างทวีป[ฟรี]
บทที่ 198 แผนการรับสมัครคนของสำนักต่างทวีป[ฟรี]

หลังจากจัดการเรื่องเหมยจู้แล้ว หลิงตู้ฉิงก็ไม่ได้ชี้แนะอะไรกับนักศึกษาคนอื่นอีก

เนื่องจากเขาไม่ได้มาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์เกือบ 2 เดือน เขาจึงต้องทำความเข้าใจสภาพของนักศึกษาทุกคนโดยการเฝ้าดูก่อน

ทุกคนเริ่มการฝึกของตัวเองตามปกติ

หลังจากนั้นไม่นาน จ้าวปาเทียนเดินเข้ามาในศาลาศักดิ์สิทธิ์อย่างเร่งรีบ เมื่อเขาเห็นหลิงตู้ฉิง เขาจึงรีบเดินเข้ามาด้านข้างแล้วถามว่า “ทางเจ้าเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้สถานการณ์หนักหนาสาหัสแค่ไหน?”

ข่าวของผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์แพร่กระจายไปทุกหนทุกแห่ง นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้มาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ทุกคนก็รู้ว่าเกิดปัญหา แต่สิ่งที่ทุกคนไม่แน่ใจคือปัญหาใหญ่แค่ไหน?

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”

“ดีแล้ว ๆ” จ้าวปาเทียนพยักหน้า “แล้วไอ้เรื่องผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์อะไรนั่นมันคืออะไรกันแน่ ในชีวิตของข้า ข้ายังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันเลย ให้ข้าดูหน่อยได้ไหมว่าผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์รูปร่างเป็นยังไงกันแน่?

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและพูดว่า “อันที่จริงท่านก็เคยเห็นนางมาก่อน โจวจื่อซิน ก็คือผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์ตามที่เขาร่ำลือกันนั่นแหละ”

จ้าวปาเทียนตกใจและพูดว่า “หา! ไม่ใช่ว่านางเป็นคนเหมือนพวกเรางั้นเหรอ? แล้วที่หลายคนบอกว่าพวกเขาต้องการกินผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์ นี่ไม่ใช่หมายความว่าพวกเขาต้องการจะกลายเป็นพวกกินคนงั้นเหรอหรือว่ายังไงข้าไม่เข้าใจ?”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเฉยเมย “ในสายตาของหลาย ๆ คน ผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์เป็นเพียงโอสถระดับสวรรค์ชนิดหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถือว่านางเป็นคน”

หลิงตู้ฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกอะไรต่อเรื่องการนำคนมาหลอมเป็นโอสถมนุษย์และนำมากินแบบนี้มากนัก

เนื่องจากหากเป็นชีวิตชาติที่แล้วของเขา หากเขาได้รู้ข่าวแบบนี้ว่ามีผู้ครองสายเลือดพฤกษาสวรรค์ปรากฎตัวขึ้น และถ้าหากเขาต้องการใช้ประโยชน์จากมันเช่นกัน เขาเองก็คงเข้ามาร่วมวงแย่งชิงด้วยแน่นอน ต้องไม่ลืมว่าชาติที่แล้วหลิงตู้ฉิงได้บ่มเพาะเส้นทางเต๋าไร้อารมณ์มาโดยตลอด เขาปราศจากทุกอารมณ์ธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งรวมไปถึงความผิด ชอบ ชั่ว ดี ในห้วงตรรกะเหตุผลของเขามีแต่การทำตามความต้องการ

อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้เขาฝึกฝนเต๋าตู้ฉิง แม้ว่าเขาจะยังมีความต้องการ แต่ความคิดหลายอย่างของเขานั้นได้เปลี่ยนไปมาก

เปลือกตาของจ้าวปาเทียนกระตุกก่อนที่เขาจะพึมพำกับตัวเอง “คนพวกนี้คงบ้าไปแล้ว เฮ้อ แต่ช่างเถอะยังไงซะข้าก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วยอยู่ดี นี่มันไม่ใช่เรื่องที่คนอ่อนแออย่างข้าจะมีส่วนร่วมได้”

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่จ้าวปาเทียนได้พบกับหลิงตู้ฉิง เขาได้รับประสบการณ์และเห็นโลกกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดเขาก็รู้ว่าความแข็งแกร่งของขอบเขตรวมแสงดาราของเขาไม่อาจนับเป็นอะไรได้เลยหากเทียบกับผู้คนจากโลกภายนอก

