หลิงตู้ฉิงที่ใช้เวลาทั้งคืนในการคิดหาวิธีบำเพ็ญเพียร เริ่มหาวออกมาด้วยความง่วงขณะเดินพาหลิงยู่ชานไปยังสถาบันหงส์เพลิง
หลิงยู่ชานที่เดินอยู่ข้าง ๆ เห็นดังนั้นก็พูดว่า “ท่านพ่อ ท่านอย่าให้ตัวเองเหน็ดเหนื่อยหรือเป็นกังวลมากเกินไป หลังจากข้าสอบผ่านแล้ว ด้วยสถานะนักเรียนของสถาบันหงส์เพลิง ระหว่างที่ข้าเรียนจะต้องมีคนอยากได้ข้าไปช่วยงานในร้านค้าของพวกเขาแน่นอน”
“ข้าจะขยันทำงานจะได้มีเงินเยอะ ๆ มาจุนเจือตระกูลของเรา ท่านก็อย่าได้ตรากตรำไปมากกว่านี้เลย ท่านต้องดูแลสุขภาพของตัวเอง เมื่อข้าเล่าเรียนสำเร็จข้าจะทำให้ท่านสุขสบายมากกว่านี้และข้าจะดูแลน้องชายน้องสาวของข้าให้ดี”
หลังจากได้ฟังความในใจของหลิงยู่ชาน หลิงตู้ฉิงก็ลูบหัวบุตรของเขาพลางถอนหายใจ “ยู่ชาน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนั้นไป ในไม่ช้าพ่อจะทำให้เจ้าและน้อง ๆ ของเจ้าทุกคนสุขสบายขึ้น”
เมื่อเขาถอนหายใจ จิตของหลิงตู้ฉิงก็เริ่มบำเพ็ญเพียรตามวิถีแห่งเต๋าอารมณ์สุขสันต์ พลังวิญญาณพุ่งเข้ามายังร่างกายของเขาและชำระล้างร่างกายที่อ่อนแอ เพียงพริบตาการบำเพ็ญเพียรของหลิงตู้ฉิงก็ได้พัฒนามาถึงระดับแรกของขอบเขตหลอมรวมลมปราณแล้ว
หลิงตู้ฉิงเมื่อรู้สักได้ถึงการพัฒนาตนเองอย่างฉับพลัน เขาพึมพำในใจอีกครั้ง “อารมณ์นี่เป็นของดีจริง ๆ ทำไมข้าถึงได้ละทิ้งอารมณ์ในชาติก่อนนี้กันนะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง หลิงยู่ชานตาแดงก่ำ เขาก้มหัวลงตั้งสัตย์สาบานว่าต้องผ่านการทดสอบของสถาบันหงส์เพลิงให้ได้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้แก่พ่อของเขา
หลิงยู่ชานคิดว่าเขาคือกำลังสำคัญของตระกูล เขาเป็นบุตรคนแรกที่หลิงตู้ฉิงรับมาอุปการะ
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้เห็นถึงความเมตตาของหลิงตู้ฉิงที่อุปการะบุตรบุญธรรมอีก 6 คนนอกจากเขา หลิงตู้ฉิงผู้ซึ่งไม่สามารถบำเพ็ญเพียรได้แต่ก็ยังคงยืนกรานที่จะช่วยเหลือดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา หลิงยู่ชานใช้เวลาไม่นานเลยในการยอมรับหลิงตู้ฉิงเป็นพ่อของตนเองอย่างหมดใจ
อย่างไรก็ดีบนโลกใบนี้ความแข็งแกร่งนั้นคือทุกสิ่ง แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะพยายามมอบสิ่งดี ๆ ที่ตัวเองมีให้แก่พวกเขา แต่ความสามารถของหลิงตู้ฉิงนั้นก็มีจำกัด
ดังนั้นในฐานะที่เขาเป็นบุตรคนโต เขาต้องแบ่งเบาภาระให้กับพ่อของเขา คู่พ่อลูกสองคนเดินคุยกันใช้เวลาในช่วงเช้าร่วมกันจนในที่สุดก็มาถึงทางเข้าสถาบันหงส์เพลิง
วันนี้เป็นวันทดสอบเข้าอย่างเป็นทางการของสถาบัน จึงมีผู้คนมากมายเดินทางมาที่นี่ด้วยรูปแบบการเดินทางที่แบ่งแยกชนชั้นได้อย่างชัดเจน สังเกตได้จากที่หน้าทางเข้าสถาบัน ตระกูลต่าง ๆ ที่ร่ำรวยจะโดยสารรถม้าประจำตระกูลที่ดูหรูหรา ในขณะที่ผู้คนธรรมดาต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อเดินเท้ามาที่สถาบัน
“เฮ้! ไอ้เด็กแซ่หลิง! ในที่สุดเจ้าก็ออกจากชั้นเรียนเตรียมพื้นฐานของสถาบันหงส์เพลิงเพื่อเข้ารับการทดสอบแล้วใช่ไหม?” หัวเด็กชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากรถม้าแล้วถามไปหัวเราะไป “แล้วนี่พ่อของเจ้ารู้หรือเปล่าว่าค่าเล่าเรียนในชั้นเรียนปกติของสถาบันหงส์เพลิงอะ พ่อของเจ้าต้องจ่าย 50,000 เหรียญทองต่อปีเลยนะ พ่อยาจกของเจ้าจะหามาจ่ายได้เหรอไง ฮ่าฮ่าฮ่า”
หลิงยู่ชานเหล่ตามองไปยังเจ้าของเสียงด้วยความขุ่นเคือง พลางเผลอกำมือของหลิงตู้ฉิงไว้แน่น
แน่นอนว่าหลิงยู่ชานรู้ว่าค่าเล่าเรียนของสถาบันหงส์เพลิงแพงแค่ไหน อย่างไรก็ตามตัวเขาเองทราบดีว่าหากเขาไม่ได้จบจากสถาบันที่มีชื่อเสียง การที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตก็คงยาก และถ้าเขาไม่ประสบความสำเร็จเขาจะตอบแทนหลิงตู้ฉิงที่อุปการะเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เด็กได้อย่างไร
ดังนั้นเขาจะต้องสอบเข้าสถาบันหงส์เพลิงให้ได้และเขาต้องคิดหาหนทางที่จะจ่ายเงินค่าเล่าเรียนด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรบกวนพ่อของเขา
หลิงตู้ฉิงเหลือบตามองลูกชายคนโตแล้วหันกลับไปมองรถม้า ตัวอักษร “米”(มี่) ตัวใหญ่สลักไว้บนนั้น
มันเป็นรถม้าของตระกูลการค้าใหญ่ในเมืองฟีนิกซ์ หลิงตู้ฉิงมองไปที่เด็กคนนั้นแล้วพูดว่า “ข้าจะหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนได้หรือไม่มันก็เป็นเรื่องของข้า ส่วนเจ้าหุบปากไว้จะดีกว่า! ไม่อย่างนั้นข้าจะไปแจ้งอาจารย์ของเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วคอยดูว่าพวกเขาจะลงโทษเจ้าอย่างไร”
เมื่อคนขับรถม้าได้ยินเสียงหลิงตู้ฉิงก็จ้องมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่เมื่อมีเสียงเอ็ดออกมาจากด้านในรถม้าทำให้เขาหยุดการกระทำของตัวเองทันที
“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้! อย่ารังแกคนยากจน!” เสียงใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังมาจากในรถม้าเตือนเด็กชายที่โผล่หัวออกจากตัวรถ
หลิงตู้ฉิงเหลือบตามองไปที่ด้านในรถม้าแต่ไม่ได้พูดอะไร เด็กน้อยตระกูลมี่มองหลิงตู้ฉิงด้วยแววตารังเกียจจากนั้นเขาจึงหดหัวกลับเข้าไปในรถม้าและไม่พูดอะไรอีก
เมื่อถึงเวลา 11. 00 น. ทุกคนที่ตั้งใจมาทดสอบก็มาถึงสถาบันหงส์เพลิงจนครบ สถานที่ทดสอบคือลานกว้างของสถาบัน ผู้คนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ รอเวลาที่การทดสอบจะเริ่มต้นขึ้น
เมื่อถึงเที่ยงวัน ในที่สุดประธานของการทดสอบก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
เขาเป็นชายหนุ่มที่มีสีหน้าท่าทางหยิ่งยโส อายุพอ ๆ กันกับหลิงตู้ฉิง เขายืนบนบนเวทีทดสอบและมองดูฝูงชนที่รอการทดสอบอย่างภาคภูมิใจ
ในขณะที่เสียงจ้อกแจ้กจอแจจากฝูงชนเงียบลง ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงก้องกังวาน “ข้า เจิ้นสีชวง เป็นอาจารย์ของสถาบันหงส์เพลิงและเป็นประธานในการทดสอบนี้ ตอนนี้ขอให้ทุกคนเงียบแล้วข้าจะอธิบายกฎของการทดสอบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)