“โอ้ใช่! ข้ามีบางอย่างที่ข้าต้องการจะถามเจ้า หลายสำนักได้ส่งข้อความมาเพื่อเตรียมที่จะมาที่สถาบันของเราในเดือนมีนาคมปีหน้าเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?” จ้าวปาเทียนถาม

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเฉยเมย “ท่านเป็นอธิการบดีของสถาบันราชวงศ์ ท่านควรตัดสินใจด้วยตัวเองในเรื่องนี้ ต่างถ้าหากจะถามความเห็นของข้า ข้าสามารถบอกได้ว่าในบางด้าน การฝึกฝนในสำนักก็ดีกว่าในสถาบันการศึกษามาก ยิ่งไปกว่านั้นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสำนักก็ยังแข็งแกร่งกว่าสถาบันราชวงศ์อย่างเทียบไม่ติด สำหรับนักศึกษาหลาย ๆ คน นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีของพวกเขา”

จ้าวปาเทียนพูดอย่างรวดเร็ว “นี่เจ้าไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าข้ากำลังหมายถึงอะไร? ที่ข้ากำลังหมายถึงก็คือ เจ้าคิดว่าคนจากสำนักต่าง ๆ จะเหลียวตามองพวกนักศึกษาธรรมดางั้นเหรอไง? คนที่พวกเขาน่าจะเลือกมากที่สุดก็คือนักศึกษาในศาลาศักดิ์สิทธิ์ของเจ้านี่แหละ”

“เจ้าใช้ความพยายามมามากในการฝึกฝนนักศึกษาของเจ้าเอง ถ้าหากพวกเขาถูกบรรดาสำนักดึงตัวจากไป นี่จะถือว่าเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงของเจ้าเชียวนะ! เอาแบบนี้ไหม? ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้บรรดาสำนักมาคัดเลือกศิษย์ ข้าจะได้ปฏิเสธพวกเขาไป”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าแค่ให้คำแนะนำนิดหน่อยแก่พวกเขาเท่านั้น นี่ท่านคิดว่าข้ามองพวกเขาเป็นศิษย์ของข้ารึ? พูดตามตรงถึงแม้ว่าจะมีบ้างบางคนที่ดูน่าสนใจกว่าคนอื่น ๆ เล็กน้อย แต่พวกเขาก็ยังห่างไกลจากคุณสมบัติที่จะเป็นศิษย์ของข้า! แม้ว่าข้าจะเป็นคณบดีของศาลาศักดิ์สิทธิ์ แต่ศาลาศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นหนึ่งในคณะของสถาบันราชวงศ์ ดังนั้นพวกเขาไม่ใช่คนของข้าแต่เป็นของท่าน ถ้าพวกเขาเต็มใจที่จะอยู่ต่อข้าจะชี้แนะให้พวกเขาเมื่อข้ามีเวลาก็แค่นั้น”

“ทุกคนล้วนมีวาสนาของตัวเอง ดังนั้นการบังคับให้พวกเขาอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์ ทางเลือกของพวกเขาถูกกำหนดจากวิจารณญาณส่วนตัวของพวกเขาไว้แล้ว ข้าไม่สนใจว่าพวกเขาต้องการย้ายไปเข้าสำนักต่าง ๆ เพื่อฝึกฝนหรือว่าอะไร ตราบใดที่ในอนาคตพวกเขาไม่มาเป็นศัตรูกับข้า ดังนั้นท่านไม่จำเป็นต้องถามข้าเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย”

จ้าวปาเทียนพูดด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน “เอาล่ะ ข้าจะตกลงให้สำนักเหล่านั้นมาคัดเลือกคนก็แล้วกัน จริง ๆ แล้วสำนักทั้งหมดที่จะมานั้นเป็นสำนักใหญ่ ๆ ที่มีแต่คนแข็งแกร่งทั้งนั้น นี่ก็ผ่านมามากกว่าร้อยปีแล้วที่พวกเขาไม่ได้มาปรากฎตัวที่อาณาจักรจันทราเพื่อรับสมัครศิษย์ ข้าคิดว่าในครั้งนี้ที่พวกเขามานั่นก็เนื่องจากชื่อเสียงของเจ้า พวกเขาคงจะเห็นโอกาสอะไรบางอย่างที่นี่ หรือไม่บางทีพวกเขาอาจจะมาเชิญตัวเจ้าไปอยู่กับพวกเขาก็เป็นได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)